จากรณี วานนี้ (29 พ.ย) ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายขโมยของภายในรถที่จอดอยู่ข้างถนน โดยเหตุเกิดตรงข้ามร้านข้าวต้ม ถนนเทวาภิบาล ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
ที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนฝั่งขาเข้าตัวเมืองร้อยเอ็ด พบผู้เสียหาย ทราบชื่อคือ นางอุไรพร อำนวย อายุ 32 ปี พร้อมสามียืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว จอดอยู่ริมถนน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการถูกงัด ส่วนเงินสดจำนวน 1.3 ล้านบาท ที่เจ้าของรถเอาใส่ไว้ในกระเป๋าสีดำวางไว้ที่พักเท้าด้านหน้าหายไปทั้งหมด
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่าไม่มีร่องรอยการงัดประตูรถ คาดว่าเจ้าของรถอาจจะลืมล็อกรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทำการตรวจลายนิ้วมือแฝง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบ ๆ เพื่อตามตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดี
วันที่ 30 พ.ย. 61 ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด
นางอุไรพร อำนวย อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เงินสดจำนวนนั้นต้องการจะนำไปเพื่อซื้อที่ดิน 12 ไร่ จึงบรรจุในกระเป๋าสีดำไว้ในรถ เพราะตนเองไม่อยากเสียเวลาไปธนาคาร และช่วงเช้าที่นัดเจรจาซื้อขายก็เกรงว่าธนาคารจะยังไม่เปิด จึงเอาเงินสดใส่กระเป๋าติดตัว ซึ่งตนออกเดินทางจากกทม. ในช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ย. 61 เวลา 10.00 น. และถึง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เวลาประมาณ 16.30 น. ก่อนเดินทางเข้ามากินข้าวใน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ
ส่วนกระเป๋าที่ใส่เงินนั้น ตนเอาวางไว้ที่บริเวณพักเท้าเบาะข้างคนขับ และใช้ผ้าห่มและหมอนปิดบังไว้ ก่อนลงจากรถไปกินข้าวเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กลับมาพบว่าประตูรถไม่ได้ล็อก ผ้าห่มและหมอนที่ปิดกระเป๋าไว้ไม่อยู่ในสภาพเดิม และมีถุงเศษเหรียญที่อยู่ในกระเป๋าถูกนำออกมาวางไว้ข้างนอก ตรวจภายในกระเป๋าปรากฏว่าเงินสดจำนวน 1.3 ล้านบาท ที่มัดไว้จำนวน 3 มัด หายไป ตอนนั้นตนก็ถึงกับเข่าทรุดลงไปกับพื้น และทำอะไรไม่ถูก ต่อมาจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
โดยเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการงัดประตูรถ ซึ่งคาดว่าเพราะตนอาจลืมล็อกประตู เพราะมีรถรุ่นเดียวกันขับมาจอดต่อกัน แล้วออกจากรถและล็อกประตูพร้อมกัน อาจทำให้ตนคิดว่าเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น ประตูรถน่าจะล็อกเรียบร้อยแล้ว จึงพากันไปนั่งกินข้าวสบายใจ
ด้าน
ร.ต.อ.กริน จันวิภาค เจ้าของคดี ได้ประสานชุดสืบสวน ชุดสายตรวจ ออกตรวจสอบ หาเบาะแสของคนร้าย และแกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในละแวก โดยผู้เสียหายได้ลงประกาศทางโซเชียลว่าใครที่สามารถแจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้จะเมอบเงินให้เป็นรางวัลทันที 2 หมื่นบาท
ขณะที่เจ้าของร้านข้าวต้มร้านดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ในละแวกนี้เคยมีเหตุการณ์โจรขโมยของในรถเหมือนครั้งนี้ เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โดยมีรถมาจอดข้างทางลงไปกินข้าวต้ม จากนั้นทรัพย์สินมีค่าในรถก็หายไป แต่ตนจำไม่ได้ว่าคนร้ายขโมยอะไรไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ เป็นผู้ชายสูงวัย อายุประมาณ 60 ปี พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุของหายในรถแบบนี้อีกจนกระทั่งมาเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้น ซึ่งเป็นเงินสดจำนวนมาก
นางอุไรพร ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีเบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายสูงวัย ในละแวกที่เกิดเหตุ ลักษณะตุ้งติ้งไม่ทราบชื่อจริง แต่ชาวบานแถวนั้นเรียกกันว่า “มหาออด” เคยบวชเรียน หลังสึกออกมา ชอบมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย มีพฤติกรรมชอบไปเปิดรถคนอื่นเพื่อขโมยของมีค่า เมื่อตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านของมหาออด แต่ก็ไม่เจอตัว อีกทั้งบ้านยังปิดเงียบ