นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ รองโฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย 2560 เป็นต้นไป หากประชาชนผู้ใดพบผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใด (2) จอด หรือ ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน บนทางเท้า เว้นแต่เป็นการจอดหรือขับขี่เพื่อเข้าไปในอาคารหรือมีประกาศของเจ้าพนักงานจราจรผ่อนผันให้จอดหรือขับขี่ได้ และมีบทกำหนดโทษอยู่ในมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 17 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท สามารถส่งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจในเขตท้องที่นั้นๆ หรือผ่านทางศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กทม.1555 ได้ทันที โดยใช้หลักฐาน อาทิ รูป หรือ คลิปวีดีโอที่มองเห็นเลขทะเบียนรถชัดเจน เพื่อใช้เป็นหลักฐาน และหากเป็นมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ต้องเห็นหมายเลขเสื้อและวินที่สังกัด เพื่อนำไปเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อเปรียบเทียบปรับได้
เมื่อมีการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดแล้ว เขตจะทำหนังสือไปยังประชาชนที่แจ้งข้อมูลดังกล่าวให้เข้ามารับค่านำจับจำนวนครึ่งหนึ่งของค่าปรับต่อไปตามมาตรา 48 วรรคสาม
ทั้งนี้ในส่วนของค่าปรับนั้น ไม่ใช่จับครั้งแรกแล้วปรับ 5,000 บาททันที แต่จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เทศกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการบันทึกประวัติผู้กระทำผิดไว้ หากทำผิดครั้งแรกอาจจะปรับ 1,000 บาท ครั้งที่ 2 ปรับ 2,000 บาท ครั้งที่ 3 อาจเพิ่มเป็น 5,000 บาท เป็นต้น
เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนอาจยังไม่ทราบว่า หากแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมกับมีหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่กับจับกุมผู้กระทำความผิดจะได้รับค่านำจับด้วยครึ่งหนึ่ง จึงเป็นลักษณะของการร้องเรียนโดยไม่ได้มีหลักฐานเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ได้รับค่านำจับ แต่หลังจากนี้ไป ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ทันที ภาพจาก @tanatpong_nna twitter #ทวงคืนทางเท้า