หลักฐานใหม่! นาทีโจรชิงกล้วยด่างรัวยิงเมียช่วยผัวตาย เฮี้ยนเข้าสิงญาติดลเจอคลิป (คลิป)

กรณีตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันตายที่บ้านหลังหนึ่งพื้นที่หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค. 64 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว หน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. รวม 16 ปลอก

ภายในบ้านพบศพ นายคุณากรณ์ ปัญญาเตียม อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายอยู่ข้างโต๊ะ ใกล้กันพบศพ น.ส.สุกัญญา ภู่แก้ว อายุ 49 ปี ภรรยา สภาพนอนจมกองเลือดอยู่ปลายเตียง นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นายคณากร ปัญญาเตียม อายุ 23 ปี ลูกชาย ถูกยิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.นครปฐม ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสมเจตน์ ภู่แก้ว อายุ 34 ปี อดีตผู้สมัครสมาชิกเทศบาลนั้น

วันที่ 6 ธ.ค. นายคณากร ปัญญาเตรียม ลูกชายของคนตาย เปิดมือถือของนางสาวสุกัญญาคนตาย พบรายการในอัลบั้มภาพมือถือเป็นไฟล์วิดีโอ คลิปสุดท้ายที่แม่ถ่ายเอาไว้ช่วงเวลาเกิดเหตุ ได้ยินเสียงข้างบ้านฝั่งของนายสมเจตน์พูดจาโวยวายว่า "สั- มึงมาสิ มึงมาสิ" และมีบางช่วงที่คนตายพูดแทรกในคลิปว่า "แม่ถ่ายคลิปเอาไว้แล้ว แม่ถ่ายเอาไว้แล้ว ป๊าหลบไป ป๊าหลบไป" จากนั้นจะได้ยินเสียงนายคณากร ลูกชายคนตายตะโกนกลับไปว่า "ไอสั- เหี้-" และเสียงปืนดังรัวประมาณ 7 นัด และเสียงร้องกรีด

ที่วัดใหม่ปิ่นเกลียว จ.นครปฐม ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายคุณากรณ์ ปัญญาเตียม และน.ส.สุกัญญา ภู่แก้ว สามีภรรยา โดยบรรยากาศภายในวัดเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวได้มีการตั้งโลงศพและยังได้นำภาพตั้งหน้าศพวางคู่กัน จะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพฤหัสบดีที่ 9 ธ.ค. ช่วงบ่าย

นายคณากร ลูกชายคนตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตแล้วมีการเก็บมือถือเอาไว้ที่ตัว แต่ไม่คิดที่จะเปิดหรือยุ่งกับโทรศัพท์แต่ด้วยเมื่อวานนี้มีอะไรดลใจบางอย่างเหมือนแม่พยายามบอกว่าให้เปิดเข้าไปดู ตนเองจึงได้กดรหัสผ่านมือถือที่รู้อยู่แล้วเข้าไปดูที่แกลเลอรี่ภาพ เมื่อเปิดเข้าไปไฟล์สุดท้ายเป็นลักษณะไฟล์วิดีโอเสีย จากนั้นส่งไปอีกเครื่องเพื่อเปิด เป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่แม่บันทึกไว้ หลังจากสิ้นเสียงปืนคลิปก็ตัดไป

ตนได้ยินตั้งแต่ต้น เป็นเสียงของนายสมเจตน์โวยวาย มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาเป็นระยะ ตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของนางสาวปู แฟนของนายสมเจตน์หรือไม่ เพราะฟังไม่ค่อยชัด แต่เสียงที่อยู่ในคลิปได้ยินเสียงของตนเองพูดประมาณ 2 ประโยค คือ "ไอสั- เหี้-" และอีกประโยค "ป๊าโดนยิง ป๊าโดนยิง" แต่เสียงอื่นที่ได้ยินเชื่อว่าเป็นเสียงของนายสมเจตน์ เพราะตนเองไม่ได้พูด คลิปดังกล่าวตนเองเตรียมที่จะนำไปให้กับพนักงานสอบสวน ใช้เป็นหลักฐานในคดีเพิ่มเติม อีกทั้งเตรียมที่จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ เพื่อเอาผิดนายสมเจตน์ รวมทั้งบุคคลที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด เดินเข้าออกบ้านในวันเกิดเหตุ ลักษณะเข้ามาระงับเหตุแต่ไม่ได้เป็นไปตามนั้น จึงจะมีการเอาผิดในข้อหาบุกรุกทั้งหมด

วันนี้แม้ว่านายสมเจตน์จะถูกจับดำเนินคดี และส่งตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครปฐม และก่อนที่จะเข้าคุก บอกกับครอบครัวว่าห้ามประกันตัวนั้น ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของนายสมเจตน์ เพราะทำผิดแล้วก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย การประกันหรือไม่ประกันก็ต้องรับโทษหรือรับเวรกรรมที่ทำเอาไว้ สำหรับแนวทางหลังจากนี้ ตนเองก็คงไม่กล้าที่จะกลับไปอยู่บ้านหลังดังกล่าวอีก เพราะเนื่องจากอยู่ตัวคนเดียว หลังจากเสร็จงานศพของพ่อแม่แล้ว เตรียมที่จะพูดคุยในกลุ่มญาติเพื่อจะไปอาศัยอยู่กับลุงป้าน้าอาแทน

ทั้งนี้ มีบางช่วงพี่สาวคนกลางของนางสาวสุกัญญา คนตาย มีอาการกรีดร้อง ลั่นศาลา พร้อมกับพูดออกมาว่า "เจ็บตาขวา โดนไอ้สมเจตน์ยิง ๆ อยากขอความเป็นธรรม เจ็บไปทั้งตัว และเป็นห่วงลูก"

หลังจากนั้น ทางครอบครัวได้มีการส่งคลิปมือถือเพิ่มเติมยืนยันให้ทีมข่าว ระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว เมื่อช่วงค่ำวานนี้ และเมื่อเช้า ตัวของพี่สาวของคนตายก็มีอาการแบบนี้มา 2-3 ครั้ง โดยคลิปที่ส่งให้กับทีมข่าวเป็นเหตุการณ์ที่พี่สาวคนตาย นั่งอยู่บนพื้น มีอาการกรีดร้องด้วยอาการเจ็บปวด ก่อนที่จะเรียกนายคณากร ลูกคนตาย ซึ่งเมื่อวานนี้ยังนั่งรถเข็นอยู่ ญาติต้องเข็นรถเข็นเข้ามาหา จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกับลูกชาย ทำนองว่า "ไอ้เจตน์ยิง แม่เจ็บที่ตา พ่อก็อยู่ด้วยที่นี่ เป็นห่วงลูก ลูกไม่เจ็บนะ"

ด้านนางบัวผัน น้อยทิม อายุ 61 ปี พี่สาวคนโตของคนตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ครอบครัวเจอกับเรื่องที่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ตอนแรกก็ไม่เชื่อ เพราะคิดว่าเป็นอาการคิดมากของน้องสาว แต่เมื่อมีการให้ข้อมูลหลายอย่าง โดยเฉพาะของที่อยู่ภายในบ้าน รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ หรือแม้แต่อาการบาดเจ็บที่ถูกยิง จึงมีความเชื่อว่านางสาวสุกัญญา น้องสาว ได้มาใช้ร่างของน้องสาวอีกคนเพื่อสื่อสารกับคนในครอบครัว ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าตัวพยายามสื่อสารว่ายังอาศัยอยู่ที่ไหนบ้าน หากคนก่อเหตุไม่มาขออโหสิกรรม และไม่มาจุดธูปขอขมาในบ้าน ก็จะไม่สามารถที่จะไปไหนได้ ดังนั้นตนเองจึงอยากให้เมียของนายสมเจตน์ หรือคนที่เกี่ยวข้องมาขออโหสิกรรมต่อคนตาย เพราะอยากให้ได้รับความเป็นธรรม และได้รับการปลดปล่อย

ตนเองรู้สึกสงสารน้องสาวที่ตายโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวรู้หรือยังว่าตายไปแล้ว เพราะตามความเชื่อแล้วคนที่ตายจะรู้ตัวว่าตนเองไม่มีชีวิตอยู่จนกว่าจะครบ 3 วันก็คือวันนี้ ฉะนั้นตนเองจึงอยากจะให้คนตายไปสู่สุคติ และไม่อยากให้มีห่วง แต่ก็เชื่อว่าคนตายตอนนี้ยังมีความแค้น และมีแรงอาฆาตค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นการยิงตายโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ดวงวิญญาณจึงพยายามมาสื่อสารผ่านร่างของญาติ เพื่อจะให้มีการได้รับการแก้ไขหรือช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางครอบครัวเตรียมที่จะมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการรับนายคณากร หลานชาย ไปดูแล เพราะไม่กล้าที่จะปล่อยให้อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากเป็นบ้านที่อยู่ใกล้กลับบ้านของคนก่อเหตุ จึงกลัวในเรื่องของความปลอดภัย หากเป็นไปได้ก็จะพามาอยู่ด้วยกับตนเองที่บ้าน แล้วจะรับเลี้ยงดูเป็นแม่แทน อย่างน้อยก็เพื่อให้ดวงวิญญาณของนางสาวสุกัญญา แม่ของนายคณาก หมดห่วง ตนเองก็พร้อมที่จะดูแลหลานคนนี้ต่อไป