มิเคล ป็อปคอฟ วัย 54 ปี อดีตตำรวจ ที่ก่อนหน้านี้ถูกตัดสินจำคุกข้อหาฆาตกรรมหญิง 22 ราย ถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้(10 ธ.ค.61) ในข้อหาฆาตกรรมหญิงอีก 56 ราย ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซียสมัยใหม่ โดยเขาจะขับรถพาเหยื่อไปยังที่ก่อเหตุ ก่อนลงมือใช้ขวาน มีด หรือไขควง ในการสังหารเหยื่อ และบางคนยังถูกเขาข่มขืนก่อนอีกด้วย
ป็อปคอฟถูกจำคุกในเขตสหพันธ์ตะวันออกไกลของรัสเซียในปี 2555 หรือ ราว 20 ปีหลังเริ่มก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในเดือนมกราคม ปี 2558 ข้อหาฆาตกรรมหญิง 22 ศพ และข้อหาพยายามฆ่าอีก 2 กรณี ต่อมา เขาสารภาพว่าก่อเหตุอีก 60 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการฆาตกรรม 59 ศพ หลังถูกศาลตัดสินโทษ
เจ้าหน้าที่สอบสวน บอกวานนี้ว่า ป็อปคอฟ แสดงหลักฐานที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถขุดพบซากของเหยื่อที่ถูกเขาสังหารเมื่อราว 15-20 ปีก่อน รวมทั้งอาวุธที่เขาใช้ก่อเหตุอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า เหยื่อของป็อปคอฟ เป็นหญิงวัยระหว่าง 16-40 ปี และเขายังลงมือสังหารชายหนึ่งคน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนกัน ด้านอัยการประจำรัฐ ให้ข้อมูลต่อศาลว่าป็อปคอฟ มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ในการจดจำรายละเอียดของการฆาตกรรม ที่รวมทั้งเสื้อผ้า รอยสัก และเครื่องประดับที่เหยื่อสวมใส่
ทั้งนี้เมื่อปี 2535 ศาลรัสเซียตัดสินประหารชีวิตนักโทษคนหนึ่งที่ก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่อกว่า 50 ศพ และในปี 2550 มีการตัดสินโทษฆาตกรผู้มีฉายาว่า นักฆ่าตารางหมากรุก ที่ก่อเหตุฆาตกรรม 48 ศพ เนื่องจากต้องการวางเหรียญในช่องหมากรุกทุกครั้งที่สังหารเหยื่อสำเร็จ
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่
อมรินทร์ที วี เอชดี ช่อง 34