กรณีเป็นเพจเฟซบุ๊ก ”อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์คลิปชาวบ้านตามไปทวงเงินค่าหวยใต้ดินเกือบ 7 แสนบาท กับภรรยาของรองผู้กำกับคนหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยภายในคลิปเป็นการเจรจากันระหว่างผู้เสียหายกับภรรยาของรองผู้กำกับในบ้านพัก เป็นการทวงค่าหวยใต้ดินที่แทงไว้กับภรรยานายตำรวจ โดยมีนายตำรวจเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติกันนั้น
วันที่ 3 ธ.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่งหวัดบุรีรัมย์ นายสมหมาย ภักดี อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนแทงหวยกับภรรยานายตำรวจคนนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง แต่รอบนี้ยืนยันว่าถูกเยอะเกือบ 700,000 บาท โดยเป็นงวดวันที่ 16พ.ย.64 สลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัลที่ 1 หมายเลข 032761 เลขท้าย 2 ตัวออก 57 โดยตนมีหลักฐานทางไลน์
นอกจากนี้ ยังซื้อเลข 61 = 1,000X1,000 ซึ่งเจ้ามือจะจ่ายกันที่บาทละ 70 บาท ถูกขาเดียวคิดเป็นเงิน 70,000 บาท และยังมีญาติฝากซื้อ 61 = 500X500 บาทละ 70 บาท ถูกขาเดียวคิดเป็นเงิน 35,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 655,000 บาท โดยไปเจรจาขอเงินกับภรรยาตำรวจตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา
โดยมีนายตำรวจเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยยืนยันว่า ในวันที่ 7 พ.ย. นายตำรวจก็พูดจาดี บอกให้ภรรยาไปหาเงินมาคืนให้ แต่ภรรยาของนายตำรวจบอกว่าเจ้าหนี้หนีไปแล้ว ให้ตนไปตามหาเอง ส่วนลูกของนายตำรวจก็บอกว่าให้ไปฟ้องศาลขอเงินคืนเอง ตนคิดว่าภรรยาและลูกชายลุงพูดแบบนี้ ตั้งใจจะโกง ที่ผ่านมาตนก็ซื้อหวยกับภรรยาของนายตำรวจมาตลอด ก็จ่ายเงินไม่เคยคดโกงแต่พอตอนถูกหวย ก็ไม่ยอมจ่ายคืนให้
ล่าสุดวันนี้มีข่าวออกไปทางโลกออนไลน์มาก ยิ่งทำให้ลูกชายนายตำรวจโมโหแล้วเดินมาที่หน้าบ้านข่มขู่ตน ชี้หน้าตนแล้วบอกว่า "เดี๋ยวมึงจะไม่ได้เงิน จะได้เป็นอย่างอื่นแทน ต่อจากนี้มึงจะเป็นศัตรูกับกู" ตนจึงรีบเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ เพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกลูกชายของนายตำรวจ ซึ่งเป็นตำรวจเช่นเดียวกันเดินมาข่มขู่ถึงหน้าบ้าน ทำให้ครอบครัวตกใจ ภรรยาของตนถึงกับร้องไห้เพราะกลัว
พล.ต.ต.รุทฌธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จากกรณีที่มีคลิปการทวงเงินค่าหวยใต้ดินแชร์ในโลกออนไลน์ โดยระบุว่าเป็นภรรยาของนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เบี้ยวเงินค่าหวยใต้ดินเกือบ 7 แสนบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าผู้ที่ปรากฎในคลิปเป็นภรรยาของรองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามจริง ซึ่งก็ได้เรียกเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงว่าที่ปรากฏในคลิปเป็นลักษณะใด
เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีการซื้อขายหวยใต้ดินกันจริง แต่ใครจะเป็นคนซื้อหรือคนขายและมีใครเกี่ยวข้องบ้างนั้นก็อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าภรรยาของนายตำรวจดังกล่าวมีการขายหวยจริง ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนซื้อก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ารองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามนายดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหวยใต้ดิน ก็ต้องถูกดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและกฎหมายเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมาแจ้งความหรือร้องเรียนแต่อย่างใด มีเพียงการเผยแพร่คลิปเท่านั้น ซึ่งตามนโนบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ก็ได้เน้นย้ำไม่ให้ตำรวจทุกนายเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขหรือสิ่งผิดกฎหมาย
ลูกชายของตำรวจ บอกว่า พ่อและแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ตนอยู่ที่นี่กับภรรยาและลูก จริง ๆ แล้วแม่ไม่ใช่เจ้ามือหวย ก็เป็นคนซื้อหวยเหมือนกับลุงสมหมาย แล้วถูกเจ้ามือโกงเหมือนกัน ในวันที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยก็มาเจรจากันที่บ้านของตนหลังนี้ โดยแม่บอกกับลุงสมหมายให้ไปด้วยกัน ไปทวงเงินจากเจ้ามือด้วยกัน เพราะตอนนี้เจ้ามือหวยไม่รับโทรศัพท์ ปิดเครื่องหนีไปเลย แต่ลุงสมหมายไม่ยอมจะเอาเงินจากแม่ของตนท่าเดียว
โดยเรื่องนี้ตนบอกว่าพ่อซึ่งเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ไม่รู้ว่าแม่ซื้อหวยใต้ดิน หรือรับซื้อหวยใต้ดินใด ๆ ทั้งนั้น ตนเองซึ่งเป็นลูกชายก็ไม่รู้เช่นกัน ยืนยันว่าตนเองก็ไม่เคยพูดว่าให้ลุงสมหมายไปฟ้องศาลเอาค่าหวยเอง และเมื่อช่วงเย็นที่เดินไปหน้าบ้านของลุงสมหมาย ไม่ได้เดินไปข่มขู่ แต่เดินมาถามว่าทำไมต้องเอาพ่อตนไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย แต่ลุงสมหมายนำเรื่องไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียก็ทำให้ครอบครัวได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพ่อ ซึ่งเป็นตำรวจและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ยอมรับว่ามีอารมณ์โมโห เพราะลุงสมหมายบอกว่าพ่อตนก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
ทีมข่าวโทรติดต่อไปสอบถามรองผู้กำกับ บอกว่าเบื้องต้นได้ให้การกับผู้กำกับการจังหวัดบุรีรัมย์แล้วถึงเรื่องนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ตนไม่รู้เห็นด้วย แล้วก็เพิ่งทราบเรื่องว่าภรรยาถูกหวยใต้ดิน พร้อมกับลุงสมหมาย แล้วก็ทราบว่าถูกเจ้ามือหวยใน จ.บุรีรัมย์ เบี้ยวไม่จ่ายเงิน หลังจากนี้จะมีการเรียกลุงสมหมายและภรรยาของตนไปสอบปากคำด้วย