คดีศพโบกปูนส่อวุ่น พ่อชี้ปืนยิงอกลูกเขยเจอบังเอิญ หมาเขี่ยปัดซ่อน ตร. (คลิป)

3 ธ.ค. 61
จากกรณี พ่อและแม่ของนายวสันต์ โตวะจักร หรือ บ่าว อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าหน้าอก ตรงกับหัวใจ บริเวณข้างบ้านภรรยาของตัวเอง โดยพ่อกับแม่ของผู้ตายเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ฆ่าตัวตาย เนื่องจากพบปืนในอีก 3 วันต่อมา โดยถูกนำไปฝังอยู่ในกองทรายไม่ห่างจากจุดที่เสียชีวิต อีกทั้งผู้ตายถนัดมือซ้าย ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการยิงด้วย ครอบครัวจึงเก็บศพไว้จนกว่าจะได้ผลสรุปทางคดี โดยนำโลงศพไปโบกปูนเก็บไว้ที่วัดท่ามะปริง จ.เพชรบุรี (อ่าน : ใครฆ่า "วสันต์" ! คดีวุ่นหนุ่มถูกยิงตาย แม่ชี้พิรุธปืนฝังดิน - สะใภ้ปัดฆ่า ฉะโยนบาปหวังเงิน)
โลงศพของนายวสันต์ ถูกโบกปูนเก็บไว้ที่วัดท่ามะปริง จ.เพชรบุรี
วันที่ 2 ธ.ค. 61 ข่าวได้เดินทางไปที่วัดท่ามะปริง ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งโลงศพโบกปูนไว้ของนายวสันต์ โตวะจักร หรือบ่าว อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต โดยพบว่าโลงศพโบกปูนถูกตั้งทิ้งไว้ที่หลังเมรุ ด้านหลังของวัด ซึ่งยังไม่มีกำหนดว่าจะทำการฌาปนกิจศพเมื่อใด
นายสุวรรณ โตวะจักร หรือ เอ็ม น้องชายของผู้ตาย
ด้าน นายสุวรรณ โตวะจักร หรือ เอ็ม น้องชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพี่ชายตนก็มีนิสัยปกติ ไม่เคยหาเรื่องใคร แต่ยอมรับว่าหลายปีก่อน พี่ชายเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาท ทำให้ได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหลายวัน ต่อมาหลังจากหายดีก็กลับมารักษาตัวที่บ้านอีกหลายสัปดาห์ ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นว่าพี่ชายและพ่อจะไปหาซื้อปืนมาเพื่อป้องกันตัวจากคู่อริแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่แฟนของพี่ชายตนระบุว่า ตนไปหยิบยืมเงินมาผ่อนรถจักรยานยนต์นั้น ตนยอมรับว่าตนเคยทำจริง เนื่องจากตอนนั้นเงินไม่พอผ่อนค่ารถ 1,500 บาท พี่ชายจึงนำแหวนของแฟนตัวเองมาให้ตนไปจำนำ ตนก็จำนำมาได้เงินจำนวน 3,000 บาท โดยเอาเงินให้พี่ชาย และขอยืมเงินไป 1,500 บาท ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้นำเงินมาคืน เพราะหมุนเงินไม่ทัน สำหรับหนี้ ธ.ก.ส. ตนเองไปกู้เงินมาเพื่อจัดงานแต่งจริง แต่ไม่เคยให้พี่ชายชำระหนี้ใหั และยืนยันว่าตนไม่เคยขอยืมเงินพี่อีก เพราะตนก็มีงานประจำทำ ซึ่งหากจะบอกว่าแฟนของพี่ชายตนไม่พอใจที่ตนไปยืมเงินเขา ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะตนไม่เคยทะเลาะกันในเรื่องนี้
นายวสันต์ โตวะจักร หรือ บ่าว อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต
นายเอ็ม ระบุว่า ตั้งแต่พี่ชายตนไปมีครอบครัว เขาก็ไม่ได้กลับมาช่วยภาระค่าใช้จ่ายที่บ้าน แต่จะมีมาเที่ยวที่บ้านตนบ้าง ซึ่งตนขอยืนยันว่า ครอบครัวตนต้องไปทำงานรับจ้างอยู่ในสวนทุเรียนของครอบครัวแฟนพี่ชาย ฉะนั้น จะไปขอหยิบยืมได้อย่างไร ส่วนตัวตนเองไม่เชื่อว่าพี่ชายตนก่อเหตุฆ่าตัวตาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อเช่นกัน เพราะตนไม่คิดว่าเรื่องเงินในครอบครัวจะเป็นเหตุให้เขาคิดสั้น ประกอบกับ พี่ชายถนัดมือซ้าย หากจะยิงปืนก็คงไม่แม่นยำถึงขนาดยิงเข้าที่กลางอก อย่างน้อยจะต้องเฉียดหรือแฉล้บไปทางอื่น ส่วนที่แฟนพี่ชายตนบอกว่าพี่ชายตนสามารถใช้มือขวายิงปืนได้ ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แล้วใครจะมาก่อเหตุกับพี่ชายตน ตนเองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าสงสัยใคร แต่ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายแน่นอน
นายพรศักดิ์ พรมเล็ก พ่อของนางสาวมิ้ง ภรรยาผู้ตาย
ขณะเดียวกัน นายพรศักดิ์ พรมเล็ก พ่อของนางสาวมิ้ง ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตอนช่วงหัวค่ำลูกเขยก็ได้ขับรถยนต์กลับมา ซึ่งตอนนั้นหลาน (ลูกสาวของผู้ตาย) วิ่งออกไปดู แล้วก็กลับมาบอกตนว่า พ่อมา ตนเองก็นั่งดูโทรทัศน์ต่อ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนเองก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นเสียงจุดประทัด เสียงปืนยิงกระรอก เพราะคนแถวนี้เขายิงกระรอกกันเป็นประจำ จากนั้นไม่นาน ลูกสาวก็เรียกให้ตนไปช่วยลูกเขย ตนก็ช่วยนำร่างขึ้นไปส่งโรงพยาบาล ส่วนตัวตนไม่เคยเห็นลูกเขยเอาปืนออกมาใช้ แต่เวลาเพื่อนๆของลูกเขยมาบ้าน ก็จะออกไปยิงปืนเล่นเป็นประจำ แต่กับปินกระบอกนี้ ตนไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่ทราบด้วยว่าเขามีเก็บไว้ สำหรับกรณีเรื่องหึงหวงลูกสาว ตนเองไม่เคยเห็นเขาทะเลาะวิวาทกันเรื่องนี้มาก่อน อย่างวันเกิดเหตุ เขาก็ยังไปทำไร่เอายอดทุเรียนด้วยกันอยู่เลย พอเขากลับมาบ้าน เขาก็มานั่งร้องไห้ ทางฝ่ายตนจึงโทรหาแม่เขาให้เยี่ยมลูกชาย แล้วพอเขาออกไปกลับมาอีกทีก็เกิดเหตุยิงตัวตาย นายพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนที่สงสัยว่า เหตุใดจึงมีการนำมาทิ้งหลังเกิดเหตุ 2 วันนั้น ตนเป็นคนพบอาวุธปืนเป็นคนแรก โดยพบขณะลากสายยางเตรียมออกมาซักผ้า ตนหันไปเห็นอาวุธปืนที่อยู่ในกองทรายพอดี คาดว่าสุนัขอาจเขี่ยขึ้นมา เพราะพบรอยเท้าสุนัขใกล้กับกองทรายที่มีอาวุธปืนอยู่ ซึ่งอาวุธปืนไม่ได้ฝังลงไปในทรายตามที่ครอบครัวคนตายเข้าใจ แต่อยู่เพียงบริเวณผิวทราย ส่วนในวันเกิดเหตุที่ไม่พบอาวุธปืน อาจเป็นเพราะทุกคนรีบนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล จึงไม่มีใครทันเห็นอาวุธปืนว่าตกอยู่ที่ใด ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าว ตนพยายามสอบถามกับพ่อและแม่ของลูกเขยว่าลูกเขยเอาปืนมาจากไหน แต่ก็ไม่มีใครตอบ หนำซ้ำยังเดินหนีตน
ด้านหน้า สภ.เมืองชุมพร
พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก. สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาปืนในวันเกิดได้ คาดว่าอาจเป็นเพราะเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำ มีแสงสว่างน้อย ทำให้เจ้าหน้าที่และครอบครัวของผู้ตายไม่ทราบว่ามีปืนตกอยู่ กระทั่งมาพบในอีก 2 วันให้หลังในกองทรายใกล้กับบริเวณจุดเกิดเหตุ สำหรับคดีดังกล่าว ตนยังไม่ปักใจเชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมเก็บคราบเขม่าดินปืนจากผู้ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดมาพิสูจน์แล้ว และกำลังรอผลตรวจสอบ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ