จากกรณีที่ เพจทนายนิด้า เผยแพร่เรื่องราวที่แพทย์ข่มขืนคนไข้สาวตอนตรวจภายใน ในคลินิก โดยตอนแรกแพทย์อ้างว่าใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางให้ของปลอม พร้อมเผยแพร่แชตที่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทักแชต เล่าเรื่องราวและข้อมูลเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยตอนนี้ เหยื่อสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วนั้น (อ่าน :
เปิดคลิปลับหมอขืนใจคนไข้ พร่ำบอกอย่ากลัวท้อง – เหยื่อแจง ให้เลขบัญชีหวังเป็นหลักฐานมัด)
วันที่ 16 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าวแล้ว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคลินิกดังกล่าวมีมาตราฐานถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลจากคณะกรรมการตรวจสอบ แต่เบื้องต้น มีความผิดเรื่องการให้ความปลอดภัยกับผู้ป่วยในลักษณะที่ต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ตลอดเวลาในการตรวจ หลังจากที่ผ่านมา คลินิกมีเพียงคนดูแลหน้าร้าน และแพทย์ผู้ที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ทั้งนี้ หากการตรวจสอบ พบว่ามีมูลความผิด ก็จะเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการแพทย์ และต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงด้วยหรือไม่ ส่วนจะมีการสั่งปิดคลินิกดังกล่าวชั่วคราวหรือไม่ ทางคณะทำงานจะมีการไปสรุปผลการตรวจสอบต่อไป เพื่อเป็นการให้นายแพทย์คนดังกล่าวไปปรับปรุงคลินิก
ในขณะที่
นางปรียาภรณ์ วินิจสร ผู้ดูแลคลินิก สถานที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับแพทย์คนดังกล่าว มาเป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว และที่ผ่านมา เคยเห็นนายแพทย์ถูกร้องเรียนในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว 1 ครั้ง พร้อมยืนยัน วันที่เกิดเรื่อง ตนไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น และที่สำคัญตนเพิ่งได้รับคำสั่งจากทางแพทย์ว่า ให้ปิดคลินิกชั่วคราว จึงทำตามคำสั่งเท่านั้น
นางสาวตูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเข้ารับการรักษาเนื่องจากเป็นฝี จึงมารักษาตามคำแนะนำของรุ่นพี่ เมื่อเริ่มตรวจรักษาด้วยการใช้มือจับคลำหน้าอก พร้อมบอกว่าหน้าอกสวย และตลอดการรักษายังเรียกตนอีกว่าที่รัก ระหว่างการตรวจ แพทย์พยายามสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ และมาเป่าลมซอกคอ เลียหู ต่อมาตนมีอาการป่วยรอบสองด้วยอาการเดิม ซึ่งครั้งนี้ถูกล่วงละเมิดหนักกว่าเดิม โดยมีการใช้ลิ้นที่อวัยวะเพศ และสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ จนกระทั่งเป้ากางเกงแพทย์เปื้อนเลือดของตนด้วย (อ่านต่อ :
เหยื่อโผล่แฉเพียบ หมอคลินิกฉาวทำอนาจารคนไข้สาว อึ้ง! ใช้ลิ้นกับอวัยวะเพศ อับอายไม่กล้าแจ้งความ)
นางสาวแป้ง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ตนและพี่สาว มีปัญหาเรื่องฮอร์โมน และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จึงตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์ ตามที่มีข้อมูลว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชโดยเฉพาะ เมื่อมาถึงที่คลินิกแพทย์ก็มีการสอบถามอาการ และข้อมูลเพื่อการรักษา ก่อนจะเริ่มตรวจร่างกายของตน โดยเมื่อเดินเข้าไปในห้องตรวจนั้น พบความผิดปกติที่ไม่มีผู้ช่วย หรือพยาบาลอยู่ในห้องตรวจด้วย อีกทั้งล็อกห้องตรวจทันทีที่เข้าไป จากนั้นให้ตนถอดเสื้อและปลดชุดชั้นใน ตนก็เอะใจ แต่ด้วยความเชื่อใจแพทย์ ว่าอาจจะกำลังทำการตรวจรักษาจริง จึงให้ความร่วมมือ จากนั้นแพทย์ก็จับหน้าอกทั้งสองข้างอย่างจริงจัง แล้วก็ให้ตนถอดกางเกงขึ้นไปบนขาหยั่ง เพื่อตรวจภายใน
ขณะที่ทำการตรวจภายในนั้น แพทย์ใช้นิ้วแหย่เข้าไปที่อวัยวะเพศ แล้วถามว่า “เพลินไหม ชอบไหม เจ็บไหม” ตนจึงบอกว่าเจ็บ แพทย์ก็เข้ามาเป่าลมที่หู 4 ครั้ง แล้วถามว่า “รู้สึกยังไง” อีกทั้งสอนวิธีการมีเพศสัมพันธ์ ตนขอยุติการรักษาทันที ก่อนจะออกมารอรับยา จึงเล่าให้พี่สาวที่กำลังต่อคิวเข้าตรวจฟัง แต่ตอนนั้นพี่สาวยังไม่เชื่อ และเข้าตรวจต่อจากตนตามปกติ
เมื่อพี่สาวเข้าไปยังห้องตรวจ ปรากฎว่าแพทย์กระทำเช่นเดียวกัน คือโดนจับหน้าอก แหย่นิ้วเข้าไป เป่าหู ซอกคอ เมื่อพี่สาวตรวจเสร็จ ก่อนรับยา แพทย์บอกอีกว่า “ไม่ต้องชำระเงิน หมอให้ยาฟรี” แต่ตนไม่อยากติดค้าง จึงชำระไปตามปกติ และกลับมาปรึกษากับพี่สาวว่า กรณีนี้ไม่ใช่การรักษาอย่างแน่นอน จนกระทั่งมาเห็นเหยื่อรายอื่นโพสต์แชร์เรื่องราวลักษณะเดียวกันลงในสังคมออนไลน์
เมื่อย้อนกลับมาถามว่าทำไมขณะตรวจแล้วพบความผิดปกติ จึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือหรือบอกให้แพทย์หยุดทันที ตนขอชี้แจงว่า ด้วยความไม่รู้ เพราะไม่เคยตรวจภายในมาก่อน อีกทั้งไว้วางใจในวิชาชีพแพทย์ ว่าทำการตรวจรักษาจริง แต่สุดท้ายกลับไม่ใช่ จึงรู้สึกว่าไม่อยากหาแพทย์คนนี้อีก ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม เพราะมองว่าไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ และไม่เชื่อว่าเป็นการรักษาจากต่างชาติ เพราะเมื่อไปตรวจกับแพทย์รายอื่น เกิดข้อเปรียบเทียบว่าวิธีการรักษามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง