จากกรณีเมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 28 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งมีชายตกตึกชั้น 3 ภายในแมนชั่นย่าน ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยไตรคุณธรรม
พื้นคอนกรีตชั้นล่าง พบนายเทวิน ลิม อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย นอนร้องครวญคราง สภาพมีบาดแผลที่ขาซ้าย และหัวเข่ากระดูกหักโผล่ออกมา สะโพกขยับไม่ได้ กู้ภัยภัยไตรคุณธรรมพยายามจะช่วยเหลือดามขา แต่นายเทวินร้องลั่นไม่ให้ดาม ทางกู้ภัยฯ จึงรีบนำส่ง รพ.วิภารามอมตะซิตี้
ซึ่งระหว่างกู้ภัยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ มี น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) คอยดูแลด้วยความเป็นห่วงตลอดเวลา ก่อนทราบว่าผู้บาดเจ็บเป็นคนสนิทที่แอบมาหา น.ส.เจี๊ยบ ตอนที่สามีไปฉีดวัคซีน กลับมาเปิดห้องเจอสภาพไม่สวมกางเกง ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะโดดหนีทางระเบียง
นายเชวง ลาพรมมา อายุ 32 ปี ทำงานบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี เปิดเผยว่า ตนเช่าห้องพักอยู่ชั้น 3 อยู่กับ น.ส.เจี๊ยบ อายุ 32 ปี เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย อยู่กันมา 7 ปีเ ช้านี้ตนไปที่โรงงาน เนื่องจากว่าตนจะต้องเข้าทำงานกะเช้าทุกวัน แต่วันนี้ทางบริษัทจัดให้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 หลังจากฉีดตนก็กลับมาบ้าน และพบว่ามีชายคนที่บาดเจ็บอยู่ในห้องกับเมียของตน สภาพไม่สวมกางเกง ตนจึงปิดประตูล็อก โดยให้นายเทวินไปอยู่ระเบียงหลังห้อง ตนปิดประตูไว้ และกำลังเคลียร์กับเมียอยู่ในห้องเพื่อสะสางปัญหาว่ามีอะไรเกิดขึ้น
สักพักก็ได้ยินเสียงหล่นลงไป โดยก่อนหน้านั้นเมียตนได้ยืดกางเกงและหมวกกันน็อกให้ชายดังกล่าวเอาไปด้วย ตนทำใจไม่ได้ ต้องแจ้งความข้อหาบุกรุก และเอาไว้เป็นหลักฐานในการอย่าตามกฎหมาย ซึ่งตนทั้ง 2 คนไม่มีลูกด้วยกัน แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาแต่ประการใด
นายชนพล (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะนั้นตนนอนพักผ่อนเตรียมเข้างานกะดึก ยังไม่ทันหลับสนิท เวลาประมาณ 11.00 น. ได้ยินมีอะไรบางอย่างตกลงมาเสียงดังมาก ในใจคิดว่าของหล่นจึงโผล่หน้ามาดูตรงระเบียง พบชายสวมหมวกกันน็อกสภาพกระดูกที่ร่างกายผิดรูป ร้องโอดโอย ตนเองก็คิดว่าเป็นขโมย จากนั้นไม่นานเห็นสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ตึกเดียวกันกับตนเดินลงมาพร้อมกัน ก่อนทราบว่าคนที่ตกลงมาเป็นคนสนิทกับแฟนเจ้าของห้อง ตอนนั้นก็รู้ว่าเหนือความคาดหมายมาก ส่วนตัวอยู่ตึกนี้มา 5-6 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในตึกนี้มาก่อน
ทั้งนี้ ตนพยายามมองหน้าชายคนดังกล่าว แต่ก็ใส่หมวกกันน็อกปิดหน้า ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่คุ้นหน้าชายคนที่บาดเจ็บเลย เชื่อว่าไม่ใช่คนที่พักอยู่ในตึกนี้แน่นอน จากนั้น ก็เห็นเพื่อนของฝ่ายหญิงมาช่วยเก็บของออกจากห้อง จึงเชื่อได้ว่าทั้งคู่คงเลิกกัน ส่วนฝ่ายชายตนก็ไม่เห็นหน้าเลย ไม่แน่ใจว่ายังอยู่ในห้องพักหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะเป็นผู้ชายการที่รักกับคน ๆ หนึ่งมา 7 ปี จดทะเบียนสมรสกัน แต่มีชายคนหนึ่งมาอะไรกับภรรยาตัวเองถึงห้อง มันเหมือนหยามกันชัด ๆ
นายเค (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ที่เข้าไประงับเหตุ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุรีบไปตรวจสอบ พบชายผู้บาดเจ็บนอนเจ็บหนักสาหัสอยู่ พบหญิงสาวกางร่มให้ โดยไม่สนใจสามีตัวเอง จากการสอบถามทราบว่าผู้บาดเจ็บเป็นชายคนสนิทเข้ามาพบหญิงสาวโดยขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ห้องพัก เวลา 08.00 น. จากนั้น 11.00 น. ฝ่ายชายที่เป็นเจ้าของห้องหรือสามีที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายกลับจากทำงานก่อนเวลา เนื่องจากที่บริษัทมีแพทย์มาฉีดวัคซีนกันโควิดให้ จึงอนุญาตให้พนักงานกลับก่อน จึงมาพบทั้งคู่อยู่ในห้องโดยไม่นุ่งกางเกง ก่อนมีการล็อกประตูหลังห้องให้ชายอีกคนอยู่ตรงระเบียง เพื่อเครียร์กันกับฝ่ายหญิง
ซึ่งชายคนเจ็บน่าจะมีอาการตกใจ และกระโดดลงมาแบบในกางเกงในตัวเดียว ก่อนที่ผู้หญิงจะนำกางเกงมาใส่ให้ และพยายามเอาร่มกางปิดหน้า โดยไม่สนใจใยดีสามีตัวเอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เผื่อจะต้องเครียร์ปัญหาชีวิตคู่จะได้มีหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บบอกเพียงว่ารู้ว่าผู้หญิงมีสามีแล้ว แต่ไม่ตอบว่ามาทำอะไรที่ห้องที่เกิดเหตุ
สำหรับตนมองว่าทุกคนทำผิดได้ แต่ต้องมีสติ เพราะหากกระทำแบบสิ่งที่เกิดขึ้นไปและไม่มีชีวิตรอดก็จะไม่มีโอกาสพูด ดังนั้นบางอย่างสามารถพูดคุยกันได้ ต้องใจเย็น และต้องหาทางแก้ไข ไม่ใช่กระทำเช่นนี้ เพราะที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะ หากไม่รอดคนอื่นก็อาจจะเดือดร้อน