ขนลุก! ลูกเฝ้าศพแม่ 4 วันไม่รู้ว่าตาย อึ้งเพิ่งลุกกินข้าว คนผวาวิญญาณโผล่กวาดบ้าน (คลิป)

25 พ.ย. 64

จากกรณี วันที่ 24 พ.ย.64 เวลา 16.45 น. พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านนาน 4 วัน กับเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่อยู่เฝ้าศพเพียงลำพัง โดยไม่ทราบสาเหตุ

830050

ล่าสุด วันที่ 25 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในบ้าน หมู่ 2 ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี พบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกปิดล็อก อีกทั้งผู้เสียชีวิตยังเลี้ยงหมาบางแก้วไว้จำนวน 5-6 ตัว ทีมข่าวจึงไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้

848005

หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังวัดจันทเขลม ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี สถานที่จัดสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ของญาติ กลุ่มเพื่อน และเพื่อนบ้านที่มารอร่วมฟังสวดศพในช่วงเย็น

547197

นางวิชณี สุขทวี หรือ วิกี้ อายุ 40 ปี เพื่อนสนิทผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เกตุมณี อายุ 40 ปี ส่วนเด็กที่อยู่กับศพ คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เท่าที่ตนรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร ชอบทำบุญ ปัจจุบัน น.ส.เกตุมณี พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับ ด.ญ.เอ ลูกสาว ตามลำพัง หลังได้เลิกรากับอดีตสามีชาวฝรั่งไปนานหลายปี ส่วนสามีใหม่ก็แยกตัวไปอยู่อีกบ้าน เพื่อดูแลแม่ที่ผู้ป่วยอยู่ต่างอำเภอ แต่ก็จะแวะกลับมาบ้านบ้าง เพื่อนำอาหารมาให้

374713

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมาทราบข่าววานนี้ ช่วง 12.00 น. หลังจาก ด.ญ.เอ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต โทรศัพท์ไปบอกน้องสาวของผู้เสียชีวิตว่า น.ส.เกตุมณี นอนหลับไม่ตื่น จึงอยากให้เข้ามาดู ปรากฏว่า น.ส.เกตุมณี นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างที่นอนโซฟาลักษณะสภาพสวมเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว ท่อนล่างเปลือย กางเกงถูกถอดวางอยู่ที่ก้น สภาพศพเริ่มบวมอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน โดยที่ไม่มีใครทราบ เพราะปกติจะไม่มีคนเข้าไปในบ้านได้ หาก น.ส.เกตุมณี ไม่ออกมารับ เนื่องจากเจ้าตัวเลี้ยงสุนัขดุพันธุ์บางแก้ว 5-6 ตัว จึงเป็นเหตุที่ไม่มีใครเข้าไปพบเห็นสภาพศพ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

410622

โดยล่าสุดที่ตนได้พูดคุยกับ น.ส.เกตุมณี วันที่ 10-14 พ.ย. ตอนไปเยี่ยม น.ส.เกตุมณี ที่บ้านก็พบว่าเจ้าตัวมีลักษณะผอมแห้ง ไม่มีแรงหายใจติดขัด เนื่องจากป่วยเป็นโรคประจำตัวอะไรบางอย่าง ก็ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตในฐานะเพื่อนสนิท ตนไม่ได้ติดใจในการตาย เนื่องจากรอยบาดแผลบริเวณศีรษะ ที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเกิดจากล้ม ส่วนสภาพศพเปลือยท่อนล่าง น่าจะมาจากผู้เสียชีวิตน่าจะร้อน เนื่องจากเจ้าตัวต้องใส่แพมเพิท จึงคิดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรม จากการพูดคุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่มีใครติดใจ

cg2

ส่วนกรณี ของ ด.ญ.เอ ที่ใช้ชีวิตอยู่กับศพผู้เป็นแม่เพียงลำพังนาน 4 วัน จากการสอบถาม ด.ญ.เอ ให้ข้อมูลว่า 3-4 วันที่ผ่านมา ยังใช้ชีวิตอยู่กินนอนกับแม่ และพูดคุยกันตามปกติ จนวันที่ 24 พ.ย.ช่วง 12.00 น. แม่นอนนาน เรียกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น จึงโทรบอกญาติให้มาดู จึงรู้ว่ากลายเป็นศพ ซึ่งสำหรับเหตุการณ์นี้ตนมองว่าช่วงวันที่ 21-23 พ.ย. 64 วิญญาณของ น.ส.เกตุมณี น่าจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเสียชีวิต ในวันที่ 24 พ.ย.64 วิญญาณของน.ส.เกตุมณี จึงออกจากร่างไป จนทำให้ ด.ญ.เอ เห็นความผิดปกติ ในส่วนนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หลังจาก น.ส.เกตุมณี เสียชีวิต ตนก็รู้สึกเสียใจ หากมีโอกาสก็อยากให้ดวงวิญญาณไปสู่สวรรค์ ไม่ต้องห่วงอะไร เนื่องจาก ด.ญ.เอ ทางญาติจะเป็นคนดูแลต่อเอง

412206

นางนิตยา พลพาน อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ส่วนตัวตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณเหมือนตามที่เคยดูในหนัง ที่ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตยังคงใช้ชีวิตอยู่กับลูก โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิต ซึ่งหากมองตามหลักความเป็นจริง ด.ญ.เอ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ก็อายุ 12 ปีแล้ว หากเรื่องที่เด็กเล่าไม่เป็นความจริง เด็กจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าแม่ของตัวเองเสียชีวิต แต่นี่เด็กกลับให้ข้อมูลว่า 3-4 วันที่ใช้ชีวิตอยู่กับศพผู้เสียชีวิต เป็นผู้ทำกับข้าวให้เด็กกินทุกวัน ผู้เสียชีวิตยังพูดคุยกับเด็ก ผู้เสียชีวิตยังลุกขึ้นไปดื่มน้ำกิน กระทั่งเด็กมาเห็นความผิดปกติในวันที่ 24 พ.ย.64 เนื่องจากเด็กบอกว่าแม่นอนหลับไม่ตื่น ไม่ยอมลุกมาคุยด้วยเหมือนเดิม

633040

ในส่วนนี้ตนจึงเชื่อว่า สิ่งที่เด็กพูดทั้งหมดน่าจะเป็นความจริง และอาจจะเกิดขึ้นเพราะดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นห่วงลูก อีกทั้งยังเกิดเรื่องประหลาดมากมาย เช่น ภายในระยะเวลา 3-4 วัน ที่ไม่มีคนรู้ว่าผู้เสียชีวิตกลายเป็นศพ มีชาวบ้านพบเห็นดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปเดินตลาดบ้าง ขับรถผ่านหน้าบ้านและเห็นดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตกวาดบ้าน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล

400353

นายชัยวัฒน์ อุปคุณ อายุ 22 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกตกใจและหดหู่ พร้อมทั้งสงสารหลานสาววัย 12 ปี ที่ต้องมาเสียแม่ไป ตอนที่ยังอายุยังน้อย ซึ่งกรณีการเสียชีวิตในครั้งนี้ คนในครอบครัวยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรที่แน่ชัด เนื่องจากต้องรอผลชันสูตรที่แน่ชัดอีกครั้งว่าการเสียชีวิตของพี่สาวเกิดจากโรคประจำตัวหรือไม่ เนื่องจากคนในครอบครัวทราบเพียงแค่ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาพี่สาวติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย และเริ่มมีอาการป่วย เนื่องจากร่างกายอ่อนแอลง

กระทั่งวานนี้ 24 พ.ย.64 ช่วง 12.00 น. มาทราบข่าวจากทางหลานสาวว่า พี่สาวของตนนอนไม่ฟื้นให้รีบมาดูหน่อย ตนจึงให้หลานสาวทำการผูกหมาบางแก้วไว้ ก่อนกลุ่มญาติจะเดินทางเข้าไปตรวจสอบจนพบว่าพี่สาวเสียชีวิต ส่วนกรณีเรื่องหลานสาวที่ใช้ชีวิตอยู่กับศพของพี่สาวนั้น ตลอดระยะเวลา 3-4 วันก่อนพบศพ หลานสาวไม่ได้ให้รายละเอียดเจาะลึกที่แน่ชัด เล่าให้ฟังได้เพียงแค่ว่าขณะที่อยู่กับแม่ แม่เป็นคนหากับข้าวและพูดคุยอยู่ด้วย ก่อนจะนิ่งหลับไป ทั้งนี้ ปมเหตุที่เกิดขึ้นทางครอบครัวไม่ได้ติดใจอะไรกับการเสียชีวิตของพี่สาวในครั้งนี้ เพราะสภาพศพที่เห็นว่าพี่สาวไม่ได้สวมใส่กางเกงนั้น เชื่อว่าพี่สาวน่าจะเป็นคนถอดด้วยตัวเองมากกว่า เนื่องจากเป็นคนขี้ร้อน ทางครอบครัวจึงคิดว่าไม่เกี่ยวการฆาตกรรม แต่เป็นการเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว

132773

เวลา 17.30 น. ที่วัดจันทเขลม ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ศพผู้เสียชีวิตได้ถูกเคลื่อนย้ายจากนิติเวชมาจัดตั้งที่วัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ขณะตอนน้องสาวของผู้เสียชีวิต น้าสาวเด็ก เดินมากอดหลานสาววัย 12 ปี ดูญาติ ๆ นำศพผู้เสียชีวิตใส่โลง ซึ่งจากการสังเกต ด.ญ.เอ อยู่ในอาการซึมเศร้า น้ำตาคลอ มองดูศพแม่

321078

นางมรินญาฐร อุปคุณ อายุ 35 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต-น้าสาวเด็ก เปิดเผยว่า ตอนนี้หลานสาวมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และไม่พร้อมตอบคำถามใด ๆ ตนจึงขอให้ข้อมูลบางส่วนแทน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมาทราบวานนี้ 24 พ.ย.64 หลังหลานสาวโทรศัพท์มาบอกว่าพี่สาวของตนนอนหลับไม่ยอมตื่น ให้ช่วยมาดู ตนจึงรีบเดินทางไปที่บ้านของพี่สาว พบว่าพี่สาวอยู่ในสภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างโซฟา สวมเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว บริเวณท่อนล่างเปลือย กางเกงถูกถอดวางอยู่ที่ก้น สภาพศพเริ่มบวมอืด จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ

126210

สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดนั้น คนในครอบครัวไม่มีใครทราบว่าการเสียชีวิตจากตัวพี่สาวมีโรคประจำตัวหรือไม่ รู้เพียงแค่ว่า 2 เดือนก่อนพี่สาวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากนั้นพี่สาวก็เริ่มร่างกายอ่อนแรง ส่วนนี้จึงต้องรอผลชันสูตรจากทางแพทย์ที่แน่ชัด ส่วนกรณีของหลานสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับศพของพี่สาวนาน 4 วันนั้น อยากให้คนมองคำพูดของหลานเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล แต่จากการสอบถามหลานสาวหลายครั้ง เจ้าตัวก็ยังคงยืนยันคำเดิม ทั้งนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนรู้ว่าพี่สาวของตนไม่มีชีวิตอยู่แล้ว และหลานของตนต้องใช้ชีวิตอยู่กับศพ ตนก็คงไม่ปล่อยให้หลานสาวอยู่ลำพัง

856330

ด้านนายอทิตยา กลิ่นขจร อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมะสถานจันทบุรี กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ย.64 เวลา 12.00 น.
ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรีว่ามีเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านนาน 4 วันกับเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่อยู่เฝ้าศพเพียงลำพัง โดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุเกิดภายในบ้านหมู่ 2 ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

612151

หลังได้รับแจ้งกู้ภัยจึงร่วมเดินทางตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาคิชฌกูฏ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังใหญ่ มีรถยนต์จอดอยู่ 3 คัน ในบ้านพบมีเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง ตลอดจนจานข้าว ขวดและแก้วน้ำดื่ม กระจัดกระจายทั่วบ้าน

ตรวจสอบพบศพ น.ส.เกตุมณี คอร์เลงยาร์ด อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างที่นอนโซฟา สภาพสวมเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว สวมสร้อยคอทองคำหนักประมาณ 3 บาท บริเวณท่อนล่างเปลือย กางเกงถูกถอดวางอยู่ที่ก้น สภาพศพเริ่มบวมอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน ตามร่างกายพบบาดแผลที่บริเวณศีรษะ แต่ในส่วนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าถูกของมีคมหรืออุบัติเหตุ โดยจากการสอบถาม ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาวผู้เสียชีวิตวัย 12 ปี ที่อยู่ในอาการช็อกและร่ำไห้ ให้การยืนยันหนักแน่นว่าไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลา 3-4 วันที่ผ่านมา เห็นแม่ใช้ชีวิตอยู่กินนอนพูดคุยกับตนตามปกติ อีกทั้งคืนวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังนั่งกินข้าวอยู่กับแม่ และเช้าวันที่ 24 พ.ย. ช่วง 10.00 น. ก็ยังเห็นแม่ลุกขึ้นมากินน้ำ

จนมาช่วง 12.00 น. มาเรียกแม่กินข้าว แต่เห็นแม่นอนหลับอยู่ ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น จึงโทรศัพท์ตามน้าสาวให้ช่วยมาดูที่บ้าน กระทั่งมาพบว่าแม่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว ในส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบว่าคำให้การของเด็กมีความจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ขอปล่อยให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม