ยังคงเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม สาวคาราโอเกะ ด้วยฝีมือของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว อายุ 24 ปี พร้อมพวกอีก 4 คน โดยก่อนหน้านี้หลายคนเห็นการโพสต์ภาพงานพิธีมงคลสมรสของฟร้อนกับเปรี้ยว หลังจากนั้นไม่นานฟร้อนก็ถูกซัดทอดว่าพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดจนทำให้ถูกจับและติดคุกหลังแต่งงาน เปรี้ยวจึงเกิดความแค้นที่แอ๋มซัดทอดมายังสามีตน ก่อนจะก่อคดีฆ่าโหดดังกล่าว จนถึงตอนนี้หลายคนอยากทราบพฤติกรรมของเปรี้ยวว่าแท้จริงแล้วเป็นคนมีลักษณะนิสัยอย่างไร
ล่าสุด 1 มิถุนายน 2560 เวลา 18.50 น.
เนียม แม่ฟร้อนอดีตสามีเปรี้ยว ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ผ่านรายการต่างคนต่างคิด ว่า เปรี้ยวกับ ฟร้อน ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน ก่อนตัดสินใจแต่งงานกันในช่วง พ.ย.2558 หลังจากแต่งงานได้เพียง 1 เดือน ฟร้อนต้องมาถูกตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด ส่วนในมุมมองของตนคิดว่าเปรี้ยวเป็นคนสนุกสนาน เป็นคนดี และชอบดื่ม อาจเป็นเพราะฟร้อนและเปรี้ยวแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน จึงไม่ได้เรียนรู้พฤติกรรมกันมาก
เนียม แม่ฟร้อน บอกอีกว่า ขณะนี้สังคมมาโยงเรื่องลูกชายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่เปรี้ยวฆ่าแอ๋ม ซึ่งอยากให้หยุดตีแผ่ เนื่องจากแม่เปิดร้านค้าก็ได้รับผลกระทบ ส่วนที่บอกว่าเปรี้ยวแก้แค้นเเทนฟร้อน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะ
ชีวิตเปรี้ยวหลังฟร้อนติดคุกก็ใช้ชีวิตหรูหราไม่ได้แสดงถึงความเศร้าแม้แต่น้อย และเปรี้ยวก็ไม่ได้มาหาตนอีกเลยเพราะตนไม่ได้ร่ำรวย ด้านฟร้อนหลังจากรู้เรื่องเปรี้ยวก็ตกใจ เพราะไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะลงมือฆ่า เนื่องจากไม่เคยเห็นพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน
ปัญญา สายเนตร สมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก "เปี๊ยกแลนด์ 2" บอกว่า ปรียานุช หรือเปรี้ยว อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กของพวกตน และชอบโพสต์รูปหวือหวา เพื่อดึงยอดไลค์ จนบางครั้งโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสมจึงได้เชิญออกจากกลุ่ม แต่มีช่วงหนึ่งที่ตนเคยได้เชิญให้ นางสาวปรียานุข หรือเปรี้ยว ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กของตน เมื่อช่วงประมาณวันที่ 20-21 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าเปรี้ยวสวยและน่ารัก บทสนทนาที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเซ็กส์ มีบางครั้งที่เปรี้ยวส่งเสียงครางมา และทางเปี๊ยก ไรเดอร์เคยเตือนว่าไม่ให้ไปยุ่ง แต่หลังจากโดนเตือน ก็มีข่าวของเปรี้ยวออกมา ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมาก ในมุมมองของตนคิดว่าเปรี้ยวเป็นคนที่แรงและน่ากลัว และไม่คิดว่าคนที่เคยคุยเป็นฆาตกรหั่นศพ
ผศ.ดร.ก.บ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล บอกว่า การวิเคราะห์ว่าบุคคลใดเป็นผู้ป่วยทางจิต ต้องย้อนดูปมในอดีตในช่วง 14 ปีแรก ว่ามีเรื่องจำฝังใจ มีความแค้น ความโกรธ บ้างหรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากโดนเก็บกดสมองก็จะไปสั่งการยังเซลล์ตัดสินใจให้ลงมือ และต้องให้จิตแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยคนไข้ ส่วนคนที่ยืนดูคนหั่นศพ อาจเป็นคนที่มีคุณธรรมที่ต่ำ แต่ไม่ได้ป่วย อาจเกิดจากความตกใจเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียด หรืออีกสาเหตุเกิดจากจริตเดียวกัน คือพวกที่ชอบเลียนแบบหนังเช่นตุ๊กตาชัคกี้ ก็แสดงออกถึงความคิดแง่ลบ ส่วนหลังจากคนเหล่านี้ได้รับโทษ ก็อยากให้ทางสังคมให้โอกาส เพราะบางคนได้รับการบำบัดมา กลับออกมาก็อาจจะเป็นพลเมืองดี ดีกว่าตายไปตามกัน