จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Tu Ch” ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า “ขากลับจากทำธุระเจอเหตุการณ์แบบนี่ สงสารพี่ ผญ มาก ตอนแรกขับรถมากับเพื่อนก็ไม่ได้คิดอะไร พอยูเทิร์นเพื่อนบอกว่า ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง นี่เลยจอดรถดูเหตุการณ์สักพัก แล้วก็ค่อยหยิบโทรศัพท์มาถ่าย ตอนนั้นคือเห็นทั้ง ผช ทั้งเตะทั้งต่อย ผญ ละก็เอาเท้าทีบหน้าอก จน ผญ หงายหลังนาทีนั้นคือทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เลยให้เพื่อนโทรหาตำรวจ
หลังจากนั้นเราเอาโทรศัพท์เพื่อนมาคุยกับตำรวจสักพัก เล่าเหตุการณ์ ให้ตำรวจฟัง หันไปอีกที ผช เดินหายไปไหนไม่รู้ ผู้หญิงก็เดินเข้าไปในตลาดและก็เดินวนออกมาฝั่งถนนนี่เลยขับรถตาม สักพักนึง ก็ขับออกมา ไม่ว่ายังเรื่องจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ยังไงก็คือเพศแม่ ไม่สมควรทำแบบนี้”
ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ บริเวณห้างทองดี เยาวราช ติดกับถนนโดยมีรถสัญจรผ่านไปมา และมีร้านค้าของประชาชน ขณะเดียวกันทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดขณะที่ชายคนก่อเหตุได้เดินไปเรียกรถแดง ส่วนหญิงที่ถูกทำร้ายได้นั่งรออยู่ที่หน้าร้านทอง สักพักชายคนก่อเหตุได้เดินมาเอากระเป๋าพร้อมกับกำลังเดินไปขึ้นรถแดง แต่ทางหญิงที่ถูกทำร้ายยังนั่งอยู่ที่เดิม ชายคนก่อเหตุได้ปรี่เข้ามาเตะ ต่อย และผลักให้หงายหลัง รวมแล้วประมาณ 11 ครั้ง หญิงคนดังกล่าวได้แต่นั่ง ก่อนที่ชายคนก่อเหตุจะเดินหนีไป หญิงที่ถูกทำร้ายก็ลุกไปอีกทาง
วันที่ 11 ธ.ค. 64 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.จุฑารัตน์ โสภิณ อายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่วงบ่าย ภายหลังจากที่ตนได้ทำธุระเสร็จ ได้ไปทานข้าวที่ตลาดธานินทร์ พอจะเดินทางกลับบ้าน ขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ เพื่อนของตนเห็นว่าอีกฝั่งตรงข้ามมีชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิง ตนจึงมองไปดู พบว่าผู้ชายถีบอกผู้หญิงจนหงายหลัง ก่อนจะแตะ และต่อย โดยผู้หญิงไม่ได้ต่อสู้อะไร ได้เหม่อลอย
ตนและเพื่อนได้ดูสักพัก กระทั่งตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกคลิปวิดีโอเอาไว้ เหตุการณ์หลังจากนั้นก็ปรากฏตามคลิปวิดีโอ ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือเพราะกลัวจะถูกทำร้ายด้วย จากนั้นตนและเพื่อนได้โทรศัพท์แจ้งกับตำรวจ 191 พอแจ้งเสร็จผู้ชายคนดังกล่าวได้เดินหนีไป ส่วนผู้หญิงได้เดินเข้าไปในตลาดธานินทร์ ด้วยความเป็นห่วงตนและเพื่อนได้วนรถขับรถตามหญิงคนดังกล่าว พอเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับรถกลับบ้าน
ส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ แต่ผู้ชายไม่สมควรที่จะทำร้ายผู้หญิง นอกจากนี้คาดว่าทั้งสองอยู่ในอาการที่มึนเมา และคาดว่าเป็นคนเร่ร่อน ขณะเดียวกันตนไม่ทราบว่าพวกเขามีความสัมพันธ์เป็นอะไรกัน และไม่ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งหรือไม่
ทีมข่าวได้เดินทางมายัง สภ.ช้างเผือก โดยตำรวจได้เรียกให้นายสุเมธ จะนู อายุ 30 ปี และนางสาวนิภาพร หมื่นปู อายุ 38 ปี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในอาการที่มึนเมา เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาคือใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่นไม่ถึงอันตรายแก่กาย พร้อมเทียบปรับ 500 บาท
นายสุเมธ ผู้ก่อเหตุ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับผิด เนื่องจากวันที่ 9 ธ.ค. ดื่มสุราประกอบทานยาเกี่ยวกับจิตเวชมา ทำให้โมโหแฟนสาว โดยกระทำไปไม่รู้ตัว ซึ่งแฟนสาวก็มึนเมาเช่นกัน ตนรู้จักกับแฟนสาวได้ประมาณ 1 ปีแล้ว เป็นคนเร่ร่อนด้วยกัน โดยเจอกันแถวย่านช้างเผือก ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ทำร้ายแฟนสาวอยู่บ่อยครั้ง เพราะตนมึนเมา ตนเป็นคนหาเงินเลี้ยงดูแฟนสาว
ขณะเดียวกันยอมรับว่ารักแฟนสาวสุดหัวใจที่ทำร้ายร่างกาย เพราะมึนเมา อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ตนทำร้ายร่างกายแฟนสาว พอหายเมาแล้วก็จะขอโทษ กลับมาคบกันตามปกติ ครั้งนี้แฟนสาวคงไม่กลับมาคบกันอีกแล้ว คงเลิกกันอย่างจริงจัง ตนอยากให้แฟนสาวไปเจอผู้ชายที่ดีกว่าตน ส่วนตัวยังรักแฟนสาวอยู่
ล่าสุด โดยนายสุเมธได้เดินทางตามหานางสาวนิภาพร เมื่อมาถึงนายสุเมธได้เข้ามาสวมกอดนางสาวนิภาพรพร้อมขอคืนดี นางสาวนิภาพร หมื่นปู อายุ 38 ปี ผู้เสียหายปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ขอกลับไปคืนดี ก่อนเดินหนี
จากนั้นนายสุเมธได้เดินตามนั่งลงยกมือไหว้กราบเท้า ร้องเพลง "ฉันขอโทษ - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" แต่นางสาวนิภาพรยังใจแข็ง นายสุเมธฯด้ล้มนอนลงไปกับพื้น และร้องเพลง "หยุดหายใจง่ายกว่า - กะลา" เพื่อง้อ
นางสาวนิภาพร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุเมธได้ดื่มสุราจนเมา จากนั้นได้มีปากเสียงหึงหวงตน ไม่ให้ตนมีเพื่อนเป็นผู้ชาย ซึ่งตนก็ไม่ยอม ทำไมเราเป็นผู้หญิงจึงไม่สามารถมีเพื่อนเป็นผู้ชายได้ และที่ผ่านมาตนไม่เคยนอกใจนายสุเมธ ตนรักใครรักจริง นอกจากนี้ ตนได้ห้ามปรามไม่ให้นายสุเมธเดินทางไปหาน้องสะใภ้ ทำให้นายสุเมธไม่พอใจ ขณะนั้นตนมองว่านายสุเมธเมาแล้ว จึงไม่ขึ้นรถแดงไปด้วย ทำให้นายสุเมธทำร้ายร่างกาย จากนั้นต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป โดยตนได้รับบาดเจ็บบริเวณเบ้าตาขวาฟกช้ำ
ตนได้คบหาดูใจกับนายสุเมธประมาณ 1 ปีกว่า โดยรู้จักกันที่เชียงใหม่ ตนเห็นว่านายสุเมธเป็นคนที่น่าสงสาร ทานยาของโรงพยาบาล และยามที่ตนทุกข์ นายสุเมธได้เข้ามาช่วยเหลือ จึงได้รักนายสุเมธ ตลอดที่คบหาดูใจ หากนายสุเมธดื่มสุรามักจะมาทำร้ายร่างกายตน โดยชอบหึงหวง เชื่อฟังแต่เพื่อนและชอบทะเลาะเรื่องเงิน หากลูกชายตนส่งเงินมาให้ตนต้องนำมาเลี้ยงดูนายสุเมธ แต่หากนายสุเมธไม่ดื่มสุราจะเป็นสุภาพบุรุษ "ยอมรับว่ายังคงรักนายสุเมธอยู่ แต่ไม่สามารถกลับมาคบกันได้แล้ว เนื่องจากถูกทำร้ายมาแล้วหลายครั้ง โดยทุกครั้งตนไม่เคยไปแจ้งความ"