แม่สาว 17 ร่ำไห้ รถไฟชนดับ 2 ศพไร้เยียวยา - พยานช็อกคาตา เดินข้ามทางถูกดูดขยี้ร่างแหลก (คลิป)

จากกรณีวันที่ 19 พ.ย. 61 เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 024 กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี พุ่งชนร่างของ น.ส.ทิพวรรณ ชมชื่น อายุ 17 ปี และ ด.ช.ศุภรัตน์ สุระ อายุ 3 ปี ลูกพี่ลูกน้อง เสียชีวิตคารางรถไฟหน้าสถานีรถไฟชุมทางห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา สร้างความตื่นตกใจของผู้โดยสารและประชาชนที่มาเดินเที่ยวงานศาลเจ้าหน้าสถานีรถไฟ (อ่าน : ครอบครัวเหยื่อรถไฟทับ เผยยังทำใจไม่ได้-ร้องการรถไฟช่วยเหลือ)

วันที่ 21 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางมาพบครอบครัวของ น.ส.ทิพวรรณ ชมชื่น อายุ 17 ปี ผู้เสียชีวิตโดยงานศพจัดที่วัดสระจระเข้ ต.โนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

คุณเย็นฤดี ฤทธิชัย แม่ของน.ส.ทิพวรรณ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้งานงิ้วด้วย แต่ลูกสาวตนเองไปกับลูกพี่ลูกน้อง ทราบว่า งานงิ้วลูกสาวตนเองมักจะไปประจำ ขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย นำพวงหรีดมามอบให้ ขณะที่ครอบครัวไปรับศพลูกสาว พร้อมบอกกับตนเองว่า ตอนเย็นจะมีเจ้าหน้าที่การรถไฟเดินทางมาที่งานศพ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมา มีเพียงพวงหรีดมาอย่างเดียวเท่านั้น ทราบว่า เบื้องต้นการถไฟโทรศัพท์มาบอกกับคุณสว่างว่า เรื่องเงินช่วยเหลือ จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจดูก่อนว่าใครถูกใครผิด แต่ตอนนี้ตนก็จึงอยากวอนให้ทางการรถไฟช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน เพราะครอบครัวตนเองลำบากมาก ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ และมีลูกสาวอีกคนนึงซึ่งเป็นพี่สาวของน.ส.ทิพวรรณที่เสียชีวิตไป ป่วยเป็นโรคไตอยู่รพ.มหาราชซึ่งค่าใช้จ่ายเยอะไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว

ด้าน คุณศิวพร รัตนพลแสน อาจารย์ประจำชั้นของ น.ส.ทิพวรรณ เปิดเผยว่า น.ส.ทิพวรรณเป็นเด็กดีมาก เมื่อมีเวลาว่างหลังเลิกเรียนก็มักจะไปช่วยพ่อแม่ทำงานเสมอ ซึ่งฐานะทางครอบครัวของน.ส.ทิพวรรณ นั้นค่อนข้างยากจน จึงเรียนจบแค่ ม.3 และได้ไปศึกษาต่อที่ กศน.อำเภอโนนไทย ซึ่งกำลังจะจบการศึกษาม.6 แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเสียก่อน ตนเห็นว่า น.ส.ทิพวรรณเป็นเด็กดีและช่วยเหลือครอบครัว จึงอยากวอนให้การรถไฟช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในเรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ซึ่งตนทราบมาว่า การรถไฟเดินทางไปยังผู้เสียชีวิตอีกราย ที่อำเภอห้วยแถลง และมอบเงินเบื้องต้นเพียง 1,000 บาท ซึ่งตนคิดว่าชีวิตคนมีค่าเพียงแค่ 1,000 บาท เองหรืออย่างไร จึงขอฝากให้ทางการรถไฟเร่งดำเนินการด้วย

ด้าน เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนและลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คน ได้เดินทางไปเพื่อจะไปดูรถไฟเหาะในงานงิ้ว แต่ระหว่างข้ามรถไฟมานั้น จังหวะที่ตนก้าวข้ามทางรถไฟพ้นมาแล้ว แต่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ยังไม่ได้ข้ามมา ตนเห็นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ถูกลมกระชากจากรถไฟและดูดเข้าหาตัวรถไฟ กระทั่งถูกทับเสียชีวิต ตนเองรู้สึกตกใจมาก จากนั้นจึงวิ่งไปบอกญาติให้มาดู จึงพบว่า 2 คน ที่ถูกรถไฟทับเสียชีวิตแล้ว