แก๊งมอดไม้เหิมปืนจี้เณรขังกุฏิ ลอบโค่นไม้พะยูงขาย เจ้าอาวาสโอดโดนลัก 4 รอบ (คลิป)

12 พ.ย. 64

กรณีตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าตรวจสอบบริเวณป่าสาธารณประโยชน์ ด้านหลังวัดป่าหนองเม็ก หมู่ที่ 4 ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากได้รับแจ้งจากพระในวัด ว่าต้นพะยูงอายุมากกว่า 50 ปี ที่อยู่ในป่า 1 ต้น ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาตัดโค่นเอาไป โดนมีกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธปืนบุกเข้าไปในวัด จับพระที่จำวัดอยู่ในกุฏิขังไว้ภายใน ตัดไฟฟ้าภายในกุฏิ แล้วยืนคุมเชิงไว้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 เวลา 04.00 น.

750387

วันที่ 2 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังวัดป่าหนองเม็ก หมู่ที่ 4 ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าวัดดังกล่าวมีพระจำวัดอยู่ 3 รูปรวมทั้งเจ้าอาวาส และมีเณร 2 รูปจำวัดช่วงกฐิน วัดตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน พื้นที่ของวัดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ทางเข้าของวัดมีประตูรั้ว รอบเขตแนววัดไม่มีรั้วรอบขอบชิด สามารถที่จะเข้าได้ทุกทาง แม้ว่าจะมีการปิดประตูใหญ่ก็ตาม ค่อนข้างมีป่าอุดมสมบูรณ์ มีเพียงสิ่งก่อสร้างที่เป็นอาคารปฏิบัติธรรม ศาลาใหญ่ และกุฎิพระกระจายอยู่ โดยทางเข้าวัดทั้งหมดยังคงเป็นดินลูกรัง ยึดตามแนวคิดวัดแบบธรรมชาติ

684647

ทีมข่าวยังได้เดินสำรวจภายในวัด จุดที่มีการตัดต้นพะยูงแนวเขตป่าติดกับด้านหน้าของวัด ห่างจากกุฎิของเณรหลังสุดท้าย ประมาณ 200 เมตร อีกทั้งช่วงเวลากลางคืนภายในพื้นที่วัดค่อนข้างมืด เพราะจะมีไฟสองสว่างเพียงแค่กุฎิและตัวอาคารเท่านั้น ทำให้เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาภายในวัด พระหรือเณรก็จะไม่ค่อยพบเห็นคนแปลกหน้า เนื่องจากมีต้นไม้สูงปกคลุมทั่ววัด

931085

โดยจุดที่มีการตัดต้นพะยูง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานป่าไม้พื้นที่ ให้มีการนำท่อนไม้ที่เหลือ 2 ท่อน ความยาวประมาณ 5 เมตร ไปจัดเก็บเอาไว้ เพราะกลุ่มคนร้ายหลังจากที่มีการโค่นต้นพะยูง สูงกว่า 14 เมตร ขนาด 2 คนโอบ เส้นผ่านศูนย์กล่าว 90 เซนติเมตร มีการตัดออกเป็น 4 ท่อน ท่อนละประมาณ 5-8 เมตร กลุ่มคนก่อเหตุได้นำเอาท่อนกลาง 2 ท่อนไป ทิ้งท่อนล่างและท่อนหัวทิ้งไว้ เหลือเพียงกิ่งและใบของต้นพะยูง ส่วนที่เป็นท่อนไม้กิ่งใหญ่และท่อนที่ถูกตัดทิ้งเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดนำไปเก็บเอาไว้เพื่อป้องกันการสูญหาย เนื่องจากเป็นไม้ที่มีราคา

975364

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสว่าง โดยพนักงานสอบสวนลงพื้นที่มาสอบปากคำเพิ่มเติม พระวันเพ็ญ จิตตสวโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองเม็ก และพระลูกวัด 2 รูป ส่วนเณรอีก 2 รูป ได้มีการแยกสอบต่างหาก เพราะเนื่องจากยังคงเป็นเยาวชน ตำรวจได้มีการเข้ามาสอบปากคำในประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวว่ากลุ่มคนก่อเหตุได้มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ และมีการมันมือมัดเท้ากักขังเอาไว้ภายในกุฎิ รวมทั้งมีการยึดโทรศัพท์ และมีการคุมเชิงเพื่อก่อเหตุตัดไม้

cg

เบื้องต้น จากการสอบปากคำพระในวัดส่วนใหญ่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน พระส่วนใหญ่จะอยู่กุฎิห่างออกมาจากจุดเกิดเหตุ จึงไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องราวมากนัก ทราบอีกทีก็คือตอนที่ต้นไม้ถูกตัด ดังนั้นพระที่มีการสอบปากคำวันนี้จึงไม่มีใครถูกใช้อาวุธปืนข่มขู่ ยืนยันตรงกันแต่เพียงว่ามีไฟดับในคืนวันเกิดเหตุ และได้ยินเสียงคล้ายเลื่อยยนต์ แต่ก็คิดว่าเป็นเสียงรถเกี่ยวข้าวของชาวบ้านเพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยว จึงไม่มีใครออกมาดู

369563

ขณะที่การสอบปากคำเณรก่อนหน้านี้ มีการให้ปากคำและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มคนก่อเหตุ เข้ามาก่อเหตุมากกว่า 15-20 คน มีการใช้รถหลายคัน เข้ามาก่อเหตุช่วงกลางดึก พร้อมทั้งมีการตัดไฟฟ้าที่เชื่อมมายังกุฎิของเณร เพื่อที่จะมีการเชื่อมไฟไปใช้กับเลื่อยยนต์ไฟฟ้า ทำให้คืนวันนั้นกล่าวไฟฟ้าใช้การไม่ได้ พัดลมไม่ติด กลุ่มเณรจึงออกมาดูเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ไปบริเวณจุดที่มีการตัดไม้ เพราะมีกลุ่มคนร้ายบางส่วนคุมเชิงอยู่ที่ถนนใกล้กับกุฎิ หลังจากที่กลุ่มคนร้ายทราบว่ามีพระตื่นขึ้นมา จึงได้เข้าไปใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับให้กลับเข้าไปภายในกุฎิ และบอกว่า "ไม่ต้องส่งเสียง จะได้ไม่เป็นอันตราย" จากนั้นก็ยืนคุมอยู่บริเวณหน้ากุฏิ ทำให้เณรไม่กล้าที่จะติดต่อใครในช่วงเวลาเกิดเหตุ

375516

พระวันเพ็ญ จิตตสวโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองเม็ก เปิดใจว่า ในคืนวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 10 พ.ย. เวลาประมาณ 04.00 น. ตนเองตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นแสงไฟรถวิ่งออกไปจากป่าหน้าวัด จึงนึกเอะใจว่าจะต้องมีคนมาตัดไม้ ใช้ไฟฉายไปส่องดู ตอนนั้นไม่พบกลุ่มคนก่อเหตุ เหลือเพียงร่องรอยของต้นไม้ที่ถูกตัด จึงได้ประสานไปยังลูกศิษย์วัด เพื่อให้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ แต่ก่อนวันเกิดเหตุประมาณ 3 วัน มีรถกระบะปริศนาขับวนเวียนอยู่ภายในวัด เหมือนเป็นการดูต้นทางอะไรบางอย่าง ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุนี้หรือไม่ เพราะโดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีรถแปลกเข้ามาภายในวัด

337122

โดยต้นพะยูงเป็นต้นไม้ที่อยู่กับวัดมานานมากกว่า 50 ปี ตนเองก็ไม่รู้ว่าอายุปัจจุบันเท่าไรแล้ว แต่ก็มีความกังวลใจมาโดยตลอดว่าวันหนึ่งจะถูกตัด เพราะเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่มีมูลค่าและปลูกอยู่ในพื้นที่วัด มีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 ปี มีคนมาแอบตัดกิ่งด้านบน ตนเองได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ จึงได้รีบออกไปดูตามต้นเสียง เมื่อกลุ่มคนก่อเหตุเห็นว่ามีคนมาก็ได้หนีไป แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังจับกุมไม่ได้ ม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน จากนั้นเมื่อทราบว่ามีคนจะมาตัดบ่อยครั้ง จึงได้ประสานให้ตำรวจส่งสายตรวจมาดู จนกระทั่งระยะหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการนำเหล็กมาล้อมโคนต้นทำเป็นลักษณะลูกกรงกันคนเข้าไปตัด แต่ก็ไม่คิดว่าการที่ทำเหล็กครอบเอาไว้แล้วยังถูกจับได้

พระวันเพ็ญ บอกว่าก่อนที่จะเกิดเหตุยอมรับว่าพระทุกรูปที่มาจำวัดอยู่ในวัดแห่งนี้ จะค่อนข้างมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย รวมทั้งจะต้องรีบจำวัดตั้งแต่หัวค่ำ เนื่องจากกลางคืนค่อนข้างมืดและเปลี่ยว ประกอบกับกลัวว่าจะมีกลุ่มคนคิดไม่ดีเข้ามาทำร้ายพระ เพราะหวังจะขโมยตัดต้นพะยูง แต่วันนี้หลังจากที่ถูกตัดแล้วก็คลายความกังวลไปได้บ้าง เพราะเชื่อว่าคนร้ายคงไม่มายุ่งเกี่ยวกับวัดอีก เนื่องจากไม้ที่เหลืออยู่เป็นเพียงแค่ไม้ยืนต้นไม่มีค่า

เมื่อทีมข่าวสอบถามกับเจ้าอาวาสวัดว่าอยากจะให้คนก่อเหตุรับเวรกรรมอย่างไร และอยากให้นำไม้มาคืนให้วัดหรือไม่ ทางเจ้าอาวาสไม่ได้มีการตอบคำถาม แต่นั่งหัวเราะ แล้วบอกว่าก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม