หนูน้อยซิ่งเรือ 5 ขวบ! พ่อเปิดใจ สอนเองดีกว่าปล่อยติดเกม อึ้งคนแชร์ อย่าห่วงประกบไม่ห่าง (คลิป)

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊ก บรรพต เพ็ชรน้อย นิว โคตรระห่ำ เผยแพร่คลิปวิดีโอ เด็กน้อยคนหนึ่งในชุดอนุบาลกำลังบังคับเรือ และออกท่าทางอย่างแบบมืออาชีพ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ขอทางหน่อยครับ หนูรีบไปเรียนหนังสือ 5 ขวบก็ชิ่งชะแล้ววว กล้อง โคตรระห่ำ” โดยมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างมาก ทั้งชื่นชม และเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเด็ก

วันที่ 10 ธ.ค. 61 ที่ คลองสำโรง ต.แพรกษาใหม่ จ.สมุทรปราการ นายบรรพต เพ็ชรน้อย พ่อของน้องข้าวกล้อง เด็กชายในคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า น้องข้าวกล้องเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 แต่มีความกล้าอย่างมาก และอยากขับเรือเป็น เนื่องจากเห็นตนขับ แรก ๆ ตนให้น้องนั่งในเรือ และลองโยกพังงา ขณะที่เรือยังจอดอยู่ เมื่อตนเห็นว่าน้องข้าวกล้องสามารถบังคับเรือได้ จึงเริ่มสอนน้องขับเรือ โดยตนนั่งเรือไปกับน้องด้วย และลองให้ข้าวกล้องบังคับเรือไปทางซ้ายหรือขวา

จากนั้นก็เริ่มปล่อยให้ลองขับเอง โดยมีผู้ปกครองสตาร์ตเครื่องให้ เพราะน้องยังไม่สามารถสตาร์ตได้ด้วยตัวเอง ซึ่งปกติจะมีมีตนหรือปู่ของน้องนั่งไปด้วย น้อยครั้งที่จะปล่อยให้ไปคนเดียว ในฐานะที่ตนเป็นพ่อก็ห่วงความปลอดภัยของลูกอยู่แล้ว โดยจะให้สวมเสื้อชูชีพตลอด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในคลิปที่โพสต์นั้น เกิดขึ้นหลังจากน้องกลับมาจากโรงเรียน และขับเรือไม่ได้เปลี่ยนชุดนักเรียน ตนจึงถ่ายคลิปไว้ดูขำ ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ดู จากนั้นพบว่า ผู้คนในโลกออนไลน์แชร์คลิปดังกล่าวออกไป มากกว่า 1,000 ครั้ง ตนก็รู้สึกตกใจไม่คิดว่าจะมีคนแชร์เยอะ และเมื่อมียอดแชร์เป็นนำนวนมาก พบว่า มีคอมเมนต์ว่าน้องข้าวกล้องดังแล้ว และเก่ง อายุแค่นี้ขับเรือเป็นแล้ว รวมถึงคอมเมนต์ในลักษณะเป็นห่วง กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย ซึ่งในวันที่ถ่ายคลิป เวลาน้อยตนจึงไม่ทันสวมชูชีพให้ลูกชาย และขอยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ขับเรือเร็ว เพียงแต่ในคลิปจะดูเหมือนเร็วเท่านั้น

ส่วนในคลิปที่เห็นน้องทำดึงหน้าตอนบังคับเรือนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหางเรือหนักพอสมควร และส่วนหนึ่งคือทำตามตน โดยปกติเด็กจะสามารถขับเรือได้ตอนอายุประมาณ 10 ขวบ และลูกชายของตนสามารถขับได้ นั้นก็ถือว่าอายุน้อยพอสมควร ซึ่งตนเห็นว่า ลูกอายุ 5 ขวบ ยังสามารถขับเรือคล่องขนาดนี้ ตนก็จะให้ลูกขับต่อไปในอนาคต เผื่อในวันหนึ่งจะได้ส่งเข้าแข่งขันการขับเรือ ซึ่งการขับเรือนั้นจะต้องฝึกฝนบ่อย ๆ เพราะหากคนไม่เคยขับก็อาจปวดเมื่อยทั้งตัว เพราะต้องบังคับพังงา ส่วนอันตราย จากการขับเรือก็จะมีบ้าง โดยเฉพาะการกลับลำเรือ นายบรรพต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเพิ่งหัดให้ลูกชายขับเรือได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งขณะนี้ก็ถือว่า ลูกสามารถขับเรือในระดับที่ดี ซึ่งสาเหตุที่ตนต้องการให้ลูกขับเรือ เพราะปกติเมื่อกลับมาจากโรงเรียน ลูกจะเล่นแต่แท็บเล็ต เล่นเกม ดังนั้น เมื่อลูกมาขับเรือกับตนก็จะเหนื่อย กลับบ้านจะได้นอนหลับเลย ถือเป็นอีกวิธีที่ทำให้ลูกเล่นโทรศัพท์ลดลง นอกจากนี้ ลูกชายบอกกับตนว่าชอบขับเรือ และอยากขับเป็นเหมือนพ่อ ตนก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายที่มีคนชื่นชมว่า ขับเรือเก่ง โดยเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนของลูกชายบางคนก็ถึงกับเข้ามากอด และครูประจำชั้นก็ชื่นชมตัวลูกชายเช่นกัน หลังจากนี้ก็จะให้ลูกชายขับเรือต่อไป โดยมีตนเป็นผู้คอยสอน