ญาติเศร้า! รับศพนักมวยเด็กถูกน็อกกลางเวที ลุงเผยนาทีก่อนสิ้นใจ

13 พ.ย. 61
จากกรณี การแข่งขันชกมวยการกุศล คู่ระหว่าง เพชรมงคล ส. วิไลทอง หรือชื่อจริง เด็กชายอนุชา หรือ น้องเล็ก ทาสะโก อายุ 13 ปี ขึ้นชกกับ ฟ้าใหม่ (พุฒ ลูกร่มเกล้า) ว. สุดประเสริฐ โดยน้องเล็ก ได้ชกมาถึงยกที่ 3 ก่อนจะถูกฝ่ายตรงข้ามน็อก ล้มทั้งยืน ศีรษะกระแทกพื้นจนหมดสติคาเวที ก่อนจะถูกหามส่ง โรงพยาบาลบางจากพระประแดง โดยพบว่า ศีรษะได้รับแรงกระทบกระเทือนรุนแรง จึงถูกส่งต่อไปรักษาที่ โรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น
ภาพจากการแข่งขันชกมวยการกุศล
ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 61 ที่ เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดคลองมอญ ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับเด็กชายอนุชา เกิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นนักเรียน ชั้น ม. 1 โรงเรียนในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ขึ้นชกมวย ตั้งแต่อายุ 8 ปี ใช้ชื่อว่า เพชรมงคล ส.วิไลทอง ฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามกีฬาสวนธารณะ เทศบาลเมืองลัดหลวง มีประวัติการชกมากกว่า 170 ครั้ง โดยการขึ้นชกครั้งล่าสุด ได้คัดเลือกเป็น คู่รอง คู่เอก ในพิกัด 41 ปอนด์ โดยเด็กชายอนุชา ไม่มี บิดา และมารดา จึงอาศัยอยู่กับลุง คือ นายดำรงค์ ทาสะโก อายุ 48 ปี ซึ่งรักเอ็นดูเหมือนพ่อลูกแท้ ๆ ที่ผ่านมาจะตระเวนขึ้นชกมวยด้วยค่าตัวหลักพันบาท เพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว และส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา กระทั่ง ขึ้นชกครั้งล่าสุด ก่อนจะเสียชีวิต
นายดำรงค์ ทาสะโก ลุงของเด็กชายอนุชา
วันที่ 13 พ.ย. 61 นายดำรงค์ ทาสะโก ลุงของเด็กชายอนุชา กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่น้องอนุชา ล้มไปบนเวที ตนเห็นว่าน้องพยายามที่จะลุกขึ้นมาสู้ด้วยสัญชาตญาณนักมวย แต่สภาพร่างกายย่ำแย่ ขณะนั้นน้องหมดแรง แต่ยังไม่หมดสติ ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนเวทีเพื่อประคองน้อง ก่อนจะรีบนำตัวส่งแพทย์สนามเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งโรงพยาบาล โดยหลังจากที่ตนกลับมาจากสนามมวย ตนเข้าห้องนอนของน้องอนุชาเพื่อเก็บของ แต่ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ตนได้กลิ่นประจำตัวของน้อง เป็นกลิ่นหลังน้องอาบน้ำเสร็จ จึงบอกไปว่า "หนูอยู่คนละภพภูมิกับพ่อแล้ว ขอให้หนูไปสู่ภพภูมิที่ดี มีอะไรให้มาบอกพ่อในฝัน" หลังจากนั้นกลิ่นก็หายไป
โรงเรียนมัธยมที่ผู้เสียชีวิตเข้าศึกษา
ด้านบรรยากาศที่ห้องเรียน ในโรงเรียนมัธยมที่ผู้เสียชีวิตศึกษาอยู่นั้น วันนี้ทำการสอนตามปกติ แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากเพื่อนในห้องทราบข่าวการเสียชีวิตของ เด็กชายอนุชา แล้ว
นางสาวณภัทร ขันการไร่ อายุ 35 ปี ครูผู้สอน
นางสาวณภัทร ขันการไร่ อายุ 35 ปี ครูผู้สอน เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าน้องเสียชีวิต เด็กทุกคนก็เศร้า บางคนก็ร้องไห้ อย่างเพื่อนผู้หญิงก็จะร้องไห้เพราะสงสารเพื่อน เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วมาก และเกิดขึ้นในช่วงเสาร์อาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด ทำให้เพื่อน ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดย เด็กชายอนุชา เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เชื่อฟังครูบาอาจารย์ ร่าเริงสมวัย อัธยาศัยดี แต่ก็มีบางครั้งที่เงียบ ๆ บ้าง และเพิ่งจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้เพียงเทอมเดียว ทั้งนี้ตนเคยเห็น ด.ช. อนุชา ซ้อมต่อยมวยช่วงปิดเทอม ก่อนหน้าที่จะย้ายโรงเรียนมาเรียนที่นี่ แต่ไม่เคยทราบมาก่อนว่าน้องต่อยมวยเป็นอาชีพ และตนอยากบอกกับ ดวงวิญญาณของน้องอนุชา ว่า "ขอให้หนูหลับให้สบาย ไปเกิดในภพภูมิที่ดี เกิดชาติหน้าขอให้มีความสุข สบาย ไม่ต้องลำบาก เกิดมาต่อยมวยสู้ชีวิตแบบนี้"
ญาติเดินทางไปรับศพ ด.ช.อนุชา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ ญาติเดินทางไปรับศพ ด.ช.อนุชา จาก สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดใหม่ บางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตนสั่งเร่งผลักดันร่างแก้ไข พ.ร.บ.มวย เพื่อกำหนดอายุของเยาวชน ที่จะเข้าแข่งขันกีฬาประเภทนี้ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้รายละเอียด และจะเร่งเสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้เร็วที่สุด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ