จากกรณีแม่พาลูกสาว อายุ 20 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับอดีตสามี อายุ 43 ปี ผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ซึ่งก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวมาเป็นเวลานานหลายปี กระทั่งตั้งครรภ์และผู้เป็นย่าพาไปทำแท้งถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.1 หลังจากที่พ่อแม่ได้แยกทางกันและฝ่ายแม่ไปมีสามีใหม่ที่ต่างจังหวัด โดยลูกสาวอยู่กับพ่อใน จ.ชุมพร
กระทั่งต่อมาเมื่อปี 2558 ผู้เป็นแม่ถูกศาลพิพากษาความผิดคดีอาญา โทษจำคุก 3 ปี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ 2 เดือน ทำให้ลูกสาวทนพฤติกรรมผู้เป็นพ่อไม่ไหว จึงแอบหนีไปอยู่กับแม่ พร้อมกับเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด และตัดสินใจแจ้งความจับผู้เป็นพ่อ กระทั่งเมื่อวานนี้ ( 6 พ.ย.) ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนตามกฎหมายและควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังและเตรียมทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น (อ่าน :
แม่พาลูกสาวแจ้งความ โดนพ่อแท้ๆ ข่มขืน-ย่าพาไปทำแท้ง 2 รอบ)
วันที่ 7 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหา พบว่าบ้านของนายพรชัยปลูกอยู่ในซอยห่างจากถนนขุนกระทิง-ถ้ำสิงห์ เข้าไปเพียงเล็กน้อย โดยบ้านปูนชั้นเดียวแบบเรียบง่าย อยู่ระหว่างบ้านของพี่น้อง ใกล้กันคือบ้านของ นายสมชาย อายุ 71 ปี พ่อของนายพรชัย
นายสมชาย ผู้เป็นพ่อของผู้ข่มขืน หรือปู่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเพียงระแคะระคายในเรื่องที่ลูกชายกระทำสิ่งที่ไม่ควรทำกับหลานสาว แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน อีกทั้งหลานสาวก็ไม่เคยปริปากเล่าให้ตนฟังแต่อย่างใด จึงได้แต่ต้องข้อสงสัยไว้เท่านั้น
หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายพรชัยแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หากพบว่าทำผิดจริง ตนก็รู้สึกว่าเสียใจในสิ่งที่ลูกก่อขึ้น แต่ผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะยึดถือกฎหมายเป็นที่ตั้งมาโดยตลอด
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะเคยถูกนายพรชัยห้ามไม่ให้ยุ่งกับเรื่องส่วนตัว รวมถึงตนไม่อยู่คนละบ้านกัน ทำให้ตนไม่กล้าเข้าไปข้องเกี่ยว ซึ่งตนก็ชราและป่วยเป็นหลายโรค
ทั้งนี้ ลูกชายตนมีอาชีพทำสวนและรับจ้างตัดทุเรียนส่งขายตามล้งที่รับซื้อ จึงทำให้ต้องเสพยาบ้าอยู่เป็นประจำ ตนไม่ทราบว่าอารมณ์ของลูกชายจะดีจะร้ายตอนไหน และอาจจะเป็นไปได้เพราะฤทธิ์ยาบ้าที่เสพเข้าไปเป็นประจำ ทำให้ขาดสติก่อเหตุกระทำชำเราลูกตัวเอง