จากกรณี มีผู้ร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อดังว่า ถูกร้านเวดดิ้ง panvisit ฉ้อโกงด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทั้งไม่ยอมคืนเงินค่ามัดจำชุด ไม่ยอมจัดงานให้ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว กระทั่งมีผู้เสียหายกว่า 300 คน ซึ่งทางร้านติดป้ายหน้าร้านว่า ปิด 11 – 12 พ.ย. นั้น (อ่าน :
เจ้าของร้านแจงยิบ ดราม่าพรีเวดดิ้ง ไม่คิดลูกค้าเยอะ ทำบริหารพลาด ขอ 60 วันคืนมัดจำ อึ้ง! เหยื่อครึ่งพันรวมตัวแฉ ทำชีวิตวุ่น)
วันที่ 14 พ.ย. 61
น.ส.ธาริณี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ หรือ มะเหมี่ยว อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกค้าซื้อแพ็กเกจการจัดงานแต่งตั้งแต่เดือน ต.ค. 60 ซึ่งตนจะมีกำหนดแต่งงาน วันที่ 2 ธ.ค. 61 ขณะนั้นยังไม่มีร้านปรรณวิสิฐ มีเพียงร้าน ณ นิรันดร์ ซึ่งตนเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊ก ว่ามีการจัดโปรโมชั่นเกี่ยวกับคนที่สนใจจะแต่งงาน ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ร้าน เมื่อไปถึง นายปรรณวิสิฐ เป็นผู้มาต้อนรับตนเอง พร้อมระบุว่า ตนเป็นคู่บ่าวสาวคู่สุดท้าย หากซื้อแพ็กเกจจัดงานแต่ง จะได้รับโปรโมชั่นส่วนลด 50% หากซื้อ VIP ราคา 500,000 บาท ซึ่งโปรโมชั่นดังกล่าวนั้น จำกัดแค่บ่าวสาว 20 คู่ เท่านั้น
จากนั้น ตนกลับไปตัดสินใจก่อน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกหลอก กระทั่งนายปรรณวิสิฐ ติดต่อมาหาตนเอง และบอกว่าหากไม่ซื้อจะหมดโปรโมชั่น ตนตัดสินใจตกลงซื้อ และรับส่วนลด 50% เหลือ 250,000 บาท รวมค่าดำเนินการประมาณ 270,000 บาท วันดังกล่าวตนจ่ายเงินมัดจำทันที 50% ของยอดลดราคาคือ 138,000 บาท
เวลาผ่านไปราว 6 เดือน ช่วงต้นปี 61 นายปรรณวิสิฐ ติดต่อหาตน ระบุว่า มีแพ็กเกจบูธรูปถ่าย และการจัดงาน After party ในราคา 50,000 บาท ตนตัดสินใจซื้อ เพราะเห็นว่าคุ้ม เท่ากับว่าตนจ่ายเงินไป 188,000 บาท กระทั่งประมาณ 3-4 เดือนหลัง ตนเริ่มติดต่อนายปรรณวิสิฐยากขึ้น กระทั่งต้องอ้อนวอนขอให้ตอบไลน์ จนกระทั่งวันที่ 6 พ.ย. 61 ตนไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนไลน์ไปทุกวัน แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับ
จากนี้ ตนอยากได้เงินคืน ถึงตอนนี้ตนได้ไปจองโรงแรมใหม่วานนี้ (13 พ.ย.) ตนต้องเริ่มวางแผนงานแต่งงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้จัดไปได้เพียง 10% เท่านั้น ทั้งที่การ์ดงานแต่งงานก็แจกแล้ว ญาติก็จองตั๋วเดินทางมาที่ กทม. หลายคนจองโรงแรม ตนไม่สามารถเลื่อนงานได้ จึงต้องเปลี่ยนสถานที่
รวมถึง ตนต้องการให้นายปรรณวิสิฐ ออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น และออกมารับผิดชอบ พร้อมกับต้องการถามว่า เหตุใดจึงมาก่อเหตุกับความหวังของตน คนเราไม่ได้แต่งงานกันทุกวัน มันเป็นครั้งเดียวในชีวิต จิตใจคุณทำด้วยอะไร ใจร้ายมาก ขณะนี้ตนยังต้องเสียเงินหาโรงแรม จัดงานใหม่อีกหลานแสนบาท ทั้งที่ตนจองจัดงานแต่งล่วงหน้า เนื่องจากหวังให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งขณะนี้ ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว ตอนนี้ก็ยังไม่มี
ต่อมา
นายพชร์ อานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ เผยว่า ตัวเองเป็นเหยื่อผู้เสียหายในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ตนได้ไปดูบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านพรีเวดดิ้งดังกล่าว ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตนตั้งใจว่าจะใช้ประกอบฉากถ่ายทำภาพยนตร์ จึงเดินทางไปที่ร้านวิวาห์ดังกล่าวพร้อมกับตกลงทำสัญญา โดยร้านคิดค่าเช่าสถานที่วันละ 60,000 บาท ตนใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำ 4 วัน รวมเป็นราคาทั้งหมด 240,000 บาท และต้องจ่ายค่ามัดจำ 200,000 บาท หลังจากนั้นก็ไปถ่ายทำปกติ 3 วัน ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการถ่ายทำ
กระทั่งเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ตนพยายามติดต่อร้านวิวาห์เพื่อขอใช้สถานที่ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงรู้สึกแปลกใจ เนื่องจาก 2 วันก่อนที่ตนจะมาที่สถานที่ถ่ายทำ ร้านวิวาห์ยังสอบถามตนว่า จะมาถ่ายวันที่ 25 พ.ย. อีกวันหรือไม่ หากถ่ายจะต้องจ่ายค่ามัดจำ 60,000 บาทก่อน แต่ตนได้ปฏิเสธไป กระทั่งล่าสุด มีดาราบอกว่าร้านวิวาห์ที่ตนติดต่อเพื่อขอใช้ฉากนั้นตกเป็นข่าวว่าโกงบุคคลอื่น
พชร์ อานนท์ เล่าว่า ตนทราบภายหลังว่า บ้านที่ใช้ประกอบฉากในภาพยนตร์ไม่ใช่ของร้านวิวาห์ แต่เป็นบ้านที่ร้านวิวาห์เช่าเพื่อใช้จัดสถานที่ในการแต่งงาน เมื่อทราบเช่นนั้น จึงขอร้องให้เจ้าของบ้านเปิดบ้านให้ตนไปถ่ายทำต่อในวันดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นการถ่ายหนังจะดำเนินต่อไปไม่ได้ ซึ่งเจ้าของบ้านก็อนุญาต ส่วนในเรื่องเงินค่ามัดจำ 200,000 บาท ตนก็ยังไม่ได้รับ ส่วนตัวยอมรับว่าเสียดาย
ทั้งนี้
พชร์ อานนท์ กล่าวว่า ตนจะให้ทีมงานไปแจ้งความ เนื่องจาก เงินที่จ่ายเป็นเงินของบริษัทที่ได้นำมาใช้ทำงาน โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะเจอเรื่องเช่นนี้ในชีวิต เพราะปกติแล้วตนก็เป็นคนระมัดระวังในการทำงาน ซึ่งในกรณีตนก็ได้ให้ทำสัญญาด้วย แต่ในเมื่อคนคิดจะหนีตนก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน และตนไม่คิดว่าเป็นเวรกรรม แต่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความซื่อสัตย์เสียมากกว่า
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า ล่าสุดสามารถจับกุมนายปรรณวิสิฐ พร้อมผู้จัดการได้ในพื้นที่โชคชัย 4 ขณะนี้ถูกคุมตัวและสอบปากคำที่ ศปอส.ตร. เบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่ให้เหตุผลว่าบริษัทประสบปัญหา อย่างไรก็ตามเรื่องคดีอาญาก็จะดำเนินคดีต่อเนื่อง ทั้งนี้จะมีแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พรุ่งนี้ (15 พ.ย.) เวลา 10.00 น.