บริษัททัวร์เปิดมา 10 ปี แต่ 2 ปีที่ผ่านมาถูกสั่งปิดหมด มีรายได้เข้ามาบ้างไหม?
เอ๊าะ : ตั้งแต่เริ่มโควิดทุกอย่างเป็นศูนย์หมดเลย รายรับเป็นศูนย์ แต่รายได้เป็นศูนย์ แต่รายจ่ายเท่าเดิม ประคองอยู่อย่างนี้มา 2 ปีแล้ว
รายจ่ายต่อเดือนเท่าไหร่?
เอ๊าะ : เฉลี่ยนะอยู่ที่ 3 แสนกว่าบาท มันมีเรื่องของค่าออฟฟิศ มีค่าพนักงาน ทุกอย่างมันเหมือนเดิม ผมไม่ให้พนักงานออก ก่อนโควิดเป็นยังไงทุกวันนี้เป็นอย่างนั้น
ทำไมถึงไม่ยอมปลดพนักงาน?
เอ๊าะ : คือ ณ วันนั้นเราไม่รู้ว่าอันนี้มันคืออะไร โควิดเป็นยังไงเราไม่รู้จัก เราก็เริ่มค่อยๆ แก้ สิ่งแรกที่ต้องทำคืออยากจะรักษาพนักงานไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าโควิดมันจะยาวขนาดนี้ ก็รักษาพนักงานไว้ก่อน เพราะวันนึงที่มันพร้อมลูกค้าก็พร้อมจะบิน ต้องเล่าก่อนว่าก่อนโควิดงานเรามันแน่นจัด แล้ววันที่เกิดโควิดลูกค้าก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่เราบอกว่าพี่อย่าบินเลย มันไม่ปลอดภัย ทีนี้เราก็รู้แล้วเรามีลูกค้า ถ้าบินได้เราจะบินทันที
จริงไหมถ้าโควิดมันไปถึงธันวาคม เราจะปิดบริษัท?
เอ๊าะ : คิดไว้อย่างนั้น ตอนแรกคำพูดนี้คิดมาตั้งแต่ปีที่หนึ่ง ที่เริ่มโควิดมันยาวกว่าที่เราคิดมากเลย เดี๋ยวปิด เดี๋ยวเปิด เราเองก็ไม่กล้าไป เพราะไปเสร็จมันกักตัว 14 วัน
จากคนไม่มีหนี้ กลายเป็นหนี้?
เอ๊าะ : ประมาณ 8 ล้านกว่า เกือบ 10 ล้าน คือหนี้เรามีอยู่แล้วจากที่เราสร้างซื้อตึก ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้ออะไรไว้ แต่นี่มันคือหนี้ของการทำธุรกิจ
ถึงจุดนี้ทำไมพี่ถึงไม่ลดเงินเดือนพนักงาน?
เอ๊าะ : เงินเดือนพนักงานลดลง แต่ไม่ได้ให้เขาตกงาน
8 ล้านที่เป็นหนี้มันมาจากไหนบ้าง?
เอ๊าะ : มาจากการเช่าตึก เรื่องของตึกที่เราจะต้องผ่อนแบงก์อยู่ตลอดเวลา ห้าวไง อยากมีออฟฟิศ ซื้อตึกเลยผ่อนมา 10 ปี ส่วนค่าใช้จ่ายพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านู่นนี่นั่น เงินเดือนพนักงานทั้งหมดก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่มันน้อยลง รายรับมันไม่เข้า ที่นี้เราทำยังไง เงินส่วนตัวเราก็ออกไปประมาณนึงแล้ว แล้วก็มีกู้ธนาคารมาอีกนิดนึง มันทำให้โควิด 2 ปีล่อไปเกือบ 10 ล้าน
ภรรยาว่ายังไงบ้าง?
ก้อย : ตอนแรกมีปรึกษากันว่าจะปิดหรือไปต่อ พอรอบ3 เริ่มไม่ค่อยเห็นอนาคตแล้ว ก็เลยถามว่าปิดไหม ก็จบไป พี่เอ๊าะเขาบอกว่ามันยังมีโอกาส เพราะว่าลูกค้าเราก็รออยู่ ก็อดทนอีกนิด ถ้าปิดตอนนี้เราเป็นหนี้ 8 ล้าน 100% แล้ว แต่ถ้าเราไปต่อก็ลุ้นกันว่าเราอาจจะมีรายได้แล้วกลับมาใช้หนี้ตรงนี้ได้
เขาบอกว่าพี่เอ๊าะเคยคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเรื่องเป็นหนี้?
เอ๊าะ : จริง คือมันคิด ทำไงดี แต่ละวันมันมีปัญหาตลอด เหมือนคนเอามีดมาแทง นั่งอยู่เฉยๆ โอเคเรื่องนี้แก้เสร็จ แก้เรื่องนี้อีก ต้องหาเงินอีก เงินหาไม่ได้เลย ทำยังไงดี คือคิดตลอดเลย แต่ไม่มีเวลาฆ่าตัวตาย จนเราลืมไปแล้วว่าเราเคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ
พี่ก้อยรู้ไหม?
ก้อย : รู้คะ เหมือนเขาเครียด เขาก็เลยบอกว่าอยากตายเว้ย เราก็เข้าใจว่ามันเป็นอารมณ์ที่เครียดอยู่ แล้วก็เผลอพูดออกมา เราก็พยายามแซวเล่น ไม่ได้ทำให้มันเป็นเรื่องซีเรียสมากขึ้น ลูกยังไม่โตเลย
เอ๊าะ : ท้ายสุดมนุษย์พอมันอยู่กับปัญหานานๆ แก้ปัญหาทุกวัน แก้ไปเรื่อยๆ เราเหมือนได้รับวัคซีน ตัวเราก็เหมือนเก่งขึ้นเรื่อยๆ สมมติถ้าเราเจอแบบนี้อีกทีเราก็รู้แล้วว่าจะทำยังไง
คุณรักรถมาก แต่เพราะโควิดคุณต้องขายรถ?
เอ๊าะ : ขายหมดเลย คืออะไรที่เราไม่ได้ใช้เราขาย สองบัตรเครดิตเอ๊าะก็ไม่ใช้ ถ้าไม่มีเงินสดเท่ากับไม่ใช้ เราใช้ในสิ่งที่เรามี กลับมาดูว่าเรามีอะไร ก็ใช้เท่าที่มี
เสียใจไหม?
เอ๊าะ : ไม่เสียใจ เพราะมันไม่ต้องปิดบังเมียแล้ว
คุณก้อยรู้ไหมว่าเขาซื้ออะไรแล้วหมกเม็ดไว้ตามบ้านคน?
ก้อย : รู้ๆ
เอ๊าะ : ไม่ได้หมกตามบ้านครับผม ผมเอาไปจอดที่โฮเตลคาร์
โกรธไหมก้อย?
ก้อย : ไม่โกรธ แต่เป็นคนรู้อะไร แต่ไม่พูดมากกว่า
คู่นี้เขาอยู่คนละสาย แล้วมาเจอกันได้ยังไง?
เอ๊าะ : มันมีงานนึงก้อยต้องมารับผิดชอบแทนเพื่อน แล้วตอนนั้นเรากำลังท๊อปมาก แล้วเราก็เอาแต่ใจมาก เพราะเราเหนื่อยมาก
ก้อย : พอดีโทรไปแล้วพี่เอ๊าะเขารับสายพอดี ซึ่งปกติโทรไปเจอผู้จัดการตลอด แล้วพอเขารับเราก็บรีฟไปว่าอีเว้นท์พี่ต้องร้องเพลงนะ มีมีแบบนี้ ใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีขาว เขาก็มาเลย ทำไมต้องทำอย่างนี้ ทำไมพี่ต้องร้องเพลง พี่ไม่ใส่กางเกงสีขาว ใครเขาใส่กางเกงสีขาวกัน
เอ๊าะ : คือผมใส่สีขาวไม่ได้ ตูดผมใหญ่มาก
ก้อย : เขาก็เหวี่ยงๆ
ไปอีเว้นท์ชอบเขาไหม?
เอ๊าะ : ยังๆ มันมาเริ่มชอบตอนที่เราทำอีเว้นท์แล้ว เขาก็เจ๋ง งานมี 1 ทุ่ม ให้ผมไปบ่าย2 แล้วเขาขังผมไว้ในห้องเล็กๆ อนู่กับพริตตี้
แล้วไปเห็นเสน่ห์อะไรเขา?
เอ๊าะ : วันนึงผู้หญิงคนนึงไม่เคยสอบสัมภาษณ์ผมเลยแม้แต่คำเดียวว่าพี่อยู่ไหน พี่ทำอะไร คือเขาไม่เคยถามอะไรผมเลย แต่เราโดนถามหมดเลยนะ สองคือเขาไม่เคยตามมาดูหรือมาอะไรเราเลย เราก็เลยมีความรู้สึกว่าคืออะไรวะ จนวันนึงเราทำงานใกล้กันมากๆ จนมีความรู้สึกว่าผมแก้ปัญหาเรื่องทัวร์มันหนักมาก เพราะมันใหญ่เกินไป เจาก็ยังอยู่ข้างๆ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไม่รักเขาเลย แล้ววันที่ทำงานเจอกันครั้งแรก วันนั้นฝนตกแต่เขายืนอยู่ข้างเวทีตลอด ไม่ไปไหนเลย ผมถามว่าผมจะไม่รักเขาเหรอ เขาถอยไม่ได้เพราะเขามีหน้าที่เป็นสเตท
ก้อย : อันนี้คิดไปแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ต้องรักเราแน่ๆ
แล้วคุณเริ่มจีบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เอ๊าะ : วันนั้นเลย ก็ขอเบอร์เลย
เขาทำยังไงถึงชนะใจเราได้?
ก้อย : มันเป็นการคุยกันแบบปรึกษา เขาไม่ได้เชิงจีบ เหมือนคุยปรึกษาเรื่องงาน เขาก็จะให้คำแนะนำที่ดี
เราก็รู้อดีตเขาว่าเจ้าชู้ขนาดไหน ถึงขนาดผู้หญิงมาแสดงตัวเลยเหรอ?
ก้อย : มีบ้างๆ บางคนก็มาแบบแนวดีๆ บ้างๆ โทรมาแบบพี่เอ๊าะเขารักพี่มากนะ คือหนูเลิกยุ่งกับเขาไปแล้ว เขารักพี่มาก หนูเคยบอกให้เขาเลิกคุยกับทุกคน เขาบอกว่าเลิกได้ยกเว้นก้อยนะ ก็ไม่รู้จุดประสงค์เหมือนกันว่าบอกเพื่ออะไร
แล้วคนที่จับได้ที่โรงแรม?
เอ๊าะ : อันนี้มันก่อนแต่งงาน แล้วเราก็แบบมีงานพรุ่งนี้ เราไปล่วงหน้า 1 วันก็ไปเที่ยวสบาย ไปกับอีกคนนึง พอตกเย็นอารมณ์เหมือนเสี่ยใส่ผ้าลื่นๆ หนีบกระเป๋าเงิน เข้าห้อง ปิดประตู กำลังจะลั้นลา ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดปุ๊บเจอก้อยอยู่หน้าประตู เราก็ปิด
ผู้หญิงถามไหมว่าใคร?
เอ๊าะ : เราตอบอะไรไม่ได้แล้ว ติดอ่างไปหมด
เล่าสิรอดมาได้ยังไง?
เอ๊าะ : ทีนี้เสียงเคาะดังปังๆ เปิดใหม่ ก็ยืนอยู่เหมือนเดิม ก็ตั้งสติ เปิดไปก็ไปนั่งคุยกันข้างหน้า
ทำไมก้อยบินตามไป?
ก้อย : มันมีเหตุผู้หญิงเขาแสดงให้เราเห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ผู้หญิงคนนี้เขาก็ดีกับเรานะ อันนี้พูดตรงๆ ถ้าเป็นคนอื่นเราก็คงไม่ตามไป เราก็ไปดูให้มั่นใจ จริงๆ เราเห็นก่อนหน้านั้น คือเราเห็นรถกอล์ฟวิ่งมา เราก็หลบอยู่ในพุ่มไม้ เขาก็เดินอยู่หน้าเรา แล้วเข้าห้องไป
โกรธไหม?
ก้อย : ก็โกรธ ใช่คนที่เราคิดจริงๆ
ยื่นคำขาดให้เลิกไหม หรือถามไหมว่าจะเอายังไง?
ก้อย : ถามๆ ว่าเอายังไง
เอ๊าะ : ก็ตามนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ขนาดนั้น
ก้อย : ไม่ได้สั่งให้เลิก แต่ให้ตัดสินใจมาเลยว่าจะเอายังไง
เอ๊าะ : วันนั้นก็เดินกลับไปเอาของ แล้วไปนอนห้องก้อย ถึงห้องแล้วนอนเลย เราไม่ได้แก้ตัวอะไรมาก มันก็ขำ มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ
จริงไหมที่เอ๊าะมีกินเล็ก กินน้อย เพราะก้อยไม่ยอมให้มีอะไรด้วย?
ก้อย : จริงคะ
ทำไมหวงตัวเองกับผู้ชายคนนี้?
ก้อย : ทุกคน ไม่ได้ว่าคนนี้ คือเป็นคนหัวโบราณ
คุ้มค่ากับการรอไหม?
เอ๊าะ : ที่สุด ตาเหลือกเลย
พอแต่งงานแล้ว พี่หยุดไหม?
เอ๊าะ : หยุดตั้งแต่วันนั้นเลย พอแต่งงานแล้วทุกอย่างมันยุ่ง มันไม่มีเวลา ผมรักเขา
แล้วทำไมคุณถึงปิดบังเรื่องแต่งงาน?
เอ๊าะ : คืออย่างนี้ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเขาควรจะมีพื้นที่ของเขา เพราะเขาคือคนธรรม อยากให้เขาใช้ชีวิตกับเพื่อนของเขา เราก็พยายามเซฟเขาไว้ที่สุด
งานแต่งจัดเล็กๆ ซึ่งญาติพี่ก้อยไม่โอเค?
เอ๊าะ : วันนั้นญาติโอเค แต่ว่ามีบางท่านที่ไม่โอเค เราก็เลยเรียกคุยสบายๆ คือผมแค่อยากประหยัดเงิน ที่ต้องเอาไปจ่ายค่าต่างๆ เอาให้เขาไปเลย แต่ก็สัญญากับเขานะว่าวันนึงพ่อจะจัดงานฉลองสมรสให้ พ่อ แม่ ลูก
เขาไม่พาเราออกสื่อ อึดอัดไหม หรือเราชอบ?
ก้อย : เฉยๆ เพราะว่าคบกันมาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ออกสื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
อยากบอกอะไรกับก้อย?
เอ๊าะ : ขอบคุณก้อยมาก ขอบคุณญาติๆ ของก้อยด้วยที่กรุณาครอบครัวเล็กๆ ของผม แล้วก็ขอบคุณที่กรุณาผู้ชายคนนี้ให้เขาคิด เขาทำ แล้วก็ขอบคุณก้อยจริงๆ ที่เปิดพื้นที่ให้เอ๊าะได้คิดและทำ และอยู่เคียงข้างไม่มีวันไหนที่ไม่เห็นเขาเลย ท้ายสุดความรักมันคือความเข้าใจจริงๆ นะ และนี่มันมากกว่ารัก มันคือความเข้าใจ
ก้อย : ก็ขอบคุณเขาเหมือนกัน เขาเป็นผู้ชายที่เกินความคาดหวัง ตั้งแต่คุยกันมา แต่งงาน มีลูกเขาเขาก็ดูแลลูก เราไม่คิดว่าเขาจะเป็นได้ขนาดนั้น หลังจากแต่งงานก็เปลี่ยนไปเลย ทุกอย่างเขาโอเคหมดเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดหมดเปลือกเส้นทางชีวิตของ ติช่า กันติชา และปมในใจระหว่างพ่อเลี้ยง
- เอ๋ มิรา ศาลนัดไต่สวน 8 พ.ย.นี้ กรณีถูกอดีตสามีฟ้องหมิ่นประมาท!
- เจนนี่ ไม่ต้องการอะไรมากขอแค่คนที่ทำให้เรามีความสุขก็พอ ลั่นตอนนี้เจอแล้ว!
Advertisement