โจ๋วัย 16 ไม่สำนึกฆ่าคนในงานวัด รับยิงมั่วไม่นึกจะโดนคน ญาติฉะอำมหิต จี้ขมาศพ (คลิป)

จากกรณี ชายวัยรุ่น 2 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น ยิงใส่วัยรุ่นคู่อริในงานวัดประจำปี วังคลองแคตะวันตก หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีผู้เสียชีวิตถูกลูกหลง 1 ราย คือ นายอำพล กุลมาก อายุ 30 ปี ที่มาช่วยงานจิตอาสาของทางวัด โดยที่คนร้ายอาศัยจังหวะช่วงชุลมุน พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ไปซึ่งทางตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามจับกุมตัวแล้ว

วันที่ 28 พ.ย. 61 พ.ต.อ.สรกฤษณ์ น่วมด้วง ผกก.สภ.พรหมพิราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธวัชชัย ล่ามกิจจา รองผกก.(สส.) และกำลังตำรวจชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งยังเป็นเยาวชน คือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกัน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนอาวุธปืนลูกซองสั้นที่ใช้ยิง ได้เอาไปโยนทิ้งหน้าเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปชี้จุดที่นำปืนไปโยนทิ้ง พร้อมจะประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาลงงมค้นหาไว้เป็นหลักฐานในคดี และจะสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับทีมสหวิชาชีพตามขั้นตอน

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุได้มาเที่ยวงานวัด ซึ่งในงานมีวงดนตรีย้อนยุค แต่มีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นคู่อริในงาน ซึ่งนายอำพล ผู้เสียชีวิต ขณะนั้นคอยเก็บบัตรจอดรถ ดูแลสถานที่ภายในวัด และเข้าห้ามปราม แต่เนื่องจากชุลมุนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ตนคิดว่านายอำพลจะเข้ามาทำร้าย จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไป 1 นัด ก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

นายจรูญ กุลมาก อายุ 58 ปี พ่อของนายอำพล ผู้เสียชีวิต เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้าโศกเศร้า พร้อมเปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุ ลูกชายมาช่วยงานที่วัดคลองแคตะวันตก พบกลุ่มวัยรุ่นมีเรื่องกัน สุดท้ายลูกชายเห็นท่าไม่ดี เข้าไปห้ามปราม แต่คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุนึกว่าเป็นคู่อริ จะเข้ามาทำร้ายจึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่จนแน่นิ่ง อาการสาหัส ก่อนชาวบ้านจะช่วยกันนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก็ขอขอบคุณที่สามารถจับตัวคนร้ายได้สำเร็จ และอยากให้ตำรวจพาผู้ต้องหา 2 ราย ไปกราบขอขมาต่อหน้าศพด้วย แต่ยืนยันว่าจะไม่อโหสิกรรมให้ เพราะคนร้ายโหดเหี้ยมมาก กล้ายิงคนในวัดได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย

นายเสรี กุลมาก อายุ 34 ปี พี่ชายคนโตของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เป็นจังหวะที่วัยรุ่นในงานทำท่าจะมีเรื่องกันหน้าเวที จึงได้ให้วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งออกมา แล้วมี สห. กับน้องชายตนตามออกมา แล้วไปช่วยแยก ก่อนได้ยินเสียงปืน จากนั้นน้องชายก็ทรุดลงพื้น ตนจึงรีบตามออกมาดู กระทั่งทราบว่าเป็นน้องชายตนเอง ตอนนั้นยอมรับว่า รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ตอนโดนยิงครั้งแรกทางน้องตนยังไม่เสียชีวิต โดยมีเจ้าหน้าที่ สห.ช่วยปั๊มหัวใจยื้อชีวิตไว้ ตนต้องการถามคนยิงว่า ยิงทำไมแค่นั้น และหากเป็นไปได้ ตนต้องการให้คนร้ายมาขอขมาศพน้องชายตน จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน ซึ่งน้องชายตนเป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง น่ารัก มีเพื่อนฝูงเยอะ มีแต่คนรัก ทั้งนี้ ตนก็ยังทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดคุยอีกครั้ง