จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.64 หนุ่มหึงโหดเห็นเมียกินข้าวกับชายอื่น ก่อนขับรถจักรยานยนต์พาเมียกลับบ้าน เเต่เมียกระโดดลงจากรถ คว้าท่อนปูนฟาดหัว 3 ครั้ง ก่อนเมียไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปทุมธานี
ล่าสุด วันที่ 10 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์ ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว บริเวณหัวมุมของหน้าร้านที่มีป้ายหน้าร้านสีขาวตั้งอยู่ ยังคงมีร่องรอยคราบเลือดจำนวนมากอยู่บนพื้นทางเท้า นอกจากนี้ พบแมสก์สีดำเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ชิ้นอีกด้วย
ภาพกล้องวงจรปิดเป็นภาพบรรยากาศหลังจากที่นางสาวเอ๋ถูกทำร้ายเเล้ว เเละยังคงนอนจมกองเลือดอยู่ มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยดูอาการ ส่วนตัวของนายไนท์ ผู้ต้องหา นั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ข้างร่างของนางสาวเอ๋
นางสาวอุ้ย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี เจ้าของร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า บริเวณเเถวนี้ไม่ค่อยมีใครทะเลาะวิวาทตีกัน ส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุรถชนมากกว่า ส่วนวันเกิดเหตุ คืนวันที่ 8 พ.ย.64 เวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้ชาร์จแบตรถยนต์ไว้ และได้เดินลงมาหน้าบ้านเพื่อที่จะถอดที่ชาร์จ
จากนั้นตนก็เห็นคู่ชายหญิง 2 คนนี้ ขับรถมาจากสี่เเยก ผ่านหน้าร้านของตนไป จนก่อนถึงสะพานลอยข้ามไปฝั่งโรงพยาบาล ฝ่ายชายลักษณะผมเผ้ายาว ผู้หญิงเเต่งกายสวมชุดยูนิฟอร์มคล้ายทำงานโรงงาน ได้ยินผู้หญิงพูดตะโกนขึ้นเสียงว่า "กูเบื่อมึง" จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาผู้หญิงกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ ส่วนผู้ชายก็พูดว่า "มึงจะกระโดดลงไปทำไม ขึ้นรถมา" ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเดินย้อนกลับมาที่หน้าร้านของตน ผู้ชายก็ขับรถจักรยานยนต์ย้อนศรกลับตามมาเพื่อให้ผู้หญิงขึ้นรถ เเต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม
สักพักตนก็เห็นว่าผู้หญิงคว้าท่อนปูนที่ใช้รองล้อรถขนาดใหญ่มากเท่ากับขวดเหล้า น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ที่วางไว้หน้าร้าน โยนไปทางฝ่ายชาย เหมือนลักษณะเป็นการโยนไล่มากกว่าจะทำร้าย เเต่ฝ่ายชายกลับคว้าท่อนปูนนั้นมาฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังผู้หญิงไป 1 ครั้ง ตนเห็นว่าผู้หญิงล้มลงทันที ยังไม่ทันได้ร้องของความช่วยเหลือ เเต่ฝ่ายชายไม่หยุด ฟาดไปที่ศีรษะอีก 2 ครั้ง ก่อนผู้หญิงจะเเน่นิ่งไป ตนไม่กล้าเข้าไปเพราะว่ากลัวจะถูกทำร้าย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าผู้หญิงอาการหนัก ตนยังจะเอาเเอมโมเนียไปให้อยู่เลย
ไม่ทราบว่าฝ่ายชายอยู่ในอาการมึนเมาหรือไม่ เเต่หลังก่อเหตุเสร็จก็เหมือนกำลังจะหนี เเต่พวกลูกค้าเเละพนักงานร้านข้าวต้มฝั่งตรงข้ามเข้ามาห้ามเเละบอกว่า "ทำร้ายเขาเเล้ว จะหนีไปไหน" ผ่านไปไม่นานฝ่ายชายก็นั่งลงร้องไห้ เเละพูดประมาณว่าถ้าผู้หญิงไม่ลงมาจากรถก็จะไม่เป็นแบบนี้ พอตำรวจมาถึงก็เห็นว่าผู้ชายคนนี้นั่งร้องไห้ เเละโทรหาป้าได้ยินเขาพูดว่า "ฝากลูกด้วยนะ" ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไป
จากการตรวจสอบโพสต์ของฝ่ายชายโพสต์รูปครอบครัว บอกว่ารักภรรยาตามปกติ ไม่มีท่าทีจะก่อเหตุหรือมีข้อพิรุธว่าจะก่อเหตุแต่อย่างใด
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต เเละได้พบกับครอบครัวของนางสาวเอ๋ พ่อเเม่ เเละน้องชาย ที่เดินทางมารับศพ เพื่อนำร่างกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดโสภาราม ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
น.ส.กาญจนา วงษ์เสน่ห์ อายุ 43 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ลูกสาวเเละลูกเขยคนนี้คบกันมาเกือบ 10 ปีเเล้ว ตั้งเเต่ลูกสาวอายุ 15-16 ปี มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็กอายุ 3 ขวบ นิสัยใจคอของลูกสาวตนเป็นคนร่าเริง ชอบไปเที่ยวเล่น อัธยาศัยดี ลูกสาวทำงานเป็นเสาหลักของครอบครัว ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกสาวคือตอนเช้าก่อนลูกสาวไปทำงาน ลูกสาวเข้ามากอดตน เเละบอกเพียงเเค่ว่า "เเม่ หนูจะไปทำงานเเล้วนะ" พอตอนเย็นตนก็ไม่ได้เจอลูกสาวอีกเลย ส่วนเรื่องการเชิญวิญญาณ จะต้องรอปรึกษาญาติอีกครั้ง ตนไม่มีอะไรจะบอกกับลูก เพราะพูดไม่ออก
ส่วนทางฝั่งลูกเขย นิสัยใจคอนายไนท์ เป็นคนอารมณ์รุนเเรง ทำร้ายร่างกายลูกสาวตนบ่อย นายไนท์ไม่มีญาติที่ประเทศไทย แม่ของเขาอยู่ที่ต่างประเทศ สาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้ตนก็คาดว่ามาจากเรื่องปัญหามือที่สาม นางสาวเอ๋อาจจะมีการพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นบ้างในช่วงที่ระหองระแหงกัน หากนายไนท์ทำตัวดี ลูกสาวของตนก็อาจจะไม่มีคนอื่น ตนเข้าใจว่าลูกสาวคงทนไม่ไหว ลูกสาวคงอยากจะหาคนที่ดีกว่า เพราะนายไนท์เป็นคนขี้หึงหวงมาก เวลานางสาวเอ๋มาหาตน นายไนท์ก็คิดว่าไปหาคนอื่น
ส่วนตัวของนายไนท์หลังจากก่อเหตุก็ยืนอยู่ที่เกิดเหตุ ตำรวจก็มารวบตัวไปเลย เขาก็สารภาพว่าที่ทำไปเดราะอารมณ์ชั่ววูบ ตนอยากให้นายไนท์รับโทษสูงสุดคือติดคุกตลอดชีวิต หรือตายตามกันไปเลย
ด้านนางหลง (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนรับจ้างเป็นแม่บ้านอยู่ต่างประเทศ ยอมรับว่าลูกชายรักครอบครัวมาก ขี้โวยวาย แต่รักเมียคนนี้มากจนยอมก้มกราบเท้าเมียหลายครั้ง ไม่ให้เมียไปมีคนใหม่ ตนเตือนลูกชายหลายครั้งให้ปล่อยผู้หญิงไป เพราะฝ่ายหญิงหมดใจกับลูกชายแล้ว แต่ลูกชายไม่ปล่อยไป เพราะต้องการรักษาครอบครัวไว้ มีลูกด้วยกันที่ต้องดูแล
โดยหลังเกิดเหตุ ลูกชายจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีคนอื่นหรือไม่จึงโมโหก่อเหตุ แต่ตนก็ขอแสดงความเสียใจด้วย โดยลูกชายโทรมาร้องไห้กับตนหลังจากก่อเหตุแล้ว บอกว่าเมียนอนจมกองเลือดไม่ได้สติ ลูกบอกว่าอยากพากกลับบ้านเท่านั้น