เมียท้องช็อกผัวถูกเพื่อนฆ่าต่อหน้า มือปืนอ้างหูอื้อ จำไม่ได้ฆ่าทำไม (คลิป)

8 พ.ย. 64

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะนะ จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ นายฮารอมัย หมานหวัง อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี จ.สงขลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่บริเวณชายโครงซ้าย 1 นัด และขาขวา 1 นัดภายในรถยนต์

629883

อาการสาหัส บริเวณหน้าร้านชา ใกล้กับสามแยกบ้านสลุด หมู่ 3 บ้านคลองลึก ต.บ้านนา อ.จะนะ เส้นทางฝั่งขาเข้าตัวเมืองจะนะ พบมีรอยกระสุนปืนขนาด 9 มม. ยิงทะลุกระจกประตูฝั่งซ้าย ประตูหน้า 1 นัด และประตูหลัง 1 นัด

905923404403

ภายในรถบริเวณเบาะนั่งคนขับเต็มไปด้วยคราบเลือด หน่วยกู้ชีพเจดีย์ทองร่วมกับโรงพยาบาลจะนะ เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลจะนะ แต่เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล

185281

จากการสืบสวนทราบว่านายฮารอมัยถูกยิงจากบริเวณหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ ที่อยู่ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากถูกยิงได้พยายามขับรถหนีตายจนมาหมดแรง และลงมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วคือ นายอ๊ะหมัด อาหวัง ลูกชายเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้ประมาณ 1 ปี

cg1

โดยก่อนเหตุ นายฮารอมัยได้ขับรถยนต์ไปหานายอ๊ะหมัดที่บ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์เพื่อเคลียร์ปัญหากัน แต่เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกัน แต่นายอ๊ะหมัดมีปืนทำให้นายฮารอมัยวิ่งหนีเข้ารถยนต์ แต่ก็ถูกยิงใส่ 2 นัด กระสุนทะลุกระจกประตูซ้ายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และเปิดประตูฝั่งคนขับยิงอีก 1 นัด

cg2

อย่างไรก็ตาม นายอ๊ะหมัด ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.จะนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบสวนเหตุการณ์และสาเหตุการยิงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นรับสารภาพโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3.พกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและมีเหตุอันควร

275933

ล่าสุด วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะนะ ได้นำรถยนต์ของผู้ตาย บรรทุกขึ้นรถยก นำมายังจุดยิง และได้พาตัวของนายอ๊ะหมัด ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาได้เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ว่าขณะที่กำลังนั่งพูดคุยกับผู้ตายอยู่ในบ้าน ได้เกิดมีปากเสียงกัน ยผู้ตายได้ล็อกคอตนเดินออกมาที่บริเวณข้างบ้าน แล้วได้เหวี่ยงตนจนล้ม ด้วยความโกรธ ตนจึงได้วิ่งเข้าไปหยิบปืนภายในบ้าน ส่วนผู้ตายก็ได้เดินไปขึ้นรถที่จอดไว้หน้าบ้าน

227923

จากนั้น ตนก็ได้เดินออกมาที่หน้าบ้าน พบว่าผู้ตายนั่งอยู่ในรถฝั่งคนขับ ตนจึงเดินไปกระชากประตูฝั่งข้างคนขับ แต่ประตูล็อก ขณะนั้นตนสังเกตเห็นผู้ตายทำท่าจะลงมาจากรถ ตนกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีอาวุธ ตนจึงยิงปืน 1 นัด เข้าที่ประตูด้านหน้า ฝั่งตรงข้างคนขับ หลังจากนั้น ตนได้เดินอ้อมไปประตูหน้าฝั่งคนขับ แล้วกระชากประตู แต่ประตูยังคงล็อกอยู่ ตนจึงถอยออกมา "ผมจำได้เพียงว่ายิงนัดแรก หลังจากนั้นผมหัวตื้อ จำอะไรไม่ได้" เมื่อผู้ตายขับรถออกไปแล้วก็ได้เดินขึ้นรถกระบะที่จอดไว้หน้าบ้านขับออกไปอีกทาง เพื่อสงบสติอารมณ์

หลังจากที่ผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับสถานีตำรวจ ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เข้าไปสอบถามผู้ต้องหาว่าทำทำไม ทำเพราะอะไร มีปัญหาอะไรกัน แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใด ๆ

218830

นายอาลี (นามสมมติ) ญาติของผู้ต้องหา บอกว่า เมื่อวานครอบครัวจะชวนผู้ต้องหาไปกินข้าวนอกบ้าน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมไป กระทั่งผู้ตายเดินทางมาพบ แต่เกิดมามีปากเสียงกัน คาดว่าผู้ตายน่าจะหึงหวงแฟนของตัวเองที่เดินทางมาด้วย เนื่องจากผู้ต้องหามีการเอ่ยถึงแฟนของผู้ตาย ทั้งนี้ ทางครอบครัวยืนยันว่าผู้ตายเป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายผู้ต้องหาก่อน สิ่งที่ผู้ต้องหาทำลงไปถือเป็นการป้องกันตัว

679680

นางสาววัชดา สันหวัง อายุ 40 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ตนกับสามีอาศัยอยู่ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แต่เมื่อวานนี้ สามีได้เดินทางมาเยี่ยมญาติที่อำเภอนาทวี ก่อนกลับจึงได้แวะไปหาผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนกันที่อำเภอจะนะ โดยตนและสามีเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นตน สามี และผู้ต้องหา ก็นั่งนั่งคุยกันอยู่บริเวณข้างบ้าน ใช้เวลาคุยกัน 5-10 นาที ขณะที่ทุกคนลุกขึ้นจากเก้าอี้ และกำลังจะเดินทางกลับ สามีของตนก็ทะเลาะกับผู้ต้องหา ทั้งคู่เข้าไปปลุกปล้ำกันจนล้ม ซึ่งตนไม่ทราบเลยว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องอะไร เนื่องจากยังพูดคุยกันดี ๆ อยู่

ตนได้บอกให้ทั้งคู่ว่าอย่าทะเลาะกัน แต่ทั้งคู่ไม่หยุด ตนจึงได้วิ่งมาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เรียกให้คนช่วย แต่ขณะนั้นสามีของตนกับผู้ต้องหาก็แยกกันแล้ว สามีของตนเดินไปสตาร์ตรถแล้วเข้าไปนั่งบนเบาะคนขับ ตนเห็นดังนั้นจึงคิดว่าเรื่องราวจบลงแล้ว ตนจึงเดินไปที่รถ ขณะที่ตนกำลังจะเปิดประตูรถ ผู้ต้องหาก็วิ่งออกมาจากบ้านพร้อมปืน จากนั้นก็ได้ขึ้นลำปืน ตนจึงขอร้องอีกฝ่ายว่า "อย่าทำ ๆ อย่ายิง พี่กำลังท้อง" แต่อีกฝ่ายไม่ฟังแล้วยิงเข้าไปที่กระจกประตูหน้า ฝั่งข้างคนขับ 1 นัด กระสุนเข้าที่ขายโครงซ้ายของสามีตน

จากนั้น ผู้ต้องหาก็เดินอ้อมท้ายรถ เดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ แล้วยิงเข้าที่ขาขวาของสามีตน ทำให้สามีของตนรีบปิดประตู แล้วเตรียมจะขับรถหนี ผู้ต้องหาก็ได้เดินอ้อมหลังรถมากระชากประตูหลังฝั่งข้างคนขับ แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงได้ยิงทะลุกระจกไปอีก 1 นัด หลังจากที่ผู้ต้องหายิงปืนไปแล้ว 3 นัด สามีของตนก็ได้ขับรถหนีออกไป ผู้ต้องหาก็ได้เปิดรถกระบะของตัวเองขับหันหน้าไปทิศเดียวกับทางที่สามีของตนขับรถไป ตนจึงได้ตะโกนบอกไปว่า "อย่าไป อย่าทำเขาอีกเลย ขอร้อง" ทำให้ผู้ต้องหาเดินลงจากรถ มานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ข้างบ้าน

ไม่นานแม่ของผู้ต้องหาก็เดินทางกลับมาพอดี ตนจึงได้เล่าให้แม่ของผู้ต้องหาฟัง ซึ่งแม่ของผู้ต้องหาก็ได้บอกกับผู้ต้องหาว่า "ถ้ายิงบังมัยแล้วบังมัยตายจะทำยังไง" ผู้ต้องหาตอบกลับมาว่า "ก็ตายไป" ตนได้โทรศัพท์ให้ญาติมารับ แต่ผู้ต้องหาตะโกนว่า "ไม่ให้ไป อย่าไปนะ อยู่นี่" ตนก็ได้แต่นิ่ง เพราะกลัวจะถูกยิง แต่ขณะนั้นแม่ของผู้ต้องหาก็ได้พาตัวผู้ต้องหากลับไปในบ้าน แล้วบอกให้ตนกลับ

โดยเมื่อตนเดินทางกลับมาถึงบ้านญาติ ตนก็ได้พยายามติดต่อพ่อของสามี แต่ทราบว่าขณะนี้สามีอยู่ที่โรงพยาบาล ตนจึงเดินทางไปโรงพยาบาล พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากเสียเลือดมาก เพราะกระสุนปืนถูกยิงเข้าเส้นเลือดใหญ่ ตนอยากพูดกับผู้ต้องหาว่า "น่าจะเห็นใจกันบ้าง เพราะกำลังท้องอยู่ ถ้าสามีตาย แล้วลูกในท้องจะทำยังไง" ตนขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าสามีกับผู้ต้องหาทะเลาะอะไรกัน เพราะเพียงเสี้ยววินาที ทั้งคู่ก็ทะเลาะกันแล้ว แต่ตนมั่นใจว่าทั้งคู่ไม่น่าจะขัดแย้งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามีของตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

101033

นางวรรณ (นามสมมติ) แม่ค้าใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 13.00 น. ผู้ตายได้เดินทางมาหาผู้ต้องหา ไม่นานนักตนได้ยินเสียงโวยวาย จากนั้นแฟนของผู้ตายก็ตะโกนว่า "มาช่วยกันแยกหน่อย" จากนั้น ผู้ต้องหาก็ได้เดินเข้าไปหยิบปืนออกทาจากบ้าน ส่วนผู้ตายก็ได้เดินมาที่รถ ตนได้ตะโกนบอกผู้ตายว่า "ไปเร็ว ๆ ขึ้นรถไปเร็ว ๆ" ซึ่งผู้ต้องหาก็ได้ยิงปืนเข้าไปในรถ 2 นัด แล้วยิงไล่หลังรถไปอีก 1 นัด ตนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ตายไม่รีบขับรถหนีออกไป ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้องเสียชีวิต

811120

พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อทำการสอบสวนต่อ ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานถึงปมการทะเลาะที่บานปลายไปถึงขั้นยิงกันในครั้งนี้ เบื้องต้นจากข้อมูลหลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานทางครอบครัวให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวพร้อมปืนที่ใช้ก่อเหตุ และกระสุนปืนอีก 5 นัด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบของกลาง ได้แก่ หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว ภายในรถของผู้ตาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม