จากกรณีที่มีหญิงรายหนึ่ง เข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ภายหลังจากเข้าทำศัลยกรรมหน้าอก ที่คลินิกย่านรังสิต จนกระทั่งหน้าอกเน่า และเสียเลือดจนเกือบเสียชีวิต แต่ทางคลินิกยังบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ จึงออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ
วันที่ 25 พ.ย. 61
นางสาวฟ้า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกย่านรังสิต เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยภายหลังจากการทำศัลยกรรมหน้าอกแล้ว พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น คือมีอาการบวมช้ำเลือด และเจ็บที่บริเวณรอบหน้าอก ต่อมาวันที่ 8 ส.ค. จึงตัดสินใจเข้าพบหมอที่ผ่าตัดอีกครั้ง ปรากฎว่าเป็นอาการของเลือดตกคั่ง จึงมีการผ่าตัดเพื่อเอาเลือดในส่วนที่ตกค้างออก แล้วกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านตามปกติ แต่ในขณะนั้น มีอาการปวดและมีน้ำเหลืองลักษณะสีคล้ายเลือดจาง ๆ ซึมออกที่บริเวณปากแผลตลอดเวลา ประกอบกับร่างกายเริ่มมีอาการวิงเวียน จึงตัดสินใจเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ทำให้ทราบว่าตนติดเชื้อจากการผ่าตัด และเสียเลือดจำนวนมาก แพทย์จึงให้แอดมิดกว่า 1 สัปดาห์ และให้เลือดจำนวน 5 ถุง ซึ่งเกือบเสียชีวิต จากพิษของศัลยกรรมหน้าอก
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คลินิกไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องรับผิดชอบค่าเสียหายแต่อย่างใด มีเพียงแค่จะผ่าตัดให้ใหม่เท่านั้น แต่ค่ารักษาตัว ค่าซิลิโคน และอื่น ๆ ตนต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งหมด ซึ่งตนรู้สึกไม่ค่อยพอใจเนื่องจากตนเกือบเสียชีวิตจากการทำศัลยกรรมครั้งนี้ จึงคิดว่าคลินิกหรือแพทย์ควรรับผิดชอบทั้งหมด
โดยก่อนผ่าตัด ต้องจ่ายเงินค่ามัดจำก่อนประมาณ 30,000 บาท ซึ่งทางคลินิกดังกล่าว มีการโฆษณาว่าจะให้ผ่าตัดกับแพทย์อีกรายหนึ่งที่คลินิกย่านลาดพร้าว แต่เมื่อถึงวันกำหนดผ่าตัด กลับไม่ใช่ แพทย์ที่ผ่าตัดไม่ใช่แพทย์ที่คลินิกย่านลาดพร้าวตามที่ตกลงกันไว้ อีกทั้งคลินิกแห่งนี้เปลี่ยนชื่อบ่อยครั้ง แต่สุดท้ายตนก็ต้องจำใจเข้าผ่าตัด เนื่องจากจ่ายเงินค่ามัดจำไปแล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย
ต่อมาเมื่อตนพักรักษาตัวอาการดีขึ้นแล้ว จึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงในกลุ่มไลน์ของคลินิก เพื่อที่จะให้คนไข้รายอื่น ๆ ได้ทราบถึงอาการของตนด้วย ปรากฏว่ามีคนไข้ที่ประสบปัญหาแบบตนเข้ามาแสดงตัวจำนวนมาก จึงตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อเดินหน้าเรียกร้องให้คลินิกรับผิดชอบทั้งหมด เพื่อให้ชีวิตของตนและผู้เสียหายอีกหลายรายกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ส่วนอาการของตนในขณะนี้ ยังไม่มีหายเป็นปกติหน้าอกมีอาการบวมไม่เหมือนเดิม ยกแขนลำบาก ซึ่งยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ ตนเครียดและดำเนินชีวิตยากลำบาก
ด้าน
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียผลประโยชน์จากอาการแทรกซ้อน จากการทำหน้าอก จนไม่สามารถไปทำงานได้ ค่าเสียขวัญ ตลอดจนคลินิกเองจะต้องรับผิดชอบในการตกแต่งหน้าอกของผู้เสียหายให้กลับคืนมาในสภาพปกติด้วย
นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังสามารถดำเนินการตรวจสอบสถานพยาบาล และเอาผิดทางคดีอาญาได้ ทั้งเรื่องมาตรฐานของคลินิก การตรวจสอบแพทย์ผู้ผ่าตัดศัลยกรรมว่ามีการประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บติดเชื้อหรือไม่ และมีความผิดเรื่องของการปลอมแปลงข้อมูลเท็จ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.สถานพยาบาลเอกชน เนื่องจากมีข้อมูลว่า คลินิกดังกล่าวเปลี่ยนแปลงชื่อบ่อยครั้ง และมีข้อมูลที่โฆษณาไม่ตรงกับความเป็นจริง ขณะเดียวกัน เร็ว ๆ นี้ จะนำผู้เสียหายอีกกว่า 10 ราย จำนวนนี้มีผู้เสียหาย 4 ราย ที่อาการสาหัสเกือบเสียชีวิต เข้าร้องขอให้มีการตรวจสอบ และเอาผิดกับคลินิกด้วย