รวบหนุ่มหื่น ลวงนศ.ขืนใจม่านรูด พนง.เล่านาทีเหยื่อหนี อึ้ง ประวัติข่มขืน (คลิป)

กรณีตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจากเพื่อว่า น.ส.เอ นักศึกษา อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง จ.นครปฐม ขอกำลังตำรวจช่วยติดตามหาเพื่อน เนื่องจากหายไปก่อนมาช่วยกิจกรรมนั้น วันที่ 27 พ.ย. 61 น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยเหตุการณ์ว่า ตนนัดเพื่อนไว้เพื่อจะไปงานองค์พระปฐมเจดีย์ แต่เมื่อมาถึงเวลาแล้วไม่เจอเพื่อน จึงคิดว่าเพื่อนน่าจะไปที่งานหมดแล้ว กระทั่งเจอคนร้ายขี่จักรยานยนต์ที่จุดรอรถจักรยานยนต์รับจ้าง และสอบถามตนว่าจะไปไหน ก่อนจะให้ตนขึ้นรถไปจากมหาวิทยาลัย โดยตนเองเป็นคนกรุงเทพฯไม่ทราบเส้นทาง แต่คนร้ายบอกว่าจะไปทางลัด เมื่อถึงเผยที่มืดเปลี่ยวได้เผยตัวเป็นคนร้ายและลงมือทำร้ายร่างกายชกเข้าที่หน้าท้องจนจุกไม่มีแรง และถูกคนร้ายข่มขืน 1 ครั้ง

จากนั้น คนร้ายพาตน ขึ้นรถจักรยานยนต์พานั่งซ้อนท้ายไปที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ริมถนนมาลัย ห่างจากมหาวิทยาลัย ประมาณ 10 กิโลเมตร และพาเข้าไปข่มขืนอีก นอกจากนี้ ยังได้ปลดทรัพย์ของตนไปจนหมด หลังจากนั้นตนเองได้ขอความช่วยเหลือจากพนักงาน และโทรศัพท์ไปหากลุ่มเพื่อน จากนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารับตัว ทั้งนี้ ในการเข้ารับตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ พบว่า น.ส.เอ มีอาการหวาดผวาตัวสั่น จึงได้นำมาอยู่ในจุดปลอดภัย และสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิกไอ สีดำแดง ทะเบียน 1 กข94 นครปฐม ซึ่งเบื้องต้นภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า จอดในโรงแรมดังกล่าว เห็นชายที่ปรากฏพร้อมกับรถ และจากการออกสำรวจเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายพา น.ส.เอ ไป พบว่า เป็นถนนนอกเมือง มีบ้านเรือนตลอดทาง แม้จะเป็นที่มืดเงียบ แต่ก็มีรถสัญจรในช่วงหัวค่ำ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวตั้งด่านตรวจสกัดในหลายเส้นทาง เนื่องจากเป็นช่วงงานเทศกาลงานประจำปีองค์พระปฐมเจดีย์ จึงทำให้มีคนพลุกพล่านไม่น้อย

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง จากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนถนนมาลัยแมน โดยทีมข่าวสังเกตว่าโรงแรมแห่งนี้ เป็นลักษณะโรงแรมชั่วคราว มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 30 ห้อง โซนแถวหน้าจำนวน 26 ห้อง และส่วนหลังซึ่งเป็นห้องจุดเกิดเหตุอีก 4 ห้อง โดยรอบข้างของโรงแรมทำเป็นรั้วสูง ปิดบังโรงแรมเอาไว้ และเป็นลักษณะโรงแรมชั้นเดียว ลักษณะภายในค่อนข้างมืด มีไฟสองสว่างเป็นบางจุด

โดย พนักงานโรงแรมชาย ซึ่งเป็นพนักงานรับส่งแขกเข้าห้องพัก เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ขับเข้ามา โดยมีชายและผู้หญิงเข้ามาด้วยกัน ตนเองก็ไม่ได้สังเกตมาก คิดว่าเป็นคู่รักธรรมดา หลังจากนั้นทั้งคู่จึงขอเปิดห้อง ซึ่งในระหว่างนั้นผู้หญิงก็ไม่ได้มีอาการเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือ หรือแสดงอาการตกใจแต่อย่างใด และสังเกตว่าชุดการแต่งกายก็คล้ายกับพนักงานทั่วไป ไม่เห็นว่าฝ่ายหญิงใส่ชุดนักศึกษาด้วย

ต่อมา น.ส.ดาว (นามสมมติ) พนักงานต้อนรับหญิง ให้ข้อมูลว่า ขณะที่มีชายขับรถมอเตอร์ไซต์เข้ามาขอเปิดห้อง คนขับคือผู้ชายที่ก่อเหตุ ส่วนคนที่นั่งข้างหน้าคือผู้หญิง ขณะนั้นพนักงานต้อนรับทุกคน ไม่ทราบว่าผู้หญิงสวมใส่ชุดนักศึกษาหรือไม่ เพราะมีการนำเสื้อคลุมสีแดงคลุมตัวผู้หญิงเอาไว้ และให้นั่งซ้อนด้านหน้า จากนั้น ชายคนดังกล่าวขับรถย้อนศร โดยขับจากทางออกย้อนกลับไปที่ทางเข้า เพื่อจะไปใช้ห้องด้านหลังในสุด ซึ่งเป็นห้องที่แยกส่วนจากส่วนตรงกลาง จากนั้นพนักงานชายที่เข้าไปส่งน้ำดื่ม สังเกตว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ส่งเสียงว่า “พี่” จากนั้นผู้ชายก็รีบปิดประตู ซึ่งพนักงานชายก็พยายามสังเกตอยู่นอกห้อง แต่ก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ กระทั่งเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผู้หญิงคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากห้อง มายืนอยู่ที่ด้านหน้าแคชเชียร์ จึงเห็นว่าสวมใส่ชุดนักศึกษา และบอกให้พนักงานไปบอกให้ นศ.คนดังกล่าว ว่า “ที่นี่เข้าไม่ได้” แต่ผู้หญิงคนนี้พยายามกระซิบบอกกับพนักงานว่า “เขาจะข่มขืนหนู”  ไม่นานนัก ผู้ชายก็เดินตามออกมา ขณะนั้นตนเห็นว่า ทั้งคู่มีลักษณะเหมือนทะเลาะกัน จากนั้นฝ่ายผู้หญิงพูดขึ้นว่า “พี่ ช่วยไล่ผู้ชายคนนี้ไปหน่อย” ตนเองจึงแจ้งว่า พนักงานไม่มีสิทธิ์ไล่ลูกค้า จากนั้นผู้ชายได้ทำเสียงดุใส่ผู้หญิงว่า “จะไปไหม” จากนั้นผู้หญิงก็บอกว่า “จะไปไหนก็ไป อย่าให้เรื่องนี้ถึงตำรวจ” ผู้ชายคนดังกล่าว จึงรีบขับรถออกไป จากนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พนักงานฟัง ซึ่งพนักงานก็ได้ถามว่าเหตุใดจึงไม่แจ้งพนักงานแต่แรกว่าถูกข่มขืน หรือขอความช่วยเหลือ แต่ผู้หญิงก็ไม่ได้บอกอะไร กระทั่งขอเข้ามาชาร์จแบตในออฟฟิศ จากนั้นก็ได้โทรไปติดต่อกับเพื่อนและแจ้งตำรวจ ทุกคนก็เข้ามาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว และอยู่ในระหว่างสอบปากคำ รวมถึงตรวจสารเสพติดในร่างกายแล้วกำลังรอผลอย่างละเอียด ส่วน น.ส.เอ นำไปตรวจร่างกาย เบื้องต้นเชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อให้ดูแลสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยพบว่า นักศึกษาสาวเป็นเด็กเรียบร้อย ยังไม่ทันกลของคนร้าย ทั้งนี้ ชายคนที่โดนจับ มีอายุ 38 ปี จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อมาเมื่อ 10 ปีก่อน โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่น ซึ่งไม่ใช่ภรรยาไว้ก่อน