เหยื่อเป็นร้อย! เปิดใจ บ่าวสาว สุดช้ำร้านวิวาห์หลอกขายแพ็กเกจถูก แต่กลับสูญนับแสน (คลิป)

จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อดังว่า ถูกร้านวิวาห์แห่งหนึ่งฉ้อโกงด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทั้ง ไม่ยอมคืนเงินค่ามัดจำชุด ไม่ยอมจัดงานให้ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว กระทั่งผู้เสียหายต้องออกมารวมตัวกันเพื่อทวงถาม แต่เมื่อไปถึงที่ร้าน กลับไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 300 คน มูลค่าความเสียหายคาดว่าหลายสิบล้านบาทนั้น (อ่าน : เปิดใจเหยื่อร้านวิวาห์แสบ หลอกขายแพ็กเกจแต่งงาน สูญเงินนับแสน เผยผู้เสียหายกว่า 300 ราย)

วันที่ 12 พ.ย. 61 ผู้เสียหายรวมตัวกันกว่า 30 คน เดินทางมาที่ร้านอาหารย่านรามอินทรา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมารับเรื่องจากผู้เสียหายครั้งนี้ ก่อนจะนัดหมายไปยื่นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พรุ่งนี้ (13 พ.ย 61) เวลา 13.00 น.

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายดำรงค์ศักดิ์ ศรีฟ้า หรือ พลาย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนแต่งงาน เมื่อ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา  และเป็นผู้เสียหาย ซื้อแพ็กเกจเช่าชุดถ่ายพรีเวดดิ้ง, ถ่ายพรีเวดดิ้ง, ชุดบ่าวสาววันจริง พร้อมทั้งร้านดังกล่าว ยังเสนอส่วนลดราคาพิเศษเป็นช่างภาพในวันงานแต่งอีกด้วย โดยอ้างว่า หากรับแพ็กเกจดังกล่าว จะเพิ่มถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ให้ และยังทำสมุดอัลบั้มภาพให้ด้วย รวมเป็นเงิน 45,000 บาท นายพลาย ระบุว่า ตนติดต่อซื้อแพ็กเกจดังกล่าว ช่วงเดือน ส.ค. ช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร ตนไปลองชุด นัดวันถ่ายภาพตามปกติ จากนั้นเมื่อไปรับชุด ร้านวิวาห์จึงให้ตนจ่ายค่ามัดจำ 25,000 บาท และหลังถ่ายภาพเสร็จ ตนต้องประสานกับช่างภาพเองในการติดต่อรับภาพ จากนั้น เมื่อตนใช้ชุดถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จแล้ว นำไปคืน ปรากฏว่า ร้านไม่จ่ายเงินมัดจำคืนให้ และต้องรอเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งเมื่อถึงกำหนดก็ยังไม่คืนเงิน กระทั่งผ่านไปกว่า 1 เดือน ตนไปตามทวงที่ร้าน ร้านจึงประสานงานและคืนเงินให้ ตอนแรกตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์โกง เนื่องจากเห็นว่า ร้านคนเยอะ สภาพร้านก็น่าเชื่อถือ ส่วนชุดในงานจริง ตนไปรับชุด ต้องจ่ายมัดจำ 10,000 บาท ซึ่งตนก็ทำตามขั้นตอนปกติ แต่เมื่อถึงวันส่งชุดคืน ร้านก็ยังไม่คืนเงินมัดจำให้ จนกระทั่งถึงวันนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ทั้งนี้ ตนเพิ่งเห็นข่าวเมื่อช่วงเช้า ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ถูก แต่คาดว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถึงแม้ตนเองเสียหายไม่มาก และตอนนี้ไม่หวังจะได้เงินคืน แต่หากได้คืนก็ดี

นอกจากนี้ นายวิทยา ศรีลาดี หรือแดน ว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งมีกำหนดจัดงานวิวาห์ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ ระบุว่า ตนเพิ่งเห็นข่าว และกังวลว่าอาจจะตกเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจไปแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้กับร้านวิวาห์ดังกล่าวได้ นายแดน ระบุว่า ตนเห็นประกาศตามหน้าเฟซบุ๊ก ระบุเรื่องการขายแพ็กเกจเช่าชุดแต่งงาน โดยโพสต์ดังกล่าว ร้านอ้างว่า เปิดให้เช่าชุดแต่งงาน แบ่งเป็นชุดไทย และชุดงานแต่งตอนเย็น รวม 4 ชุด ราคาเช่า 8,900 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก ทำให้มีผู้สนใจเยอะ รวมถึงตน วันที่เห็นโพสต์ ตนจึงตัดสินใจขับรถไปที่ร้านวิวาห์ทันที เพราะตนไม่แน่ใจว่าร้านมีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า ร้านมีอยู่จริง ร้านใหญ่ ดูน่าเชื่อถือ ตนเข้าไปคุยเห็นพนักงานเยอะ คนบริการดี ตัดสินใจซื้อแพ็กเกจ 8,900 บาท พร้อมจ่ายเงินทันที จากนั้นดำเนินการตามปกติ จากนั้นมีนัดวันลองชุด วันที่ 19 ต.ค. 61 ตนได้ยินพนักงานร้านคุยกันว่า จะลาออกกันทั้งร้าน ขณะนั้นจึงรู้สึกแปลกใจและเริ่มคิดว่าร้านมีปัญหาหรือไม่ แต่ก็ยอมจ่าเงินค่ามัดจำไป 25,000 บาท เนื่องจากขณะนั้นซื้อแพ็กเกจและจ่ายเงินแล้ว นายแดน กล่าวอีกว่า วันที่ไปลองชุดครั้งสุดท้ายช่วงต้นเดือน พ.ย. ปรากฎพนักงานในร้านเป็นพนักงานชุดใหม่ทั้งหมด แต่บริการดีกว่า พูดจาดีกว่า ทำให้ตนไม่ได้คิดอะไร กระทั่งมาเห็นข่าวล่าสุด ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปดูที่ร้าน ปรากฎร้านปิด และสภาพร้านเปลี่ยนไปจากที่ตนเคยไปมาก คล้ายว่าร้านถูกขนของไปกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ตนเกือบไปแจ้งความแต่พบว่า วันนี้ผู้เสียหายรวมตัวกัน จึงขอดูความชัดเจนก่อน จากนี้ตนไม่รอร้านติดต่อมาแล้ว เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงตัดสินใจหาเช่าชุดร้านอื่น และอยากเรียกเงินคืนทั้งหมด ทั้งนี้ ตนขอให้เจ้าของร้านออกมารับผิดชอบ และตอบคำถามกรณีที่เกิดขึ้นด้วย

โดยทีมข่าวได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิด ระบุว่า ที่ร้านจัดงานวิวาห์ดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เวลา 10.00 น. เจ้าของร้าน จะแถลงเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นให้ข้อมูลเพียงว่า เจ้าของร้านเดินทางไปประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เพื่อซื้อชุดเข้าร้าน ไม่ได้ปิดร้านหนีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีความจนถึงขณะนี้เบื้องต้นมีผู้เสียหาย เกือบ 100 ราย เดินทางมาแจ้งความ ที่ สน.โชคชัย มีทั้งผู้เสียหาย จากการซื้อแพ็กเกจจัดงานวิวาห์ และแพ็กเกจเช่าชุดวิวาห์ เบื้องต้นตำรวจ สน.โชคชัย เตรียมออกหมายเรียกเจ้าของร้านวิวาห์ดังกล่าว ให้มารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง หากไม่เดินทางมาจะมีการออก หมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาก็จะมีการออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป