เมื่อวันที่ 26 ต.ค.64 เวลา 12.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทองในห้างโลตัส ถนนบางกรวย- ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน-ปราบปราม รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณชื่อ "ห้างทองเยาวราช" เลขที่ 888 ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของห้าง คนร้ายถูกจับกุมตัวได้ขณะวิ่งหลบหนีออกไปบริเวณหน้าห้าง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางบัวทองทันที
น.ส.ศิริพร อรุณสวัสดิ์ อายุ 30 ปี พนักงานขายร้านทอง เปิดเผยว่า คนร้ายมาคนเดียว มาขอดูทองและจะขอซื้อด้วยการรูดบัตร ตนจึงให้เลือกลายแต่เขาหยิบและวิ่งหนีไป คนร้ายอายุ ประมาณ 20 กว่า ๆ คนร้ายหยิบสร้อยคอเส้นละ 2 บาทไปทั้งหมด 2 เส้น หนักรวม 4 บาท ราคา 116,700 บาท ลักษณะคนร้ายแต่งตัวปกติ ใส่แมสก์ ซึ่งมีพลเมืองดีเข้าจับกุมได้ ทั้งนี้ เขาเป็นลูกค้าคนเดียวที่เข้ามาเลือกทองที่ร้านตอนนั้น และตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ส.ต.อ.นฤทธิ์ รุ่งโรจน์ ผบ.งานปรามปรามสน.สำราญราษฎร์ ที่วิ่งไล่กวดคนร้ายในห้างฯ จนจับตัวได้ทันควัน กล่าวว่า ตอนนั้นตนกำลังสั่งข้าว และได้ยินสัญญาณเตือนจากร้านทอง และเห็นคนร้ายวิ่งออกมา ตนจึงวิ่งตามไปกับน้องพลเมืองดีอีกหลายคน หลังจากจับกุมได้ตนจึงแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนร้ายจะได้ไม่ตกใจ คนร้ายไม่ได้ขัดขืน ตนจับคนร้ายได้ที่ศูนย์เด็กเล่นในห้างฯ
ขณะนั้นตนทิ้งข้าวที่ซื้อมาและต้องจับคนร้ายให้ได้ก่อน ตนรู้สึกว่ายินดีที่จับกุมคนร้ายได้โดยไม่มีความเสียหาย และไม่ได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย และฝากถึงคนร้ายว่าอย่าทำแบบนี้เลย เพราะอายุยังน้อยหมดอนาคตเปล่า ๆ
นายชินพันธ์ พยัคฆ์เวโรจน์ หรือ อั้ม อายุ 31 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ตนจบวิศวะไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร สาเหตุที่ตนต้องวิ่งราวทองในครั้งนี้ เนื่องจากตนได้นำเงินของลูกค้าไปเล่นพนันออนไลน์ บาคาร่า 30,000 บาท จนถูกไล่ออกจากงาน
จากนั้นก็ไปยืมเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาอีก 30,000 บาท และเล่นพนันออนไลน์ไปจนหมด ทำให้เป็นหนี้สินอยู่ 60,000 บาท ตนไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ จึงตัดสินใจก่อเหตุวิ่งราวทองในร้านทองดังกล่าว เพื่อจะนำเงินไปขายใช้หนี้ที่ติดค้างอยู่
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ตั้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อใช้ในการหลบหนี ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป