เมื่อวันที่ 26 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากครูเอ (นามสมมติ) ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กระสังจ.บุรีรัมย์ ว่ามีพระรูปหนึ่งอายุประมาณ 42 ปี จำวัดอยู่ติดกับโรงเรียนมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายในโรงเรียนหลายคน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นครูเอได้ส่งคลิปภาพการสัมภาษณ์เด็กชายชั้น ป.5 คนหนึ่งที่ได้ถูกพระบัติ (นามสมมติ) กระทำการอนาจารด้วยการเรียกให้เด็กนักเรียนชั้น ป.3 - ป.5 เข้าไปพบ แล้วบอกกึ่งบังคับว่าจะให้เงิน ถ้ามาปั่นจรวดให้ จากนั้นเด็กชายชั้น ป.5 ได้ทำตามที่พระต้องการ ให้ทำเด็กชาย ป.5 เมื่อยล้า จึงให้เด็กชาย ป.3 ปั่นจรวดต่อจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นพระได้จ่ายเงินให้เด็กคนละ 30 บาท
ล่าสุด วันที่ 27 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ที วี ลงพื้นที่มายังวัด ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ช่วงเวลา 11.00 น. มีพระครูปิยา จารคุณ เจ้าคณะตำบลห้วยสำราญ พร้อมคณะพระสงฆ์ได้เข้ามาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพระสมบัติ ปภาโส เจ้าอาวาสวัด
พระสมบัติ ปภาโส ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 20 พ.ย. 64 ตัวเองปวดบริเวณอัณฑะ เนื่องจากป่วยเป็นโรคไส้เลื่อน จังหวะนั้นเห็นเด็กชาย 2 คน กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ที่หน้ากุฏิของตัวเอง ตัวเองจึงเรียกให้เด็กมานวดให้ตัวเอง โดยให้เข้ามานวดทีละคน เด็กชาย ป.5 นวดคนแรก ใช้เวลา 5 นาที และด.ช. ป.3 นวดต่อใช้เวลาอีก 5 นาที
ซึ่งตอนที่เด็ก ๆ นวดอวัยวะให้ตัวเองนั้น ตัวเองก็ได้ปิดประตูกุฏิ เพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็น พอนวดเสร็จตัวเองก็ให้เงินกับเด็กไปซื้อขนม คนละ 30 บาท แล้วเด็กก็พากันแยกย้ายกลับบ้านตามปกติ ตัวเองขอยืนยันว่าวันดังกล่าวนั้น เด็กชาย 2 คน แค่นวดให้ตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มีการกระทำอย่างอื่น
สำหรับตัวเองป่วยเป็นไส้เลื่อนมากว่า 10 ปี ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่พญาบาลที่โรงพยาบาลคอยนวดรักษาให้ตัวเอง ในเวลาที่ตัวเองไปหาหมอ ตัวเองขอยืนยันว่ามีแค่เด็กชาย ป.5 และ ด.ช. ป.3 เพียง 2 คนเท่านั่นที่นวดให้ตัวเอง ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่เคยให้ใครมานวดอวัยวะเพศตัวเองมาก่อน ตั้งแต่มีข่าวออกไปก็ไม่ได้เครียดหรือกังวล ยังไม่มีพระผู้ใหญ่มาตักเตือนหรือลงโทษ เนื่องจากพระผู้ใหญ่เขาก็เข้าใจดีว่าเด็กที่มานวดให้ตัวเองนั้นเป็นเด็กผู้ขาย ไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิง ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงเดินเข้ากุฏิของตัวเองนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กล้าสาบานว่าไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน
หลังเกิดเหตุให้ตัวแทนชาวบ้านในหมู่บ้านเข้าไปคุยกับผู้ปกครองของเด็กแล้ว ซึ่งทางนั้นเขาก็บอกว่าเขาไม่ติดใจเอาเรื่อง ถ้าหากหลังจากนี้ตัวเองปวดอวัยวะเพศ คงทานยา ไม่ได้ให้เด็กมานวดให้อีกแล้ว ตัวเองอยากบอกสังคมว่าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ ตัวเองไม่ได้คิดเรื่องอย่างว่า และไม่ได้เกิดอารมณ์ ตัวเองให้เด็กนวดเพราะรักษาไส้เลื่อนเท่านั้น ตัวเองอยากถามถึงคนที่เอาเรื่องราวนี้ไปโพสต์ลงโซเชียลว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ส่วนที่ตัวเองต้องใส่กางเกงในนั้น เพราะว่าตัวเองใส่เพื่อรักษาโรคไส้เลื่อนเช่นเดียวกัน
ด้านพระครูปิยา จารคุณ เจ้าคณะตำบลห้วยสำราญ เดินทางมาสอบถามพระสมบัติเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองก็นังไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก เนื่องจากยังไม่ได้สอบถามครูที่เขานำเรื่องนี้ไปร้องเรียนสื่อ โดยตัวเองมองว่าที่เด็กชายมานวดอวัยวะเพศให้กับพระสมบัตินั้น ไม่ถือเป็นความผิด เพราะว่าเด็กทั้งสองคนเป็นเด็กผู้ชาย ไม่ใช่เด็กผู้หญิง สามารถทำได้ ส่วนที่เด็กมีการนวดบริเวณอวัยวะเพศให้พระสมบัตินั้นก็เป็นเพราะพระสมบัติเป็นไส้เลื่อน ซึ่งตัวเองก็ถือว่าไม่เป็นความผิด สามารถให้เด็กนวดได้ เพราะต้องทำให้มีอาการคลาย อย่างเช่นหมอหรือพยาบาล เวลาเขารักษาคนไข้ที่ป่วยโรคไส้เลื่อน เขาก็ยังนวดให้ผู้ป่วย เขาก็ยังไม่ผิด
ทั้งนี้ ตัวเองก็อยากจะถามครูที่ที่นำเรื่องราวของเด็กชายทั้ง 2 คนไปร้องสื่อว่า เขาทำแบบนั้นไปทำไม ทำไมเขาไม่มาพูดคุยกับพระก่อน เพราะเขาทำอย่างนี้มันทำให้ชื่อเสียงของพระเสียหาย
นางเส็ม สำรวมจิต อายุ 66 ปี ยายเด็กชายวัย 8 ขวบ ยืนยันว่า หลานตัวเองถูกกระทำจริง เพราะเด็กอายุขนาดนี้ไม่สามารถสร้างเรื่องได้เหมือนกันทั้ง 2 คน และไม่ประสงค์จะดำเนินคดีใด ๆ
ด้านนางคำปุ่น สุขแม้น อายุ 60 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า เท่าที่ตัวเองสัมผัสพระสมบัติมา ตัวเองไม่เชื่อว่าพระสมบัติจะไปก่อเหตุล่วงละเมิดเด็กชาย เพราะพระสมบัติเขาเป็นพระที่ดี เป็นพระนักปฏิบัติ และชอบทำแต่บุญ ที่พระสมบัติท่านให้เด็กนวดอวัยวะเพศให้นั้น คิดว่าเป็นการนวดเพราะรักษาอาการไส้เลื่อน ไม่ได้นวดเพราะสำเร็จความใคร่แต่อย่างใด
ตัวเองเสียใจมากที่มีครูนำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงโซเชียล เขาเป็นถึงครูอาจารย์ เขาน่าจะมาพูดคุยกับทางพระสงฆ์ก่อนที่เขาจะไปโพสต์ เพราะทำแบบนี้เรื่องมันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ กระจายไปถึงนักข่าวหลายช่อง อย่างไรก็ตาม ตัวเองและชาวบ้านอีกหลายคน ก็อยากให้ครูรายดังกล่าวมาขอโทษพระสมบัติ เพื่อจบเรื่องดังกล่าว ส่วนเด็กชาย 2 คนที่เอาเรื่องดังกล่าวนี้ไปบอกครู ตัวเองก็คิดว่าเด็กสมัยนี้เหมือนเด็กเปรต เขาอาจแค่นวดขาให้พระ แล้วเขาก็เอาเรื่องไปเล่าขยายความ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือกับคำพูดของเด็กพวกนี้ ตนยอมรับว่าสงสารพระสมบัติมาก ที่ท่านมาเจอเรื่องแบบนี้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาพระสมบัติเขาไม่เคยมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวมาก่อน