ผัวเก่าแค้นบุกสังหารเมียต่อหน้าลูก ฉุนเรียกชายอื่น "ที่รัก" ลูกมือยิงปัดชี้เป้าฆ่า (คลิป)

กรณีพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันภายในบ้าน มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย เหตุเกิดที่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ชื่อ น.ส.จารุพรรณ อินสุธา อายุ 32 ปี อาชีพ ขับรถส่งอาหาร ถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ทะลุกะโหลกนอนจมกองเลือด จากการสอบถามแม่ผู้ตายทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพร้อมพงศ์ ศรีแก้ว หรือ เบนซ์ อดีตสามีของผู้ตาย ซึ่งได้เข้ามอบตัวหลังเกิดเหตุแล้วนั้น

วันที่ 13 ธ.ค. 64 เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายพร้อมพงศ์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จุดแรกคือบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านแม่ผู้ตาย โดยเจ้าหน้าที่ให้ผู้ต้องหาชี้จุดบริเวณหน้าบ้านเท่านั้น ไม่ให้เข้าไปในบ้านจุดยิง เพราะแม่กลัวว่าจะกระทบกระทั่งกับญาติผู้ตาย ที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ

จากนั้นจุดที่ 2 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านป้อม อ. พระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร โดยบริเวณนี้คือจุดที่ผู้ต้องหามาโยนปืนทิ้งในน้ำ และทิ้งซองปืนบริเวณตีนสะพาน ห่างกันประมาณ 30 เมตร

นายพร้อมพงศ์ ศรีแก้ว ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตัวเองคบหากับ น.ส.จารุพรรณ มาประมาณ 10 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ แต่เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมาตนกับ น.ส.จารุพรรณ ทะเลาะกัน อีกฝ่ายหนีตนไปอยู่ที่อื่น ตนพยายามตามง้อ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับมา จึงก่อเหตุต่อหน้าลูกสาว 4 ขวบ "ตนทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากทะเลาะกัน และตนไปเห็นว่าฝ่ายหญิงคอมเมนต์เฟซบุ๊กของผู้ชายคนอื่นเรียกว่าที่รัก จึงเกิดความโมโห" ผู้ต้องหา กล่าว

ส่วนกรณีเรื่องปืน ตนพกติดตัวไว้เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะเคยมีเรื่องเข้าใจผิดและถูกตามหาเรื่อง จึงต้องพกไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ไม่ได้พกไว้เพื่อตั้งใจไปก่อเหตุดังกล่าว ตนอยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย ยืนยันว่าที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณร้านซ่อมรถ ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จับภาพขณะที่นายพร้อมพงศ์ ขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุในเวลา 17.32 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุ โดยนายพร้อมพงศ์ขับรถจักรยานยนต์เวสป้า สีน้ำเงิน สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ และหมวกกันน็อก ขับรถด้วยความเร็ว

จากนั้น กล้องจากร้านอาหารซึ่งอยู่อีกฝั่งห่างบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จับภาพขณะที่นายพร้อมพงศ์ขับรถจักรยานยนต์หนีออกไปอีกทาง ในเวลาประมาณ 18.05 น.

นางจำปี อินสุธา อายุ 53 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.จารุพรรณ ลูกสาว นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในเปล ส่วนตนนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้กัน ระหว่างนั้นนายพร้อมพงศ์ ศรีแก้ว หรือ เบนซ์ อดีตสามีของลูกสาวเข้ามาที่บ้านได้เดินไปคุยกับลูกสาว แต่ลูกสาวไม่คุยด้วย จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อหันไปดูพบว่าลูกสาวถูกยิงที่ศีรษะแน่นิ่งไปแล้ว ตนจึงวิ่งไปกอดที่ขาลูกสาวเอาไว้ ก่อนนายเบนซ์จะยิงซ้ำอีก 2 นัด แต่ไม่โดน

โดยตนถามไปว่าทำไมทำแบบนี้ อีกฝ่ายบอกว่า "เตรียมการมานานแล้ว" ทั้งนี้ ลูกสาววัย 4 ขวบก็อยู่ในเหตุการณ์ และวิ่งมาเกาะขานายเบนซ์ พร้อมพูดว่า "พ่อยิงแม่ทำไม" ซึ่งนายเบนซ์อ้างว่าหึงลูกสาว โดยตนก็ไม่เข้าใจ เพราะต่างแยกทางกันไปแล้ว ตัวนายเบนซ์ก็มีผู้หญิงคนใหม่แล้ว 

ทั้งนี้ ลูกสาวกับนายเบนซ์แยกทางกันไปประมาณ 6 เดือนแล้ว เพราะอีกฝ่ายชอบทำร้ายจนลูกสาวทนไม่ไหว และข่มขู่จะทำร้ายลูกตลอด ช่วงแรกอีกฝ่ายก็พยายามง้อ แต่ก็หายไป จนมาเกิดเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวมองว่านายเบนซ์น่าจะให้ลูกชาย ซึ่งเป็นลูกติดของตัวเองมาดูต้นทาง เพราะตนเห็นลูกชายนายเบนซ์เข้ามาที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านของตนถึง 2 รอบ ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุอดีตลูกเขยไม่ได้กล่าวขอโทษ แต่บอกว่าจะมอบตัว หลังก่อเหตุก็เก็บปืน เดินไปมาเกือบ 20 นาที ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หนีไป ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้จะยืนไม่ไหวแล้ว เรื่องคดีก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามสิ่งที่อีกฝ่ายได้ก่อเอาไว้

นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกชายของผู้ก่อเหตุ ลูกติดภรรยาเก่า ระบุว่า วันเกิดเหตุพ่อโทรศัพท์มาบอกให้แวะไปดู ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 4 ขวบ ที่บ้านอดีตภรรยา ตนจึงขับรถจักรยานยนต์ไปที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 17.00 น. เมื่อไปถึงพบน.ส.จารุพรรณ ผู้ตาย กำลังเล่นกับ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นลูกสาว ตนจึงบอกพ่อทางโทรศัพท์ว่าน้องกำลังเล่นกับแม่ และขับรถกลับมาที่บ้านของตัวเองตามปกติ

จากนั้น เวลาประมาณ 18.00 น. พ่อโทรศัพท์ตามให้ตนไปหาที่จุดเกิดเหตุ ตนก็เข้าไปพบว่าพ่อยิง น.ส.จารุพรรณ แล้ว และไม่ได้บอกเหตุผล ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้าน ตนยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนดูต้นทางให้พ่อตามที่มีข่าวออกมา แค่พูดตามสิ่งที่เห็นเพราะพ่อถามเท่านั้น ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าพ่อจะกล้าทำขนาดนี้ง

บรรยากาศที่วัดพนมยงค์ อ.พระนครศรีอยุธยา ญาติและเพื่อนร่วมกันทำพิธีรดน้ำศพ น.ส.จารุพรรณ ผู้ตาย ก่อนนำศพบรรจุใส่โลง น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าผู้ตายมีความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว และได้ตัดสินใจแยกทางกับนายเบนซ์ อดีตสามี จากนั้นก็เริ่มมีคนคุยใหม่ โดยทราบว่าช่วงแรกนายเบนซ์พยายามตามง้อ แต่น.ส.จารุพรรณ ยืนยันว่าจะไม่กลับไปคืนดีด้วย

นายเบนซ์ยังเคยทักมาหาตน เพราะต้องการจะคุยกับ น.ส.จารุพรรณ แต่ตนก็ไม่ค่อยได้คุยด้วย กระทั่งวานนี้ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้คุยกับ น.ส.จารุพรรณทางโทรศัพท์ อีกฝ่ายถามว่าตนจะไปขับรถส่งอาหารหรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบว่าไปและยังนัดเจอกันที่เดิม แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุขึ้นก่อน ทั้งนี้มองว่าเพื่อนก็คงไม่ระวังตัว ยังใช้ชีวิตปกติ คงไม่คิดว่าอดีตสามีจะกล้าทำขนาดนี้ และเพื่อนคนมีการโพสต์เฟซบุ๊กก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยนั้น