จากกรณีเกิดเหตุรถไฟขบวนทักษิณารัถย์ หาดใหญ่-กรุงเทพ เฉี่ยวชน น.ส.กรรณิการ์ แก้วสิน หรือ น้องบีม อายุ 21 ปี นักศึกษาของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว หลังจากยืนคุยโทรศัพท์ใกล้กับรางรถไฟบนสถานีรถไฟพัทลุง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีเร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพัทลุงนั้น
วัทนี่ 24 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่สถานีรถไฟพัทลุง พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณฟุตพาทนอกชานชาลา ติดกับจุดจอดรถจักรยานยนต์ ตรงข้ามกับตลาดนัด โดยบริเวณดังกล่าวไม่ได้มีไม้กั้นแต่อย่างใด
โดยเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟพัทลุง ระบุว่าบริเวณดังกล่าวอยู่นอกชานชาลา เป็นจุดที่ทางสถานีเอาไว้ขึ้นลงสินค้า แต่ปกติไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากนายสถานีที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้เข้าเวรในวันนี้
นายพิธยุษม์ สุวรรณจินดา อายุ 36 ปี พ่อค้าตลาดนัด เล่าว่า เมื่อวานนี้ 23 พ.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนกำลังขายของ สังเกตเห็นแม่ค้า และชาวบ้านวิ่งไปดูที่จุดเกิดเหตุ ตนจึงวิ่งตามไป พบว่า น.ส.กรรณิการ์ หรือ น้องบีม นอนเลือดอาบหน้าอยู่บนฟุตพาท โดยมีเพื่อนคอยปั๊มหัวใจ จากนั้นจึงช่วยกันโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลมารับตัวไป
โดยช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียง ทราบแค่รถไฟขับเข้ามาในสถานีตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่คนในพื้นที่ก็ไม่มีใครไปยืนที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพราะรู้ว่าอันตราย ไม่มีไม้กั้น
ด้านนางอุบล แก้วสิบ อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.กรรณิการ์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ 23 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. เพื่อนน้องบีมโทรศัพท์มาบอกว่าน้องบีมถูกรถไฟเฉี่ยวบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันที ในตอนแรกตนไม่ได้เข้าไปดูลูกสาวเพราะทำใจไม่ได้ ทราบเพียงว่ากะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคลั่งในสมอง กระดูกบริเวณหน้าแตก เมื่อคืนนี้แพทย์ได้ฉีดยากระตุ้นหัวใจ
ซึ่งล่าสุดญาติได้คุยกันแล้วว่าจะไม่ฉีดยากระตุ้นอีก ขอปล่อยให้น้องบีมค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจไปเอง เนื่องจากตนก็สงสารลูกที่ต้องมาทรมาน ตอนนี้ทำได้แค่รอเวลา หลังจากนั้นก็จะรับลูกกลับบ้านเกิดที่ อ.นาทวี จ.สงขลา
โดยตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก น้องบีมเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาลูกทั้งหมด 7 คน วันเกิดเหตุทราบว่าน้องบีมกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่สาวอีกคนที่อยู่กรุงเทพฯ ได้ยินเสียงกรี๊ดสั้น ๆ ก่อนจะเงียบไป แต่ก็ยังไม่สามารถคุยรายละเอียดได้มาก เพราะพี่สาวน้องบีมก็ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้น้องบีมเรียนอยู่ปี 3 กำลังฝึกสอนที่ รร.ประถมแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ซึ่งน้องบีมก็ถือเป็นความหวังของครอบครัว เพราะเหลืออีกแค่ 1 ปีจะจบการศึกษา ตอนนี้เสียใจมาก ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ทางการรถไฟออกมารับผิดชอบเพราะมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณสถานีรถไฟ
นาสาวสุภาวดี แก้วสิน อายุ 37 ปี พี่สาวของน้องบีม เล่าทั้งน้ำตาว่า ได้คุยโทรศัพท์กับน้องบีมครั้งล่าสุดเมื่อวานตอนเที่ยง เรื่องซื้อโลชั่นและได้ถามน้องว่าสอนเสร็จหรือยัง น้องตอบว่าเสร็จแล้ว ดูเสียงน้องอ่อยเหนื่อย ๆ ช่วงที่น้องกลับบ้านเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พวกพี่ ๆ ยังบอกน้องบีมว่าทุกคนเตรียมของขวัญวันเรียนจบไว้ให้แล้ว แต่น้องกลับตอบว่าไม่รู้จะได้รับปริญญาไหม เพราะเหนื่อยมาก งานเยอะมาก กว่าจะได้หลับได้นอนก็ดึก ตนก็ให้กำลังใจให้อดทน เพราะเหลืออีกปีเดียวแล้ว สำหรับตัวน้องบีมเรียนเก่ง และเป็นลูกคนเดียวที่มีโอกาสเรียนสูงจนจบปริญญา เป็นความหวังของพี่น้อง