เปิดภาพลับเฒ่าลากปืนยิงลุง 2 ศพเล่นเปตอง ฆ่าเสร็จด่าซ้ำ ลูกถ่ายคลิปยังช็อก (คลิป)

11 พ.ย. 64

เมื่อช่วงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 พ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตาย 2 ศพ เหตุเกิดภายในบ้าน ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

786383

ผู้ตายคนแรกคือ นายสมัชฌ์ ประชุมพันธุ์ อายุ 40 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในบ้าน ลักษณะศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า โดนกระสุนบริเวณหน้าอก จำนวน 3 นัด ถัดมาไม่ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบอีกหนึ่งศพทราบชื่อคือ ร.ต.ทำนุ แจ้งจิตร อายุ 61 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อ น.อ.สันชัย ประชุมพันธ์ อายุ 59 ปี โดนยิงกลางหลัง ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายธุรการ ยังบรรเทา อายุ 67 ปี ยืนมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

508002883264682205

เบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุที่ทางผู้ตายทั้ง 2 คนกำลังเล่นเปตองกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน เป็นถนนทางเข้าบ้านของผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุเองได้เดินทางขับรถจะเข้าบ้าน มีการพูดคุยกับทางผู้ตาย แต่ทางผู้ตายทั้ง 2 กลับบอกว่า "ใกล้จบเกมแล้ว รอสักครู่" ทำให้ทางผู้ตายรู้สึกโมโหมีเสียงกัน ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ได้ภาพกล้องวงจรปิด นางเล็ก, นางวรรณี, นายสันชัย ผู้บาดเจ็บ, ร.ต.ทำนุ ผู้เสียชีวิต เล่นเปตองกัน จากนั้นรถ BMW ขับผ่านหน้าปากซอย กลับรถขับกลับเข้ามาในซอย นายสันชัยเจรจากัน แล้วรถขับผ่าวงเปตองไปเข้าไปจอด

207655

อีกคลิปจับภาพคนก่อเหตุยืนมีปากเสียงอยู่หน้าซอย ก่อนจะชักปืนยิง ร.ต.ทำนุ วิ่งเข้าไปยิงในโรงรถ ในขณะที่นายปองภูมิ ลูกชายคนก่อเหตุ ถ่ายคลิป จากนั้นนายธุรการยิงทะลุกระจกอีกครั้ง ยิงโดนนายสมัชฌ์อีกนัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ

467910

วันที่ 11 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ชุมชนคลองล่าง ซ.อำนวยผล 8 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. พบกองเลือด มีเส้นโปลิตไลน์กั้นและพบรอยกระสุนทะลุกระจกแตก

801944

นางสาวชฎาวรรณ ประชุมพันธ์ ลูกสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนเกิดเหตุตนยังไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่พอทราบว่า น.อ.สันชัย พ่อของตนถูกยิง ก็รีบกลับมาที่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็พาตัวพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว ตอนกลับมาเห็นนายสมัชฌ์ ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 3 นัดเสียชีวิต ส่วน ร.ต.ทำนุ ถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิตในบ้าน

โดยผู้ก่อเหตุคือนายธุรการ เป็นลูกเขยของลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ มักมีปากเสียงกับคนในครอบครัวเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ก็ดี ๆ กันอยู่ พอมีเรื่องที่ดิน พฤติการก็เปลี่ยนไป ส่วนตัวมองว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจมาก่อเหตุ เพราะเขาเอาปืนมาบุกยิงถึงบ้าน อุกอาจมาก ตนไม่คาดคิดว่าเขาจะลงมือยิงเพราะเรื่องแค่นี้ ส่วนตัวอยากให้คนก่อเหตุรับผิดชอบรับโทษสูงสุด ประหารได้ให้ประหารไปเลย เพราะถ้านายกองภูมิ ลูกชายเขาไม่ถูกดำเนินคดี เขาก็อาจจะมีความแค้น และอาจจะกลับมาก่อนเหตุได้ ตอนนี้สภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่มาก เพราะอาการบาดเจ็บของพ่อยังสาหัส ส่วนเรื่องรับศพยังไม่ได้ติดต่อรับศพ คาดว่าจะเป็นช่วงบ่าย

375744

นางวรรณี ประชุมพันธ์ อายุ 67 ปี แม่ของนายนายสมัชฌ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นพี่สาวของ ร.ต.ทำนุ ผู้เสียชีวิต และเป็นภรรยาของ น.อ.สันชับ ผู้บาดเจ็บ บอกว่า วันเกิดเหตุตนและนางเล็ก ร.ต.ทำนุ เล่นเปตองกันอยู่ จากนั้นเวลา 17.30 น. พบว่านายปองทอง ยังบรรเทา อายุ 27 ปี ขับรถบีเอ็มสีบรอนซ์เทาขับเข้ามา เพื่อจะเข้าไปจอดรถด้านใน

ขณะนั้นได้มีการบอกกับนายปองภูมิ ยังบรรเทา ลูกชายคนก่อเหตุว่า "ขอเก็บลูกเปตองก่อน แป๊บเดียว" แต่นายปองภูมิลดกระจกลง พูดจาไม่ค่อยดี และมีท่าทีไม่ยอม จะขับเข้าไป ตนจึงบอกให้ขับเข้าไปเลย หลังจากที่ขับเข้าไป ก็ยังต่อปากต่อคำ และท้าดวลยิง ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอนายปองภูมิพกปืนออกมาขู่หลายครั้ง ครอบครัวมีการโทรแจ้งตำรวจตั้งแต่ตอนที่นายปองภูมิมีปากเสียงแล้ว 1 รอบ

288935

จากนั้น นายธุรการ ผู้ก่อเหตุ เดินมาที่บ้านประมาณ 18.30 น. คาดว่านายปองภูมิน่าจะไปฟ้อง จากนั้นมีปากเสียงกันในเรื่องของที่ดิน ร.ต.ทำนุ ก็มีการบอกให้นายธุรการกลับไป อย่ามีเรื่องกันเลย จากนั้นนายธุรการควักอาวุธปืน 9 มม. ออกมายิง ร.ต.ทำนุ โดนศีรษะล้มลง จากนั้นคนอื่น ๆ ก็วิ่งหนีแตกกระเจิง นายสมัชฌ์ถูกยิงกลางหลัง 2 นัดทะลุอก ถูกยิงซ้ำในบ้านอีก 1 นัด รวม 3 นัดเสียชีวิต ส่วนนายสันชัย สามีตนวิ่งหนีไปในทิศทางเดียวกันนายสมัชณ์ ถูกยิงที่กลางหลังทะลุปอด 1 นัด อาการสาหัส จากนั้นตำรวจก็มาพอดี จึงมีการจับตัวคนก่อเหตุไป

875887

ส่วนปมสาเหตุมาจากเรื่องที่ดิน เนื่องจากนายธุรการเอาที่ดินของนางกรุณา 3 แปลงไปจำนองกับตลาด นายสันชัย สามีตน มีการไปซื้อกับนายทุน ซื้อกลับคืนมาเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านต้น ๆ ทางด้านของนายธุรการอยากได้คืน แต่มีการโอนที่ดินแล้ว จากนั้นก็ เริ่มมีปากเสียงกันมานานกว่า 10 ปี จากที่เคยญาติดีกันก็กลายเป็นแตกกัน แต่ทางด้านของนายธุรการเขาก็ไม่เคยคุยดีกับใครในพี่น้องฝั่งของตน

ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นการตั้งใจมาก่อเหตุ เพราะเขาเตรียมปืนมาอยู่แล้ว นายปองภูมิไม่มีการห้ามกัน ส่วนตัวมีความกังวลใจเรื่องคดีความ เพราะมองว่านายปองภูมิน่าจะรู้เห็นด้วย กลัวว่าถ้าพ่อเขาถูกจับแล้วอาจจะเกิดความแค้นก็ได้ ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจ เพราะในใจลึก ๆ แล้ว นายปองภูมิก็เหมือนหลาน แต่เหตุการณ์นี้ให้อภัยไม่ได้จริง ๆเพราะตนสูญเสียทั้งลูกชายและน้องชาย อีกทั้งสามีก็ยังเจ็บ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

758822

นายปองภูมิ ยังบรรเทา อายุ 27 ปี ลูกชายผู้ก่อเหตุ บอกว่า ปมสาเหตุมาจากเรื่องที่ดิน นางกรุณา แม่ของตน มีการเอาที่ดินไปจำนองในตลาด โดยมีการตกลงกับนายทุนว่าจะซื้อขายกับคืนให้ตน แต่นายทุนกลับขายให้กับผู้อื่น ทั้งที่ยังไม่มีการจ่ายเงินให้กับตลาด ซึ่งมีการโอนที่ดินเป็นชื่อของนายสันชัย ผู้บาดเจ็บ พ่อตนจึงมีการร้องไปยังศาล เพราะสถานะกลายเป็นผู้เช่าอาศัย และจะถูกกรมบังคับคดีขับไล่ออกจากที่ดิน ซึ่งตนมองว่าควรจะคุยกันได้

ส่วนตัวมองว่านายสันชัย ผู้บาดเจ็บ จะมีการติดต่อซื้อขายที่ดินที่พ่อของตนเอาเข้าไปจำนอง น่าจะมีการเข้ามาพูดคุยกันเพราะเป็นคนกันเอง แต่เลือกที่จะทำลับหลัง เลยกลายเป็นปมสาเหตุของความขัดแย้งตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ครอบครัวของตนอยู่อย่างระแวงเพราะรายล้อมไปด้วยญาติของฝั่งคู่กรณี

620779

สาเหตุที่ต้องเข้าไปจอดรถในพื้นนั้น เพราะทางเป็นทางภาวะจำยอมในที่ดิน 1 งานของตนที่ถมที่ไว้ทำที่จอดรถ แต่ส่วนที่ตนไม่ได้เข้าไปบ่อย ๆ เพราะไม่อยากมีปัญหา เลยเลือกที่จอดตามทางสาธารณะ เว้นเสียแต่ที่จอดรถจะเต็มจริง ๆ ซึ่งยอมรับว่าต่างคนต่างมีอารมณ์ และไม่ชอบกันอยู่แล้วพอมีเรื่องอะไรนิดหน่อยจะไม่มีใครยอมใคร ตนก็ถูกคู่กรณีกดขี่ด่าทอเหมือนกัน เคยถูกนางวรรณีตบหน้า 1 ครั้ง เรื่องการจอดรถ ตนก็มีการแจ้งความไปแล้วก่อนหน้านี้ ในทางคดีความพ่อของตนมีนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 14 ก.พ. 65 ซึ่งก็ใช้กฎหมายตัดสิน

โดยวันเกิดเหตุ ตนเลิกงานที่จอดรถด้านนอกเต็ม จึงตัดสินใจขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถภายในพื้นที่บ้านของคู่กรณี ซึ่งทีแรกไม่เห็นว่าเล่นเปตอง พอชะลอรถไปถึงก็ไม่มีใครหลบ ตนจึงลดกระจกลงเพื่อสอบถามจะให้ตนหยุด หรือเดินหน้าต่อ ซึ่งเขาบอกแค่ว่าเล่นเปตองอยู่ ตนเลยชะเง้อดู จึงเห็นว่ามีการเล่นเปตองกันจริง แต่พูดกับตนว่าจะให้ทำอย่างไร จนมีปากเสียงกัน แล้วนายสันชัยก็พูดประมาณว่าจะขับเข้าไปก็ขับเข้าไปเลย จนกระทั่งมีการจอดรถเสร็จแล้วก็ยังมีปากเสียงกันอยู่ ตนคาดว่านายธุรการพ่อของตนอาจจะได้ยินเสียงการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ เพราะบ้านไม่ห่างไกลกันมาก

665011

พอกลับบ้านไปตนยอมรับว่ามีการเล่าให้พ่อฟังถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดไปเมื่อสักครู่ พ่อของตนก็บอกแค่ว่า "อีกแล้วหรอ" ซึ่งขณะนั้นพ่อของตนกำลังเตรียมตัวไปตลาดเพื่อซื้ออาหารให้กับไก่ พอพ่อออกจากบ้านไปสักพักได้ยินเสียงการทะเลาะวิวาท ตนจึงรีบไปที่เกิดเหตุ เพราะกลัวว่าพ่อจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงมีการถ่ายคลิปวิดีโอไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งคลิปมีความยาว 15 นาที แต่ตนตกใจรีบกดส่งให้หลายคน ก่อนที่จะพบว่าคลิปในมือถือตัวเต็มหายไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาโทรศัพท์ไปตรวจสอบ ยืนยันเจตนาถ่ายคลิปเพราะถ้าหากพ่อจะถูกรุมทำร้ายร่างกายจะได้มีหลักฐาน แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะก่อเหตุยิง เพราะตนก็ไม่เห็นว่าพ่อปกเปิดออกจากบ้านไป

893283

ในส่วนที่พ่อก่อเหตุยิงตนก็ยอมรับว่าพ่อผิด พ่อใจร้อน แต่พ่อก็ถูกกดขี่ บั่นทอนจิตใจด้วยการถูกคนรอบข้างด่ามานานแล้วเหมือนกัน อยากให้เข้าใจในสิ่งที่ตนเจอด้วย หลังจากนี้ ก็คงจะเตรียมทนายความเพื่อต่อสู้คดี และหาทางประกันตัวพ่อ

622091

นายนวพันธ์ ชัยเลิศ อายุ 40 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายสมัชฌ์ ผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสมัชฌ์ ผู้เสียชีวิต มีความสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างมาก เรียนที่เดียวกัน โตมาด้วยกัน ซึ่งเขาเป็นคนดีมาก เรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างสะเทือนจิตใจ เพราะสูญเสียทั้งเพื่อนและลุงไป จากปมสาเหตุเรื่องที่ดินที่เขามีข้อพิพาทกันมาหลาย 10 ปี ปกติแล้วนายธุรการมีปากเสียงกับคนอื่นไปทั่ว เข้ากับใครไม่ได้สักคน กับนางกรุณา ภรรยาของเขาเอง บางทีตนก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง ไม่แน่ใจว่ามีการทำร้ายร่างกายนางกรุณาหรือไม่ เรื่องปืน นายปองภูมิ มีปืนลูกซองยาวอยู่แล้ว ตนเคยเห็นถือออกมาข่มขู่ และท้าดวลปืนในบางครั้ง ส่วนนายธุรการหนักสุดก็แค่มีปากเสียงกัน ไม่เห็นมีเหตุรุนแรงถึงกับเลือดตกยางออก

ตอนตนทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก กะทันหันมาก และไม่คิดด้วยซ้ำว่านายธุรการจะกล้าก่อเหตุแบบนี้ ยิ่งทำให้ตนมองว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเกินกว่าเหตุ และยังคงรู้สึกไม่อยากให้อภัยและไม่อยากรู้จักคนชื่อธุรการ

เมื่อคืนหลังเกิดเหตุ เวลาประมาณ 03.00 น. ตนฝันเห็นนายสมัชฌ์ ผู้เสียชีวิต มาเขย่าตัว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเหมือนกับว่าโกรธแล้วไม่มีที่ระบาย พูดกับตนว่า "กูแค้น มันทำพ่อกู มันทำแม่กู มันทำญาติกู กูจะเอาคืนมัน" พร้อมเขย่าตนไปในขณะที่กำลังพูด จากนั้นตนโอบกอดนายสมัชฌ์แล้วบอกว่า "ใจเย็น ๆ ไม่เป็นไรนะ ให้กฎหมายเป็นคนตัดสิน ไม่ต้องห่วงอะไร" จากนั้นก็หายไป แล้วตนก็สะดุ้งตื่น

182844

นายธรรมนพ (สงวนนามสกุล) ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนอาศัยอยู่ในรั้วบ้านเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ปกตินายปองภูมิ จะไม่ค่อยเข้ามาจอดรถในซอย แต่ครั้งนี้เห็นว่ามีคนแก่หลายคนกำลังเล่นเปตองอยู่ จึงคาดว่าเกิดความอยากหาเรื่อง เพราะสองครอบครัวนี้มีปัญหาเรื่องที่ดินมานานกว่า 10 ปี

โดยช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งทำสวนอยู่บริเวณหน้าบ้าน พบว่านายปองภูมิ ขับรถเข้ามาภายในซอย ซึ่งตนได้ยินเสียงว่ามีปากเสียงกัน จึงเดินไปดูที่เกิดเหตุเพื่อจะเข้าไปห้าม แต่ก็เห็นว่านายปองภูมิขับรถเข้ามาจอดในพื้นที่ของเขาเองเรียบร้อยแล้ว ตอนลงจากรถก็ยังคงมีปากเสียงกับทางญาติผู้เสียชีวิต จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. นายธุรการเดินทางมาที่บ้านของผู้เสียชีวิต โดยมาพร้อมกับนายปองภูมิ มีปากเสียงกันนายสันชัย ตนก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะนายธุรการมักมีพฤติกรรมด่าทอกันเป็นเรื่องปกติ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ตนก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่านายธุรการจะกล้าก่อเหตุ

ส่วนตัวคาดปมสาเหตุเป็นเรื่องที่ดินที่เขามีข้อพิพาทกัน อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุ ตนก็อยากให้กฎหมายเป็นคนกำหนดว่าพฤติการณ์ลักษณะแบบนี้เกินกว่าเหตุหรือไม่

766905

นางกรุณา ยังบรรเทา ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า วันนี้ตนมาเยี่ยมนายธุรการโดยสภาพจิตใจยังคงดีอยู่ พูดคุยและกินข้าวได้ตามปกติ แต่ยังคงมีความกังวลใจในเรื่องของคดีความ เพราะเขาไม่เคยต้องคดีความมาก่อน ส่วนปมสาเหตุมาจากเรื่องที่ดิน ซึ่งค่อนข้างเป็นปมอยู่ในจิตใจ ตนก็ไม่อยากพูดซ้ำหลายครั้ง ที่ผ่านมาครอบครัวตนก็ถูกกดขี่ รับฟังคำพูดถากถางน้ำใจมานานหลายปี ทั้งที่ในอดีตก็เคยสนิทสนมกันดี ลูกชายตนเคยถูกทำร้ายร่างกาย จนเป็นคดีความเมื่อช่วงประมาณ 3 เดือนที่แล้ว

ยอมรับว่านายธุรการทำผิด แต่เขาคงหมดความอดทนแล้ว ถึงบันดาลโทสะก่อเหตุยิง ปืนเป็นของนายธุรการ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีครอบครองไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะคนรอบข้างมีแต่คนไม่หวังดี หลังเกิดเหตุคงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต เพราะก็ไม่เคยคุยกันมานานแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คงมีการเตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวสามีต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส