หมู พงษ์เทพ เผยวินาทีที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง ถึงขั้นเล่นกีตาร์ไม่ได้

28 ต.ค. 64

กวีศรีชาวไร่ เป็นสมญานามของ น้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตที่เป็นผู้ที่ใช้ภาษาและการเขียนหนังสือ ด้วยถ้อยคำกวีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและกลิ่นอายของชนบท น้าหมู พงษ์เทพ ถือเป็นศิลปินเพื่อชีวิตระดับตำนานของประเทศไทย น่าจะเป็นศิลปินไม่กี่คนที่เล่นคอนเสิร์ตยาวนาน 4-5 ชั่วโมงต่อเนื่องกันในรูปแบบคนพูดเพลง ซึ่งหมายถึงการพูดให้ความบันเทิง เล่าเรื่อง เล่านิทาน ด้วยมุขตลก สลับกับการร้องเพลงไปด้วย และนี่คือบทสัมภาษณ์ น้าหมู แบบเต็มรูปแบบทั้งเรื่องราวชีวิต และความรัก

เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show น้าหมู พงษ์เทพ ก็ได้เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก เผยวินาทีแรกที่รู้ว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถึงขั้นเล่นกีตาร์ไม่ได้จนถึงตอนนี้ พร้อมเปิดชีวิตที่น่าจะอาภัพเพราะหวงแหนความเป็นตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนอะไร ถ้ามีผู้หญิงต้องอยู่คนละบ้าน อยู่คนละอำเภอ และครั้งหนึ่งเคยโดนผู้หญิงขอแต่งงาน ขอให้มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งในชีวิตไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน จนกระทั่งเจอผู้หญิงคนนี้! แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงบอกว่า ถ้าจะแต่งงานต้องเลิกร้องเพลงแล้วมาค้าขาย... พร้อมเล่าถึงด้านงานเพลงในช่วงแรกอยากโชว์เพลงของตัวเอง เลยขอแอ๊ด คาราบาว ขึ้นไปร้องได้ท่อนเดียวโดนโห่จนต้องลงมานั่งร้องไห้ข้างเวที เผยประสบการณ์ทำเพลงดีแต่ไม่มีใครฟังของ น้าหมู พงษ์เทพ

s__77807926

ถาม อันนี้เรียกว่า น้าหมู เป็นสมาชิกของคาราบาวไหม??

หมู พงษ์เทพ : ไม่เขาชวนอยู่ แต่เราไม่เป็น วันหนึ่งที่คาราบาวไปเล่นที่มหาวิทยาลัยเกษตรบางเขน เราก็บอกแอ๊ดๆ ขอขึ้นไปร้องหนึ่งเพลง แต่พอเราขี้นไปร้องได้ท่อนเดียว มันโห่เลย ไม่เอา เพลงอะไรไม่รู้เรื่อง จะเอาคาราบาว เราต้องลงมาจากบนเวที มานั่งร้องไห้ แล้วเล็กเขาก็เดินมาปลอบใจ เพลงพี่นี่ดีมากเลยนะ เราก็มองหน้าเพลงดีอะไร ทำไมมันไม่ฟัง (หัวเราะ)


ถาม ก่อนหน้านี้เราจะได้ยินข่าวกันที่ทำให้เราเป็นห่วงพี่หมู

หมู พงษ์เทพ : เป็นมะเร็งครับ มีวันหนึ่งเล่นที่พระราม 2 เล่นอยู่กลางๆ เพลงนะ ขอโทษนะ อึราดเลย เราเลยไปส่องกล้องเจอมะเร็งเป็นระยะสุดท้ายที่จะเข้าไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว เราก็ขายทุกอย่างเลย ขายรถ ขายบ้าน ขายม้า กีตาร์ เกือบหมดตู้ขายหมดทุกอย่างเลย แต่ที่มันโหดร้ายคือแขนของเราหมดความรู้สึก เดี๋ยวนี้คือเล่นกีตาร์ไม่ได้เลย ได้แต่อุ้มไว้


ถาม เพราะพี่หมูหวงแหนความเป็นตัวเองมาก ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนอะไรเลย
??

หมู พงษ์เทพ : ชีวิตผมมันน่าค่อนข้างจะอาภัพนะ เหมือนโบราณที่บอกว่าถ้าเรามุ่งมั่นเป็นศิลปิน มันจะต้องขายวิญญาณให้ซาตานนะ จะเจ็บจะปวดจะรวดร้าวยังไง ต้องยอมเหมือนซาตานมาเอาวิญญาณเราไป เพื่อเป็นข้อแลกให้เราเป็นศิลปิน ผมเป็นคนที่ห่วงแหนความเป็นตัวเอง จะไม่ให้ใครมาเปลี่ยนอะไรได้ แบบอยู่อย่างชาวบ้าน มานอนเตียงเดียวกัน มากินข้าวมื้อเย็นร่วมกันผมทำไม่ได้ ถ้ามีแฟนมีอะไรต้องอยู่กันคนละบ้าน หรือคนละอำเภอไปเลย


ถาม เคยไปเจอรักครั้งแรกในป่า
??

หมู พงษ์เทพ : ครั้งแรกที่เจอตอนอยู่ในป่านกเขาไฟ ผู้หญิงคนหนึ่งคือคนชนชาติลัวะ สวยมาก หัวล้านไปครึ่งหัวเพราะเขาเอาหนังคาดหัวแล้วพันแล้วแบกของขึ้น เขากล้ามน่องเขาเป็นมัดๆ เลยสวยมาก เขาจับงูมือเปล่าได้เลย เห็นไม่ได้คือวิ่งไล่จับเลยงู กลัวถูกกิน แล้วถ้าเรียกไม่ขานนะ เขาเรียกผมสหายแคน ถ้าเรียกแล้วไม่ขาน โดนกินเลยนะ (หัวเราะ) และคือเขาขอเราแต่งงานด้วย

s__77807929

ถาม และความรักที่อกหักที่สุด ??

หมู พงษ์เทพ : ที่หนักที่สุดแล้วก็สะเทือนที่สุดคือเพลงน้ำตาหอยทาก ผู้หญิงคนนี้เรารู้สึกว่าอยากจะแต่งงานด้วย เพราะชีวิตของผมไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งาน แต่คนนี้เราอยากแต่งด้วย เลยตัดสินที่จะแต่ง แต่ครอบครัวของเขาจะเป็นคนจีน แม่ของเขาก็เสนอว่าถ้าจะอยู่กับลูกเขา ต้องเลิกร้องเพลงแล้วมาค้าขาย ตอนนั้นคือเราอกหักเลย สภาพกินข้าวไปร้องไห้ไป


เผยวินาทีที่รู้ว่าเป็นมะเร็งของ หมู พงษ์เทพ พร้อมกับเปิดหัวใจที่ครั้งหนึ่งเคยโดนขอแต่งงาน และเรื่องเล่าอกหักครั้งใหญ่เจ็บหนักมากที่สุด รับชมพร้อมกัน วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ 16.30 น. ในรายการ Club Friday Show ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ที่เดียวเท่านั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส