เหตุการณ์สุดระทึก ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.จันทบุรี ภายหลังที่ช่วงดึกของเมื่อคืนที่ 7 ธันวาคม 2564 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองจันทบุรี จำนวนกว่า 4-5 นาย ขี่รถลาดตระเวนดูความปลอดภัย ใกล้กับสำนักงานที่ดินจันทบุรี ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเรียกตรวจรถยนต์กระบะ แต่คนขับทราบชื่อภายหลังคือ นายธงชัย งามสอาด อายุ 27 ปี กลับขับรถหลบหนี หลังตำรวจเรียกตรวจค้น คาดว่าน่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเมืองจันทบุรี 1 นาย ต้องขับมอเตอร์ไซค์ไล่ตามรถกระบะคันต้องสงสัย พร้อมมีการวิทยุสกัด โดยที่ทางกระบะเองขับกลับรถหนีไปตามเส้นทางบนถนนเลี้ยบเนิน ใกล้สี่แยกที่ดินจังหวัดจันทบุรี มุ่งหน้าไปในตัวเมือง กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองพยายามจะตะโกน และบีบแตรให้รถกระบะคันดังกล่าวหยุด แต่ก็ไม่ยอมหยุด
รถกระบะคันดังกล่าวมุ่งมาถึงบริเวณตลาดน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ด้วยความที่กลัวว่าชาวบ้านที่ออกมาเดินตลาดจะได้รับอันตราย ตำรวจจราจรเลยตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่บริเวณยางล้อด้านหน้าข้างขวาของรถคันดังกล่าว กระสุนแฉลบไปถูกชาวบ้าน 1 ราย จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณข้อเท้าซ้าย ทราบชื่องคือ นายวินัย พะลัยดำ อายุ 34 ปี ซึ่งมาเดินซื้อของในตลาดต้นมะม่วง
จากการตรวจค้นภายในรถกระบะคันดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 8 เม็ด ซุกซ่อนอยู่เบาะนั่งข้างคนขับ ตำรวจจึงควบคุมตัวคนขับไปที่ สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะมีการแจ้งข้อหา
ล่าสุด วันที่ 8 ธ.ค. 64 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจเองได้มีการพา นายวินัย พะลัยดำ ผู้ได้รับบาดเจ็บไปล้างแผลที่โรงพยาบาล เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดใจว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์มาชื้อกับข้าวอาหาร และของสด เพื่อเตรียมนำไปขาย ต่อมาในช่วงเวลา 18.20 น. เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนเองกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ห่างกับจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เห็นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มุ่งหน้าตรงลงมาจากเนินร้านโฆษิตวิทยาเพื่อมุ่งหน้าเข้าตลาด และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่กวดรถคันดังกล่าวมา
ก่อนได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 3-4 นัด สิ้นเสียงปืนลง ตนก็รู้สีกหน่วง และขาซ้ายรู้สึกชา แต่ยังไม่ได้รู้สึกเจ็บ ตนเลยตัดสินใจจอดรถมอเตอร์ไซค์บริเวณรมฟุตพาท พบว่าถูกกระสุนปืนฝังเข้าไปที่ข้อเท้าด้านซ้าย ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบเข้ามาสอบถามอาการและแจ้งว่าจะรับผิดชอบในเรื่องการรักษาพยาบาลทุกอย่าง
ขณะที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่เกิดเหตุมีการยิงนั้น ด้วยพื้นที่ที่ทางคนขับรถกระบะหลบหนีไปนั้นเป็นชุมชนตลาด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหวั่นว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เลยตัดสินใจยิงล้อ เพื่อสกัดไม่ให้คนขับสามารถขับรถไปได้ แต่ก็พลาดส่งผลให้วินาทีที่ยิงล้อด้านหลัง กระสุนหรือเศษของกระสุนกระเด็นไปโดนประชาชนในพื้นที่ ตำรวจเองก็ยอมรับว่าตำรวจเองก็ผิดที่ประมาท แต่หากมองในความตั้งใจหรือเจตนา ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หลังเกิดเหตุเองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เสียใจ และพร้อมเข้าไปรับผิดชอบเยี่ยวยาในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีการชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมดูแลเรื่องค่าพยายาล
ด้านนายนิพัฒน์ ลาวัลย์ปรีดา อายุ 40 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เบื้องต้นช่วงประมาณ 18.20 น. ขณะที่ตนกับทางแม่ขายของอยู่ ก็ได้ยินเสียงลักษณะคล้ายปืนดังมาก่อน 1 นัด ตนคิดในใจว่าคงเป็นเสียงรถยางระเบิด แต่ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีกครั้งประมาณ 2 นัด ต่อมาผ่านไปประมาณ 1 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนอีกจำนวน 3 นัด ซึ่งเป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชาร์จตัวผู้ต้องหา
คาดว่าทางชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ น่าจะมาจากกระสุนรอบแรกที่ตนได้ยิน เพราะกระสุนรอบที่ 2 ที่มีการยิงนั้น ทางตำรวจเองก็ค่อนข้างยิงในระยะไกล หวั่นจะโดนชาวบ้านไปด้วย ขณะที่ทางผู้ก่อเหตุเองเบื้องต้นไม่ได้มีท่าทีขัดขืนหรือมีการใช้อาวุธปืนยิงสวนกลับแต่อย่างใด ส่วนตัวตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอเหตุการณ์แบบนี้
