วันที่ 13.ธ.ค. 64 เวลา 10.12 น. ร.ต.อ.พิศาล เรืองผัน พนักงานสอบสวน สภ.นครปฐม ได้รับแจ้งว่ามีคนโดนวัตถุปริศนาหล่นใส่ศีรษะอาการสาหัส ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านซ่อมกลอนประตูรถยนต์ด้านหน้าร้านชื่อร้านโชว์เทคนิค สาขาตาก้อง 2 ใน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบรอยเลือดอยู่บริเวณพื้นด้านหลังบ้านที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับไว้ขาย ทราบชื่อผู้บาดเจ็บสาหัส นายสมปอง อุทัยแสน อายุ 38 ปี
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครปฐม โดยพนักงานสอบสวนมีการเรียกภรรยา ลูกชาย และเพื่อนของนายสมปองเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากภรรยาผู้บาดเจ็บออกมาจากห้องสอบสวนก็ร้องไห้
นางสาวจุฬา ชูคณิต อายุ 40 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้า หลังจากตนเองและสามีออกไปส่งลูกสาวคนเล็ก ก็แวะซื้อของมาทำกับข้าวกินหลังบ้าน พร้อมลูกชาย จากนั้นแม่ของตนเองแวะมาหา ก่อนกลับไปก่อนเกิดเหตุตนเองยืนดูต้นไม้ที่ปลูกเพื่อจำหน่ายอยู่หลังบ้านกับสามี ได้ยินเสียงปืนดังอยู่ครั้ง แต่ไม่ได้เอะใจเนื่องจากจุดนี้มีคนยิงปืนขึ้นฟ้าบ่อยครั้ง
ต่อมาจู่ ๆ มีเสียงดัง สามีก็ล้มลงไปกับพื้น พร้อมเลือดไหลเต็มศีรษะ ตนเองยังไม่ทราบว่าถูกกระสุนปืน ขณะนั้นสามียังสามารถพูดคุยได้ และยังสื่อสารได้ ต่อมานำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม
ซึ่งล่าสุดอาการเป็นตายเท่ากัน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถผ่ากระสุนได้ และไม่สามารถย้ายโรงพยาบาลได้ เพราะเสี่ยงเสียชีวิต ทางครอบครัวมองเป็นเรื่องลูกหลงจากอาวุธปืนที่ยิงขึ้นฟ้า สามีนิสัยดี เป็นเสาหลัก ไม่เคยมีปีญหากับใคร ที่ผ่านมาบริเวณใกล้เคียงมีการยิงปืนขึ้นฟ้ากันบ่อยครั้ง ร้องเรียนไปก็ไม่มีความคืบหน้าจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ที่บ้านตนเองบริเวณหลังคาห้องนอนก็เคยถูกกระสุนปืนตกใส่หลังคาบ้านมาแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครบาดเจ็บ ตนต้องการให้คนผิดมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป
ขณะที่นายสิทธิชัย อุทัยแสน อายุ 19 ปี ลูกชายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงเช้าหลังจากที่ตนเองได้นั่งรับประทานอาหารกับพ่อแม่แล้ว ก็เข้ามานอนเล่นในบ้าน พ่อกับแม่กำลังยืนดูต้นไม้กันหลังบ้าน แม่ก็วิ่งเข้ามาเรียกบอกว่าพ่อล้มหัวฟาดพื้น ตนเองตกใจรีบวิ่งไปดู พบว่าพ่อนอนอยู่กับพื้น ที่เลือดที่หัวจำนวนมาก จากนั้นแม่ลูบหัวพ่อก็พบว่าเนิ่มผิดปกติ เพราะมีลักษณะคล้ายรูขนาดใหญ่บนหัว ก่อนนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ตอนนี้พ่อไม่ตอบสนอง ตนเองอยากให้พ่อฟื้นขึ้นมา เพราะตนเองรักพ่อมาก และพ่อก็เป็นเสาหลัก เลี้ยงแม่ ตนเอง และน้องสาวมาตลอด เปิดอู่มา 17-18 ปี ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย อยากให้คนก่อเหตุมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป