กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 1" เผยแพร่คลิปที่มีคนกลุ่มหนึ่ง เข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูง ที่วัดโนนยาง ต.สะเมิง อ.วาริน จ.อุบล ในช่วงกลางคืน พร้อมโพสต์ข้อความว่า "ขอให้ช่วยแชร์หน่อย มาสองรอบละตำรวจก็ตามจับไม่ได้สักครั้งเลย ขออย่าให้มีครั้งต่อไป ขนาดพระประกาศใส่หอกระจายข่าวก็ยังไม่กลัว ตอนโจรขับรถออกไป ผญบ.ขับรถมาขวางก็มีเสียงปืนดัง"
ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังวัดโนนยาง ใน ต.สะเมิง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อทีมข่าวไปถึงพระครูสุวรรณ รัตนาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัดโนนยาง พาทีมข่าวไปเดินดูจุดที่คนร้ายบุกเข้ามาตัดต้นพะยูงในวัด ซึ่งยังหลงเหลือความเสียหายอยู่ คือ ตอของต้นพะยูงที่ถูกตัด
พระครูสุวรรณ รัตนาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัดโนนยาง กล่าวว่า เมื่อคืนนี้อาตมาเป็นคนที่ประกาศเสียงตามสาย เพื่อไล่กลุ่มคนที่เข้าลักลอบมาตัดไม้พะยูง ตามเวลาในกล้องวงจรปิด แต่ไม่กล้าลงมาดู เพราะพวกเขามาเยอะ เกรงว่าจะถูกทำร้าย จึงได้โทรแจ้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านมาที่วัด แต่พวกโจรก็ไหวตัวทันหนีไปได้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกพวกโจรเข้ามาตัดต้นพะยูงไป 2 ต้น ในวันที่ 18 ก.ย.64 แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด
หลังจากวันนั้นทางวัดรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติด จนทำให้จับภาพพฤติกรรมตามกล้องวงจรปิดของกลุ่มโจรที่มาลักลอบตัดไม้พะยูงได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มคนร้ายก่อเหตุอุกอาจมาก ๆ ทำได้แม้ต้นไม้อยู่ในวัด อาตมาก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ ตอนนี้ให้กำนันไปแจ้งความไว้แล้ว หวังว่ากลุ่มคนร้ายจะไม่เข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก
นายประจวบ มากมูล อายุ 58 ปี กำนันตำบลสะเมิง ที่อยู่ในเหตุการณ์ในคลิปกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า จริง ๆ ตอนเกิดเหตุ เสียงปืนที่ได้ยินไม่ใช่เสียงปืนของชาวบ้าน หรือผู้ใหญ่บ้านตามที่เป็นข่าวออกไป แต่เป็นเสียงปืนของกลุ่มคนร้ายที่มาตัดไม้พะยูง ที่พวกเขายิงเปิดทางหนี เพราะตอนนั้นตนกับชาวบ้านพยายามนำรถมาจอดปิดทางที่หน้าวัด แต่ก็จับกลุ่มคนร้ายไม่ได้ ซึ่งกลุ่มคนร้ายอาศัยช่วงชุลมุนที่ชาวบ้านวิ่งหลบกระสุนปืนรีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
โดยเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ 2 ซึ่งเหตุการณ์แรกเมื่อวันที่ 18 ก.ย.64 คนร้ายได้ลักลอบตัดต้นพะยูงไปได้ 2 ต้น และได้นำไม้ออกไป 4 ท่อน และเหตุการณ์ครั้งนี้คนร้ายตัดต้นพะยูงไปได้เพียง 1 ต้น และได้นำไม้ขึ้นรถหลบหนีไปได้ 2 ท่อน หลังจากเหตุตนก็ได้ไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว เพื่อดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ปรากฏว่ากล้องตามเส้นทางเสียหายหลายจุด จึงทำให้ยังไม่รู้ตัวคนร้ายว่าเป็นใครและมาจากไหน
จากการตรวจสอบพบว่าวัดอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ปลูกต้นพะยูงเอาไว้ในวัด ก็ถูกคนร้ายลอบตัดไม้พะยูงไปเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงจะต้องหาวิธีช่วยกันป้องกันไม่ให้คนร้ายกลุ่มนี้เข้ามาลักลอบตัดไม้ในวัดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งต้นไม้ทั้งหมดในวัดเป็นสมบัติของเจ้าอาวาสรูปก่อน ๆ ที่ช่วยกันปลูก และชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลมากว่า 45 ปี