จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ในกลุ่มเฟซบุ๊ก "ข่าวสารกำแพงแสน" มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อ "น้ำอ้อย" ออกมาโพสต์ภาพและข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต บอกว่ามีบุคคล 2 คน มายืมรถไปใช้แล้วไม่เอามาคืน
โดยข้อความเขียนว่า "ขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ พอดีมีคนยืมรถไปแล้วไม่เอามาคืน ใครพบคนโปรดโทรแจ้งตำรวจให้หน่อยนะคะ รถเวฟสี ดำ-แดง ไม่มีป้ายทะเบียน บุคคล 2 คนนี้อันรายมาก พวกมันเกี่ยวข้องที่เอารถของป้าไป เบอร์โทรคนโพส 062-2415917 ฝากแชร์กันหน่อยนะค่ะทุกคน"
หลังจากนั้นเมื่อวาน 25 พฤศจิกายน 2564 ในกลุ่มเฟซบุ๊กเดียวกัน ก็มีสาวทอมผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ภาพและข้อความบอกว่า "น้ำอ้อย" คือแม่แท้ ๆ ของตน พร้อมแฉพฤติกรรมว่าเคยบังคับให้ตนขายตัวตอนอายุ 10 ขวบด้วย โดยระบุว่า “ขออนุญาติครับ หนูเป็นลูกของแกนะคับ ทุกคนที่โพตส์ เป็นเรื่องจริงครับ หนูโดนบังคับขายตัวตอนอายุ 10-11 ขวบครับ บังคับให้ทำเพื่อจะเอาเงินไปจ่ายค่าเช่าห้องและเอาไปให้เขากินเหล้า หนูทำงาน เงินทุกบาทเขาเอาไปหมด ไม่เคยเหลือ เอาไปใช้กับลูกสาวของเขา ซึ่งตัวหนูทำงานคนเดียว เงินออกมาเขาไปเดินซื้อของเเละกินเหล้าจนหมด หนูไม่เคยพูด แต่ในสิ่งที่เขาพูดว่าหนูขโมยรถมันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเขาเป็นคนโทรมาหาหนูให้ไปเอารถมาใช้ เพียงเเค่หนูไม่มีเงินให้เขา เขาก็ไม่พอใจ ทำให้มีปัญหา กุเรื่องขึ้นมา หนูไม่ขออธิบายอะไรมากมาย แต่อยากจะเตือนคนที่ จะช่วยเหลือรบกวนดูดีๆก่อนนะครับ แกทั้งงัดร้านค้า มีคดีขายยา สูยยา ติดเหล้า ขายลูกกิน ขโมยของ เเละอีกเยอะ!!!! #อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้เลยคับยินดีตอบทุกคำถาม"
ล่าสุด วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 นางน้ำอ้อย อายุ 49 ปี แม่ของสาวทอม ยืนยันทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวและแฟนของลูกสาวเอารถมอเตอร์ไซค์ตนไปจริง ๆ แต่ตนเขียนชัดว่าเป็นการยืม ไม่ได้ขโมยอย่างที่ลูกสาวโพสต์ว่าตน และที่โพสต์แบบนั้น เพราะอยากได้รถคืน จะเอาขับไปทำงานเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาร้าย ยอมรับว่าเสียใจที่เห็นลูกออกมาโพสต์ด่าตนขนาดนี้ ตอนนี้ไม่ได้อยากได้รถคืนแล้ว ให้ลูกเอาไปใช้เลย แต่ไม่อยากให้ลูกทำแบบนี้อีก อยากยุติปัญหาทุกอย่าง
ส่วนประเด็นที่ลูกสาวบอกว่าตนบังคับให้ขายตัวตั้งแต่อายุ 10-11 ขวบนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่แฟนสาวของลูกแต่งขึ้น เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ทั้งคู่คบกัน แฟนสาวของลูกพยายามพูดใส่ร้ายตน ยุแยงตะแคงรั่วให้ลูกสาวทะเลาะมีปัญหากับตนตลอด เพราะเขารู้ว่าลูกตนรักเขามาก จนสุดท้ายเขาก็พาลูกย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ตนติดต่อไม่ได้ มีแต่โพสต์เหล่านั้นที่สามารถคุยกับลูกได้
ทั้งนี้ ตนเลี้ยงลูกดีด้วยซ้ำ เลี้ยงมาคนเดึยว เพราะพ่อเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แล้วพอลูกมีแฟนก็พามาอยู่ที่บ้านทั้งคู่อยู่แต่ในห้อง ไม่ออกมาช่วยเหลืองานบ้าน ไม่ทำงานหาเงิน ตนก็ไม่เคยว่าหรือดุด่าอะไรสักคำ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ตนจึงเชื่อว่าลูกสาวเสียคนเพราะแฟน ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่บอกว่าตนเป็นขโมย มีคดีไปงัดบ้าน ทั้งหมดนี้ตนยืนยันว่าไม่เคยทำและไม่เป็นความจริง สุดท้ายตนก็อยากจะบอกลูกว่า "แม่ขอนะลูกนะ หยุดเถอะนะ ถ้าลูกคิดว่าแม่ทำแบบนั้นแม่ก็จะขอรับเวรกรรมนั้นเอง อะไรที่ลูกเคยทำกับแม่แม่จะไม่ว่าอีกเลย แม่ให้โอกาสลูกเสมอ แม่รักลูกมาก"
นางสาวพราว (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สาวทอมที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ยืนยันว่าเรื่องที่โพสต์ไปทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นตอนตนอายุ 10-12 ขวบ ตอนนั้นสถานการณ์ทางข้านค่อนข้างลำบาก แม่ก็บอกว่าตอนนี้ครอบครัวไม่มีข้าวกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง บอกว่ามีผู้ชายสนใจตน จะให้ตนไปนอนกับผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี เป็นเฒ่าแก่เก่าของแม่ที่อู่รถ 6 ล้อทุกครั้งจะมีอะไรกันจนเสร็จตลอด ห่างกันแค่ 2-3 วัน ครั้งแรกได้เงิน 1,500 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 500 บาท ตนก็ต้องไปเพราะสงสารครอบครัวที่แทบจะไม่มีข้าวกิน หวังเอาเงินมาจ่ายค่าเช่าห้อง
ตนยอมรับว่าส่วนตัวลึกลึกไม่ได้คิดอยากจะแฉแม่ แต่สิ่งที่แม่โพสต์เรื่องรถมันทำให้ตนไม่กล้าออกไปไหน กลัวลูกจะโดนจับ ก็เลยไม่มีงานทำ ตนก็เคยมีโอกาสโทรไปถามว่าโพสต์แบบนั้นทำไม แม่ก็ด่ากลับมาเป็นชุดว่า "สัตว์นรก" ตนยืนยันว่าโพสทั้งหมดตนโพสต์เองกับมือ แฟนสาวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่แม่ชอบคิดไปเองว่าแฟนสาวตนพูดใส่ร้าย ทั้งที่มันไม่เป็นความจริง
ส่วนเรื่องของรถตนยืนยันว่าไม่ได้ขโมย แต่ยืมมาใช้ขับไปทำงาน และตอนนี้ก็อยากเก็บไว้ใช้ต่อ สุดท้ายตนก็อยากจะบอกให้แม่พูดความจริงกับสังคมว่านิสัยตัวเองเป็นอย่างไร พร้อมยืนยันว่าแม่เสพยาบ้า กินเหล้า มีคดีเยอะ ส่วนใหญ่ก็เรื่องยา เมาแล้วชอบอาละวาด ดังนั้นที่แม่บอกว่าให้อภัยตนและอยากให้หยุด ถ้าแม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ ไม่กินเหล้าไม่เมายา ไม่อาละวาด ตนก็อาจจะกลับไปอยู่กับแม่