หนุ่มควบกระบะไล่ชนเก๋งกิ๊กเมีย โดนพยายามฆ่ายังยิ้มร่า - แม่ยายสะอื้นป้องคนดี เพราะเห็นภาพบาดใจ (คลิป)

จากกรณี โลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ขณะที่นายวุฒิชัย ปินวงค์ ขับรถกระบะสีเทา ชนรถเก๋งสีขาวของนายอุบล ตระกูลใต้ ที่บริเวณบนถนนภายในชุมชนระหว่างบ้าน สบเมาะ – ห้วยรากไม้ ด้านหน้าโรงงานมงคลก่อสร้าง บ้านเมาะสถานี หมู่ที่ 4 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง (อ่าน : พิษแรงหึง! หนุ่มหัวร้อนขับรถกระบะไล่ชนรถแฟนใหม่อดีตภรรยา ชาวบ้านซวยด้วย)

วันที่ 7 ธ.ค. 61 ที่ สภ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงษ์ รองผกก. (สอบสวน) พร้อมพนักงานสอบสวน นำตัวนายวุฒิชัย ปินวงค์ อายุ 23 ปี มาสอบสวน

ซึ่ง นายวุฒิชัย ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนขอโทษกับสังคมและผู้บาดเจ็บ ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการบันดาลโทสะของตน เพราะเห็นอดีตภรรยามีผู้ชายมาส่ง ซึ่งขณะนี้ตนแยกกันอยู่กับอดีตภรรยา ประมาณ 2 - 3 เดือน แต่ยังแวะไปเลี้ยงลูกและพักที่บ้านแม่ยาย ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังเจียวไข่ให้ลูก และเห็นนายอุบลขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาส่งอดีตภรรยา ด้วยความโมโห ตนจึงขับรถไปเพื่อจะขอร้องให้นายอดุลย์เลิกยุ่งกับอดีตภรรยาตน แต่นายอดุลย์ขับรถหนี ตนไม่พอใจจึงขับรถไล่ ระยะทางกว่า 2 กม. และเกิดเหตุดังกล่าว ด้าน พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา ผกก.สภ.แม่เมาะ เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมของผู้ต้องหาตามคลิปวิดีโอ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่า และขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย

ต่อมา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พี่สะใภ้ของนายวุฒิชัย เปิดเผยว่า น้องเขยเป็นคนดี แต่สาเหตุที่ก่อเรื่องขึ้น อาจเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งหากเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็คงไม่มีใครเข้าใจ ตนยอมรับว่าน้องเขยทำเกินกว่าเหตุ แต่ที่ทำไปก็เพราะเพราะความหึงหวง เนื่องจากเห็นภรรยาตัวเองซึ่งเลิกรากันไม่ขาดและยังคงมีใจให้ เดินทางมากับชายคนอื่น นอกจากนี้ น้องสาวตนประกาศตัวว่าโสดทางสื่อสังคมออนไลน์ จึงทำให้มีผู้ชายรายดังกล่าวเข้ามาจีบ

จากนั้น นายวุฒิชัย และนางเอ แม่ยาย ออกมาขอโทษต่อสังคม ที่ทำให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่ตนทำลงไปนั้นเกิดจากความหึงหวงขาดสติ ซึ่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น จากการเห็นผู้ชายคนอื่นมาส่งภรรยา จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และจะขอต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย

ขณะที่ นางเอ แม่ยายของนายวุฒิชัย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอให้โลกโซเชียลอย่าประณามลูกเขยของตน เพราะหากใครไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ ก็คงจะไม่รู้สึก ทั้งคู่เพียงแค่แยกกันอยู่ เพียง 2 - 3 เดือน และยังไม่ได้เลิกกันขาด เพราะนายวุฒิชัยและลูกสาวตนมีลูกชายวัย 3 ขวบ อีกหนึ่งคน ซึ่งต้องช่วยกันกันดูแล แต่มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเสียก่อน หลังจากนี้ไป ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย