จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม "คนดีไซน์" เป็นกลุ่มเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเเบบเเละตกเเต่งบ้าน โดยผู้โพสต์ขอความคิดเห็น เเละเเนวทางเเก้ปัญหา กรณีเพื่อนบ้านก่อกำเเพง ถมดินสูงจนท่วมหลังคาบ้านของตัวเองนั้น
ล่าสุดวันที่ 3 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบ้านของนางสาวมธุรส คุ้มประสิทธิ์ อายุ 39 ปี ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกติดกับบ้านหลังอื่น ๆ เป็นเเนวยาว จำนวน 15 หลัง ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการถมดิน
สำหรับสภาพพื้นที่ของหมู่บ้านเป็นทางลาด อยู่ต่ำกว่าถนนใหญ่ พื้นที่จะต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามระยะทาง โดยบ้านของนางมธุรสอยู่หลังสุดท้าย ระยะทางห่างจากถนนใหญ่ 300 เมตร
นางมธุรส เปิดเผยว่า ตนเองมาซื้อบ้านหลังนี้ไว้ประมาณ 10 ปีเเล้ว จากเดิมที่ดินข้างเคียงยังเป็นป่า จนกระทั่งเมื่อปลายปี 62 ทางเจ้าของที่ดินได้ให้ผู้รับเหมาทำการตัดต้นไม้ เเละเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 63 ก็เริ่มก่อกำเเพงถมดิน ซึ่งตอนนั้นบ้านตนได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งเสียงรถบรรทุก เสียงรถเเบ็กโฮ เเละเสียงเครื่องจักรต่าง ๆ ทำบ้านสั่นสะเทือนไปด้วย ตนเองจึงเเก้ปัญหาเบื้องต้น โดยการต่อเติมกำเเพงบ้านของตัวเอง ที่จากเดิม 1.8 เมตร เป็น 3 เมตร ใช้เงินต่อเติมกำเเพง 20,000 บาท
เเต่ทางเจ้าของที่ดิน มีการถมดินสูงถึง 4 เมตร เสมอกับชายคาบ้าน และยังก่อกำเเพงขึ้นอีก 2 เมตร จนความสูงของกำเเพงดังกล่าว เกินหลังคาบ้านไปอีกประมาณ 50 เซนติเมตร โดยหลังจากมีการสร้างกำเเพงเเละถมดินเสร็จ ทำให้บ้านตนได้รับผลกระทบบดบังลม เเละบดบังทัศนียภาพ เวลาฝนตกจะมีน้ำรั่วซึมผ่านกำเเพงออกมา เกิดความกังวลด้านปลอดภัย ไม่ทราบว่าการก่อสร้างมีมาตรฐานหรือไม่
หลังจากนั้นตนเองเเละชาวบ้านอีก 8 หลัง เคยรวมตัวกันไปร้องเรียนหลายหน่วยงาน ทั้งเทศบาลตำบลลาดหญ้า ศูนย์ดำรงธรรม รวมถึงร้องเรียนจังหวัด เเละทำหนังสือร้องเรียนถวายฎีกา เเต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ ดังนี้
1.ให้ตรวจสอบเเปลนงานทั้งหมดว่าปริมาณดินที่ถมเป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ เเละวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้าง ได้มาตรฐานหรือไม่
2.ให้ตรวจสอบรั้ว ความสูง ความเเข็งเเรง เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่
3.ให้ตรวจสอบท่อระบายน้ำ เพื่อให้เเน่ใจว่าน้ำจะไม่ไหลลงชุมชน
4.ให้ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในอนาคต ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน หากมีสิ่งใดไม่ได้มาตรฐานต้องทำการรื้อถอน
นางสาวมธุรส เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ตนเองมีกาประกาศขายบ้านหลังนี้ไปเเล้ว มีหลายคนสนใจอยากซื้อ เเต่เมื่อมาดูบ้านเเล้วเห็นกำเเพงดังกล่าว ก็เปลี่ยนใจกันหมด ดังนั้น หลังจากนี้หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก จะขอขายบ้านหลังนี้ให้กับเทศบาล เเล้วจะย้ายไปอยู่ที่อื่น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายชัย เจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบ เเละได้ติดป้ายประกาศขายบ้าน เปิดบ้านให้ทีมข่าวเข้าไปดู พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากที่มีการก่อสร้างกำเเพงเเละถมดิน ตั้งเเต่เดือนกุมภาพันธ์ 63 ตอนนั้นได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะฝุ่นดินมีการพัดลอยเข้ามาในบ้าน นอกจากนี้เสียงเครื่องจักร เสียงรถบรรทุก เสียงรถเเบ็กโฮดังรบกวน เเละยังส่งผลให้บ้านของตนได้รับความเสียหายหลายจุด ประกอบด้วยกำเเพงบ้านร้าว ซิงค์ล้างจานหลังบ้านทรุด คานบ้านทรุด ยังไม่ได้ประเมินความเสียหาย
ซึ่งตนเองทนอยู่เเบบนี้มาเป็นปี ที่ผ่านมานอนไม่หลับ เพราะไม่มั่นใจว่าโครงสร้างของกำเเพงจะเเข็งเเรงหรือไม่ ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานก็ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจประกาศขายบ้าน มีคนสนใจมาดูบ้านหลายคน เเต่เมื่อเห็นกำเเพงดังกล่าว ทุกคนก็เปลี่ยนใจไม่ยอมซื้อ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ เพื่อความเป็นธรรมของชาวบ้านในพื้นที่
นายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรี ตำบลลาดหญ้า กล่าวว่า ทางเทศบาลได้ดำเนินการระงับการขออนุญาต ดำเนินการถมที่ดิ และก่อสร้างในที่ดินแปลงดังกล่าวเอาไว้แล้ว และจะได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่าระหว่างที่ทางเทศบาลระงับการต่อใบอนุญาตถมที่ดินและก่อสร้างนั้น ทางเจ้าของที่มีการเข้าไปดำเนินการก่อสร้างหรือถมที่ดินเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงจะได้มีการตรวจสอบถึงการดำเนินการถมที่ดินแปลงดังกล่าวว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้หรือไม่ เนื่องจากทางเจ้าของที่ดินซึ่งมีการถมที่ยืนยันว่ามีการขออนุญาต และดำเนินการถมที่ดินอย่างถูกต้อง ตามที่ข้อกฎหมายระบุเอาไว้
แต่เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แปลงยาวด้านหน้าซึ่งติดกับถนนนั้นมีความสูงเทียบเท่ากับพื้นถนนปกติ แต่ที่ดินด้านหลังซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ มีลักษณะลาดเอียงต่ำลง ทางเจ้าของที่จึงมีความจำเป็นต้องถมที่ดินให้สูงขึ้นอยู่ในระดับเดียวกับพื้นผิวถนนด้านหน้า
ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของที่ดิน พาทีมข่าวเข้าไปดูพื้นที่ พร้อมชี้เเจงว่าพื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ ตนเองเพิ่งซื้อมาเมื่อปี 62 เตรียมสร้างบ้านสำหรับพักอาศัย ไม่ได้จะสร้างรีสอร์ตหรือบ้านจัดสรร พื้นที่ดังกล่าวเดิมมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ จึงเริ่มมีการถมดินเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 63 เพื่อให้พื้นที่เสมอกับระดับถนนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าที่ดินคนอื่นที่อยู่ด้านหลัง จึงจำเป็นต้องถมให้สูงขึ้น ให้น้ำไหลออกไปด้านหน้า เเต่ยังถมไม่ทันเสร็จก็เกิดเรื่องร้องเรียนก่อน จึงต้องหยุดการก่อสร้างไปตั้งเเต่เดือนมกราคม 64 จึงทำให้มีน้ำบางบางส่วนไหลออกไปด้านหลัง เเต่ถ้าหากถมเสร็จจะไม่มีน้ำไหลออกไปเเน่นอน
ส่วนเรื่องความสูงของกำเเพงที่ถูกร้องเรียน ขอชี้เเจงว่าตนเองต้องการถมดินตามที่ขออนุญาตกับทางเทศบาล คือถมตามระดับของพื้นที่ ไล่ระดับมาเรื่อย ๆ จากถนนใหญ่ ระดับความสูงตั้งเเต่ 60 เซนติเมตร จนถึง 4 เมตร ระหว่างที่มีการถมดินอยู่นั้นก็มีนายช่างของเทศบาลมาตรวจงาน เเล้วท้วงติงว่าดินที่ถมมีความสูง หากยืนอยู่ในที่ดินของเราสามารถมองเห็นบ้านของคนอื่นได้อย่างชัดเจน ทำให้บ้านเรือนใกล้เคียงไม่มีความเป็นส่วนตัว เเละได้เเนะนำให้ก่อกำเเพงขึ้นอีก ตนเองจึงให้ผู้รับเหมาก่อกำเเพงขึ้นอีก 2 เมตร เพื่อบดบังให้ชาวบ้านมีความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ หลังจากที่เกิดเรื่องร้องเรียน ตนเองก็เกิดความไม่สบายใจ ดังนั้นหลังจากนี้จะขอรับฟังปัญหาจากชาวบ้านว่าต้องการให้ดำเนินการอย่างไร ตนก็จะทำการเเก้ไขให้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าการถมดิน การก่อสร้างทุกอย่างได้มาตรฐาน เพราะมีการจ้างวิศวกรในการออกเเบบก่อสร้าง ให้ชาวบ้านสบายใจได้ว่าจะไม่มีการถล่มอย่างเเน่นอน ส่วนกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่ากำเเพงบ้านร้าว ซิงค์ล้างจานทรุด หรือตัวบ้านทรุด จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก่อนว่าเกี่ยวข้องกับการถมดินหรือไม่