หนุ่มถูกสากตีหัวเหวอะ รับฉุนข้างห้องเสียงดัง คว้าท่อบุกเอาคืน - มือฟาดแฉกลับ เมากร่างก่อน (คลิป)

จากกรณีนายยุทภรณ์ ถมบัติ อายุ 39 ปี เช่าห้องแถวอยู่ภายในซอยสังกะสี ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. อ้างว่าถูกขาใหญ่ประจำ ต.นาป่า และพวกประมาณ 4-6 คน เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เพราะพูดขอให้กลุ่มเพื่อนบ้าน ช่วยเบาเสียงเพลง ขณะกำลังตั้งวงนั่งดื่มสุรากันอยู่ ทำให้ขาใหญ่ประจำ ต.นาป่า ไม่พอใจ นำสากกะเบือฟาดใส่ศีรษะไม่ยั้ง บาดเจ็บเย็บกว่า 10 แผล

จากนั้น วันต่อมา นายยุทภรณ์เข้าไปสอบถามคู่กรณีอีกครั้ง แต่กลับถูกคู่อริกลุ่มเดิมรุมทำร้ายอีก ซ้ำยังข่มขู่ไม่ให้ไปแจ้งความ หากแจ้งความจะกลับมากระทืบซ้ำให้ตาย (อ่าน : ก๊วนวงเหล้าคว้าสากทุบหัวหนุ่มเพื่อนบ้าน ฉุนถูกเตือนเปิดเพลงดัง ขู่ถ้าแจ้งความจะกระทืบซ้ำให้ตาย)

วันที่ 7 ธ.ค. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่หอพักดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในซอยศุขประยูร 23 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมีขนาด 2 ชั้น รวมกันประมาณ 20 ห้อง ซึ่งห้องของผู้บาดเจ็บ อยู่ห้อง 3 ส่วนคู่กรณีพักอยู่ภายในห้องที่ 2 โดย นางสาวนิว (นามสมมติ) เจ้าของหอพัก เปิดเผยว่า ตนทราบข้อมูลมาว่า ช่วงประมาณ 22.00 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุได้นั่งดื่มเบียร์กันอยู่ และชายผู้บาดเจ็บก็เปิดประตูมาต่อว่าในลักษณะที่สั่งให้พวกกลุ่มผู้ก่อเหตุเงียบ ๆ ทั้งยังชี้หน้าข่มขู่ด้วยคำหยาบ โดยตอนนั้นนายยุทภรณ์มีอาการเมาสุราร่วมด้วย ทำให้เด็กในกลุ่มออกไปห้ามปราม แต่ก็ถูกนายยุทภรณ์ตบหน้า ส่งผลให้กลุ่มผู้ก่อเหตุเกิดความโกรธ จึงยกพวกมารุมทำร้ายนายยุทธภรณ์

หลังจากนั้น นายยุทภรณ์ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อกลับมาถึงห้องพักในเวลา 03.00 น. ของวันที่ 6 ธ.ค. จากนั้นนายยุทภรณ์ก็กลับไปหยิบท่อแป๊บเหล็กออกมาหากลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนั้นคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุคงไม่ยอม จึงรุมทำร้ายร่างกายกลับมา เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้ง แต่นายยุทภรณ์กลับให้ข่าวว่าโดนรุมทำร้ายจนไม่สามารถไปทำงานได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะนายยุทภรณ์ไม่ได้มีงานทำประจำ และชอบดื่มสุราเป็นประจำ ส่วนคู่กรณี หรือนายติ๊กนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่ขาใหญ่ตามที่เป็นข่าว

นายยุทภรณ์ ถมบัติ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ (5 ธ.ค.) ประมาณ 21.00 น. ตนกำลังจะเข้านอนแต่นอนไม่หลับ เนื่องจากปวดฟัน ประกอบกับได้ยินเสียงกลุ่มข้างห้องเสียงดัง จึงออกไปเตือนด้วยการพูดดีว่า ให้เบาเสียงหน่อย แต่กลับถูกคู่กรณีปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยคู่กรณีรายหนึ่งชื่อ นายติ๊ก ใช้สากกะเบือมาตีที่ศีรษะตน

หลังจากนายติ๊กก็ใช้สากกะเบือตีศีรษะตน ทำให้มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ตนจึงเรียกให้ภรรยาโทรแจ้งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงมารับตนไปโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่ถึงกับสลบไป แต่ค่อนข้างมึนศีรษะ ทั้งนี้ จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า นายติ๊กเป็นขาใหญ่ประจำนาป่านั้นไม่เป็นความจริง แต่ตนยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตนก็เมาสุรามาด้วย แต่ตนก็เมาแบบนี้เป้นประจำ เพราะตนจะกินเพียงเหล้าขาว และกินเฉพาะในห้องของตัวเอง ไม่เคยออกไปมีเรื่องกับใคร

ส่วนกรณีที่หลังเกิดเหตุ ตนกลับมาจากโรงพยาบาลแล้วเอาท่อแป๊บเหล็กไปตีกลุ่มคู่กรณีนั้น ยอมรับว่าทำจริง เพราะรู้สึกแค้นใจ ที่ถูกทำร้ายปางตาย จึงถือแป๊บเหล็กออกไปหาคู่กรณี และถูกรุมทำร้ายอีกครั้ง ส่งผลให้อาการบาดเจ็บหนักกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ตนปรึกษากับแฟนว่าจะย้ายห้อง เพราะมีเรื่องกับคนข้างห้องจึงไม่อยากพักอาศัยต่อ

ด้าน นายติ๊ก (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุ นายยุทภรณ์ออกมาจากห้อง แล้วใช้คำพูดกับพวกตนว่า “พวกมึงเสียงดัง กูไม่ได้นอนเลย” จากนั้นก็เดินเข้ามาหากลุ่มพวกตน ซึ่งกำลังทำกับข้าวกันอยู่ ตนยอมรับว่ารู้สึกโมโห จึงหยิบสากกะเบือขึ้นมาฟาดใส่ไป 1 ที แต่นายยุทภรณ์ก็ไม่หยุด จะเดินเข้ามาต่อยตนต่อ กระทั่งรถพยาบาลมาพอดี จึงนำตัวคู่กรณีส่งโรงพยาบาล จากนั้น นายยุทภรณ์กลับมาจากโรงพยาบาลประมาณ 03.00 น. ก็เดินถือท่อแป๊บเหล็กเข้ามาหากลุ่มรุ่นพี่ตนอีกครั้ง จากนั้นก็เขวี้ยงท่อแป๊บมาใส่ ทำให้กลุ่มรุ่นพี่ตนเกิดไม่พอใจ เข้าไปรุมทำร้ายนายยุทภรณ์

นายติ๊ก กล่าวว่า ตนยอมรับว่าก่อเหตุทำร้ายนายยุทภรณ์จริง เนื่องจากไม่พอใจที่นายยุทภรณ์พูดจาไม่ดีใส่ หากอีกฝ่ายบอกกันดี ๆ ให้ช่วยเบาเสียง พวกตนก็จะทำให้ อีกทั้ง พวกตนเพียงแค่คุยกัน ไม่ได้เปิดเพลงเสียงดังตามที่นายยุทภรณ์กล่าวอ้าง อีกทั้งตนขอยืนยันว่า ตนไม่ใช่ขาใหญ่ประจำตำบลนาป่า และเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล รวมถึงไม่เคยไปข่มขู่ให้อีกฝ่ายห้ามแจ้งความอีกด้วย