50 เมืองใหญ่ทั่วโลก เตรียมจมบาดาล หาก โลกร้อน ขึ้นมากกว่า 1.5 องศา

องค์กรด้านสิ่งแวดล้อย เผย 50 เมืองใหญ่ทั่วโลก เตรียมจมบาดาล หากนานาชาติไม่ดำเนินมาตรการ ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ โลกร้อน ขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส

วันที่ 12 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน Climate Central องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่รณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คาดการณ์ว่า เมืองใหญ่ริมชายฝั่งทั่วโลกจะจมบาดาล หากอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส โดยมีการเผยภาพจำลองสถานการณ์สุดสะพรึง หากผู้นำทั่วโลกไม่ดำเนินมาตรการลดโลกร้อนโดยเร็ว

ในข้อตกลงกรุงปารีส ที่ลงนามในปี 2558 ประเทศผู้ลงนามมุ่งมั่นที่จำกัดให้อุณหภูมิโลก สูงขึ้นต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และตั้งเป้าควบคุมอุณหภูมิของโลก ไม่ให้เพิ่มสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส

ล่าสุดบรรดานักวิทยาศาสตร์เผยว่า หากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นทะลุ 1.5 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น ซึ่งสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อผู้คน สัตว์ป่า และระบบนิเวศน์ โดย Climate Central จึงสร้างภาพจำลองจากข้อมูลงานวิจัย เรื่องผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นในระยะยาว นำเสนอสัญญาณเตือนทั่วโลกที่แบ่งออกเป็นหลายระดับ

1636705436045 — พระราชวังบักกิ้งแฮม ประเทศอังกฤษ

หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Climate Central เผยว่า หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส เราอาจรักษาเมืองใหญ่ๆ ตามแนวชายฝั่งทั่วโลกเอาไว้ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 3 องศาเซลเซียส ผลการวิเคราะห์พบว่า กว่า 50 เมืองใหญ่ตามแนวชายฝั่งทั่วโลก จะเผชิญสถานการณ์เลวร้ายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งนำไปสู่การสร้างแนวกันน้ำ หรือต้องละทิ้งเมืองเหล่านี้ไปเลย ซึ่งหมายถึงเมืองใหญ่ๆ เหล่านี้ ต้องจมบาดาลจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

การป้องกันไม่ให้อุณหภูมิสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส จะทำได้ก็ต่อเมื่อ ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงเกือบครึ่งหนึ่ง ภายในปี 2573 โดยเทียบจากระดับการปล่อยก๊าซตั้งแต่ปี 2553 และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมไปในชั้นบรรยากาศให้ได้ภายในปี 2593 ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ที่ผู้นำโลกกำลังหารือกันอยู่ในขณะนี้

ปัจจุบัน อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นแล้วราว 1.1 องศาเซลเซียส และหากอุณหภูมิสูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งถล่มและระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นถึง 10 เมตร