เมื่อเวลา 15.00 น. ของเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ตำรวจ สภ.จังหาร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์มีคนติดอยู่ในรถ บริเวณคอกวัวท้ายหมู่บ้าน บ้านอนามัย ตำบลผักแว่น อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ที่เกิดเหตุเป็นลานดินข้างบ้านพัก พบรถโตโยต้า ไฮลักซ์ ทะเบียน บร 4944 ร้อยเอ็ด จอดอยู่พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย โดนไฟคลอกทั้งตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
ทราบชื่อนายยศไกร นพนิยม หรือ ทอม อายุ 44 ปี อาสาสมัครได้ให้การช่วยเหลือนำออกจากตัวรถ ก่อนทำการปฐมพยาบาลเร่งนำส่ง รพ.จังหาร นำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ล่าสุดยังอยู่ในห้อง ICU ไม่พ้นขีดอันตรายนั้น
วันที่ 26 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณเถียงนาท้ายหมู่บ้าน มีบ้านของนายยศไกร หรือ ทอม ตั้งอยู่เป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว ข้างบ้านบริเวณลานกว้าง มีรถโตโยต้า ไฮลักซ์ ทะเบียน บร 4944 ร้อยเอ็ด สภาพถูกไฟไหม้บริเวณห้องเครื่องและห้องโดยสารเกือบ 99% เห็นเป็นลักษณะซากโครงเหล็ก
นางดวงใจ นพนิยม อายุ 70 ปี แม่ของคนเจ็บ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองไปช่วยงานศพอยู่ที่วัด แต่ลูกชายหลังจากที่ช่วยงานศพเสร็จแล้วก็เดินทางกลับบ้าน ก็ไม่ได้บอกหรือพูดคุยอะไร จากนั้นลูกชายก็ได้ไปพร้อมกับหลานชายอายุ 19 ปี กลับไปที่บ้านเถียงนาท้ายหมู่บ้าน ซึ่งในขณะที่ชาวบ้านรวมตัวกันอยู่ที่วัดนั้น ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้งสนั่นพื้นที่ ก่อนที่หลานชายวัย 19 ปี จะวิ่งมาบอกคนในวัดว่า "ลุงทอมโดยไฟไหม้อยู่ในรถ" ตอนนั้นเมื่อตัวเองไปถึงพบว่าได้มีการนำร่างของลูกชายออกมานอนอยู่ที่เถียงนาแล้ว ตนเองไปถึงเห็นสภาพของลูกมีไฟไหม้ทั่วตัวจึงรับไม่ได้ถึงกับช็อกหมดสติ คิดว่าตอนนั้นลูกเสียชีวิตแล้ว
จากนั้นตกใจตื่นขึ้นมา เพราะคำพูดของลูกว่า "แม่ แม่ แม่" ลูกชายยังบอกว่า "ขอหอมแก้มหน่อยครับ" ตนเองจึงได้เอียงตัวเอาแก้มไปให้ลูกหอม และลูกก็พูดออกมาเบา ๆ ว่า "ผมขอโทษที่ทำไม่ดี" จากนั้นลูกชายก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ย้อนกลับไปวันเกิดเหตุ หลานชายวัย 19 ปี ที่อยู่ที่เกิดเหตุร่วมกับนายยศไกร ยังเล่าให้ชาวบ้านและตนเองฟังว่านายยศไกร คนเจ็บ มีการเปิดฝากระโปรงรถทิ้งเอาไว้ เจ้าตัวได้เข้าไปภายในห้องโดยสารเปิดประตูฝั่งคนนั่ง และปิดประตูฝั่งคนขับ นายยศไกรไปนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ โดยมีการก้มลงไปเชื่อมต่อสายไฟภายในรถ หลานชายวัย 19 ได้ตะโกนบอกนายยศไกรว่า "ลุงมีไฟติดอยู่ที่กระโปรงรถ" ตัวของนายยศไกร บอกว่า "ไม่เป็นไรลุงต่อผิด เดี๋ยวมันก็ดับเอง" จากนั้นไม่นานไฟก็เริ่มลุกไหม้มากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะลามเข้ามาภายในห้องโดยสาร และได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น
จากเหตุการณ์ที่หลานชายเล่าให้ฟัง ตนเองจึงเชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุ เพราะลูกชายไม่ได้มีความเครียด หรือมีความกังวล ถือว่าเป็นอุบัติเหตุ ย้อนกลับไปก็มีลางบอกเหตุที่เชื่อได้ว่าลูกชายจะต้องประสบเหตุอยู่ภายในรถคันดังกล่าว คือช่วงระยะหลัง ลูกชายได้พูดคำเดิมว่า "ผมขอโทษที่ทำผิด ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ หากผมเป็นอะไรไป ผมก็คงจะตายอยู่ที่บ้านของตัวเอง" สำหรับประเด็นที่ถูกสังคมมองว่าลูกชายประชดแม่และเมีย โดยการก่อเหตุฆ่าตัวตายในรถนั้น ตนเองมองว่าไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายไม่ได้มีความเครียด และไม่เคยที่จะทำให้แม่ผิดหวังหรือเสียใจ ที่สำคัญปัญหาทางหัวใจหรือความรัก ลูกชายก็ไม่ได้เครียด เพราะมีแฟนมากถึง 3 คน ก่อนที่จะเกิดเหตุในวันดังกล่าว ลูกชายยังเดินทางมาที่บ้านเพื่อเอาห่อหมกไปถวายที่วัดอนามัยใกล้บ้าน ไม่ได้มีอาการผิดปกติ
อาการล่าสุดของนายยศไกรตอนนี้อาการอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ เพราะอวัยวะภายในใช้การไม่ได้หลายส่วน และระบบการหายใจก็มีแต่เค้าเมาควันดำ ส่วนร่างกายภายนอกก็ถูกไฟไหม้เนื้อยุ่ย แต่เมื่อช่วงเช้าตัวเองได้มีโอกาสไปเยี่ยมก็ได้แต่จับมือและบอกกับลูกว่า "หากทนไม่ไหว ก็ให้จากไปได้ ให้นึกถึงพระพุทธพระธรรมเอาไว้ แม่ให้อภัยลูกเสมอ"
นายหลง (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ ลูกศิษย์วัด เปิดเผยว่า ตัวเองสังเกตเห็นว่าช่วงระยะหลังก่อนที่จะเกิดเหตุ นายยศไกรได้เดินทางมาเพียงลำพัง นำอาหารมาถวายพระในตอนเช้าเกือบทุกวัน แต่สีหน้าท่าทางดูมีความเครียดและเก็บกด ไม่ได้เหมือนทุกทีที่จะยิ้มแย้มและมีความสุข โดยตนเองได้มีโอกาสสอบถามเจ้าตัว ซึ่งก็เคยบ่นตัดพ้อ บอกว่าเกิดจากความเครียด ที่แม่และเพื่อนคนสนิทสาวไม่เข้าใจ
ซึ่งเจ้าตัวพูดกับตนเองทำนองว่าไปแอบรักคนที่มีเจ้าของ และหญิงสาวคนดังกล่าวก็มีอายุที่มากรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ ทำให้ตัวของแม่ไม่พอใจและไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้ ทำให้เกิดอาการน้อยใจและความเครียด แต่ตนเองก็คาดไม่ถึงว่าจะมีการก่อเหตุเผาตัวเองในรถ
ในวันที่เกิดเหตุ ชาวบ้านทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่วัด เนื่องจากมีพิธีฌาปนกิจศพของชาวบ้านในหมู่บ้าน แล้วตอนนั้นมีการจุดพลุดอกสุดท้าย โดยเสียงพลุดอกสุดท้ายมาพร้อมกับเสียงระเบิดของรถนายยศไกร จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงรถกู้ภัยพร้อมกับรถน้ำเข้าไปที่เกิดเหตุ ซึ่งชาวบ้านทุกคนก็ตกใจว่าเกิดเหตุการณ์อะไร จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่านายยศไกรถูกไฟไหม้อยู่ภายใน จึงเชื่อได้ว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลังจากที่เจ้าตัวมีความเครียด และเก็บกดเรื่องของคนในครอบครัว จึงเป็นสาเหตุที่สามารถก่อเหตุดังกล่าวขึ้นได้ ประกอบกับคนในครอบครัวรวมถึงเพื่อนสาวคนสนิทน่าจะรู้ดี เพราะคนเจ็บได้มีการไปพูดทำนองสั่งเสียเหมือนเป็นลางบอกเหตุเอาไว้โดยเบื้องต้นอยู่แล้ว