ไรเดอร์กระสุนเจาะหัวดับต่อหน้าแฟน แม่รับลูกมีปืน เชื่อพลาดทำลั่น (คลิป)

จากกรณี จ.สงขลา หนุ่มไรเดอร์เสียชีวิตภายในห้องพัก มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าที่จมูก แฟนกลับมาพบ ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ สอบสวนแฟนสาวและเพื่อนสนิทยังไม่พบพิรุธหรือประเด็นต้องสงสัย คาดว่าอาจทำปืนลั่นใส่ตัวเอง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุคุยไลน์กับเพื่อนว่าจะนำปืนออกมาทำความสะอาดนั้น

วันที่ 10 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุหอพัก ถนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประตูเข้า-ออกหอพักดังกล่าวยังคงเปิดให้ทำการเข้า-ออกตามปกติ แต่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินขึ้นลงอาคาร

หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยัง สถานที่จะสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิต บริเวณวัดน้ำน้อยใน ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเมื่อไปถึงพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้านที่มารร่วมฟังสวดอภิธรรมศพในช่วงเย็นวันนี้

นางกวินธิดา สิทธิกุล อายุ 49 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ปกติแล้วลูกชายของตนเป็นเด็กนิสัยดี ประกอบอาชีพขับแกร็บส่งอาหาร ปกติแล้วพื้นเพของลูกชายเป็นคน จ.สงขลา แต่ลูกอยากออกจากบ้าน เพื่อมาลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เลยออกจากบ้านไปเช่าหอพักจุดเกิดเหตุอยู่กับแฟนสาว ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา

ส่วนอาวุธปืนที่พบอยู่ภายในที่เกิดเหตุนั้น เป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม.ของลูกชายเอง ซึ่งเจ้าตัวไปหาซื้อต่อมา ได้ประมาณ 1 เดือนใน ราคา 8,000 บาท และตนเคยเห็นลูกนำกลับมาซ้อมยิงที่บ้าน โดยก่อนหน้านี้ตนได้เคยเตือนลูกชายเอาไว้แล้วหลายครั้งว่า อาวุธปืนอันตราย อย่านำออกมาเล่น ขณะนั้นลูกชายก็เก็บปืนไป

กระทั่งวานนี้ ช่วงเวลา 22.00 น. แฟนสาวลูกชายได้โทรมาบอกคนในครอบครัวว่าลูกชายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก เนื่องจากทำปืนลั่นใส่ตัวเอง ขณะนำอาวุธปืนออกมาเล่นหรือทำความสะอาด หลังทราบเรื่องตนผู้เป็นแม่ก็รู้สึกตกใจ และยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์สูญเสียของลูกชาย ที่ต้องมาจากไปอย่างกะทันหัน

หลังจากนี้คนในครอบครัวจะรับศพลูกออกจากนิติเวช จ.สงขลา มาประกอบพิธีกรรมสวดอภิธรรมศพที่วัดน้ำน้อยใน ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามขั้นตอนของศาสนาต่อไป สุดท้ายนี้อยากฝากเตือนเด็กผู้ชายทุกคนให้ดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ หากมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ควรศึกษาวิธีการใช้และระมัดระวังให้มาก จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์สูญเสียเหมือนกับลูกชายของตนในครั้งนี้

นางอริสา สินลือนาม แฟนสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนและนายพิสิฐ หรือ เจมส์ ผู้เสียชีวิต ศึกษาดูใจกันมานาน 6 เดือน ก่อนแต่งงานกัน และไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของนายพิสิฐที่ในพื้นที่ จ.สงขลา ได้ประมาณ 2-3 ปี ก่อนจะตัดสินใจออกมาเช่าหอพักจุดเกิดเหตุ อยู่ด้วยกันเมื่อวันที่ 26 พ.ย.64 ที่ผ่านมา โดยตนและนายพิสิฐประกอบอาชีพขับรถส่งอาหารเพื่อหารายได้ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยวานนี้ 9 ธ.ค.64 ก่อนเกิดเหตุหลังจากนายพิสิฐทำงานเสร็จ ก็ได้ขี่ จยย. ขับรถเข้าหอพักก่อน ส่วนตนติดออร์เดอร์ส่งลูกค้าอยู่จึงจะขับรถกลับที่หลัง

แต่จากการตรวจสอบโทรมือถือของนายพิสิฐ ช่วงเวลา 21.00 น. นายพิสิฐได้พิมพ์ขอความพูดคุยกับเพื่อนว่าจะนำปืนที่เพิ่งซื้อต่อมาอีกที่จำนวน 8,000 บาท นำเอามาเช็ด หลังจากนั้นช่วง 22.00 น. หลังตนเสร็จงาน ตนได้โทรศัพท์หานายพิสิฐ แต่ไม่รับสาย ตนจึงรีบเดินทางกลับห้อง กระทั่งเปิดประตูห้องเข้าไปพบว่านายพิสิฐเสียชีวิตจากปืนลั่น กระสุนเข้าที่บริเวณจมูก 1 นัด ลักษณะสวมเสื้อแจ็คเก็ตแกร๊บฟู๊ด กางเกงยีนส์ ปืนตกอยู่ข้างเตียง ด้วยความที่ตนตกใจ จึงหยิบปืนใส่กล่องปืนที่อยู่ใต้เตียงนอนไว้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจ และยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของแฟนอย่างกะทันหัน เพราะก่อนหน้านี้ตนก็เคยเตือนแฟนอยู่บ่อยครั้ง เกี่ยวกับเรื่องอาวุธปืนว่าอันตราย กระทั่งมาเกิดเหตุ สุดท้ายนี้ตนก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป พร้อมทั้งหากแฟนที่เสียชีวิตรับรู้ได้ ตนก็อยากบอกว่า "หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราทั้งคู่ได้เกิดมาเป็นแฟนกันอีก"