หนึ่งในเทศกาลของช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผู้คนรู้จักเป็นอย่างดีคือวัน คริสต์มาส ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และถึงแม้วันสำคัญนี้จะไม่แพร่หลายในประเทศไทย แต่ในวันนี้เราอยากจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ถือเป็นเอกักษณ์ประจำวันคริสต์มาส และความหมายของสัญลักษณ์เหล่านั้น
- Father Christmas : เมื่อพูดถึงคริสต์มาสเราคงต้องนึกถึงชายรูปร่างอ้วนไว้หนวดเคราสีขาวอย่าง ซานตาคลอส หรือ Father Christmas ที่หมายถึงบิดาแห่งคริสต์มาส ซึ่งเป็นตัวละครที่มีแรงบันดาลใจมาจากเซนต์นิโคลัส โดยซานตาคลอสจะอาศัยอยู่ที่ขั่วโลกเหนือ มีกวางเรนเดียร์ลากเลื่อนเป็นพาหนะคู่ใจเพื่อเดินทางไปให้ของขวัญกับเด็กดีทั่วโลก โดยจะลงไปในปล่องไฟเพื่อมอบของขวัญใส่ในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง หรือใต้ต้นคริสต์มาส และถ้าเด็กคนไหนทำตัวไม่ดีก็จะได้ถ่านแทนของขวัญ ถือเป็นอุบายให้เด็ก ๆ เป็นเด็กดีนั่นเอง
- ถุงเท้า : นักบุญชื่อนิโคลัสได้พบกับพี่น้องสามสาวซึ่งมีความเป็นอยู่ยากจน นักบุญนิโคลัสเกิดความคิดที่จะช่วยให้พวกเธอไม่ให้ต้องไปเป็นโสเภณี คืนนั้นนักบุญนิโคลาสจึงได้หย่อนทองสามก้อนลงไปในปล่องไฟบ้านของพวกเธอ ซึ่งทองไม่ได้ตกลงไปบนพื้นแต่กลับตกลงไปในถุงเท้าที่พวกเธอแขวนไว้ข้างหน้าเตาผิงเพื่อที่จะให้ถุงเท้าแห้ง ในเช้าของวันต่อมาพวกเธอได้พบเหรียญอยู่ในถุงเท้าจึงเกิดความปิติยินดีมาก ต่อมาก็มีผู้คนมากมายจึงแขวนถุงเท้าคริสต์มาสไว้ โดยหวังว่าจะได้รับของขวัญในลักษณะเดียวกันบ้าง
- ต้นคริสต์มาส : ในสมัยโบราณนั้นต้นคริสต์มาสหมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอดัมและอีฟไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า โดยตามพระคัมภีร์นั้นได้เปรียบพระเยซูเจ้าเสมือนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ดังนั้นต้นไม้ที่มีสีเขียวเสมอในทุกฤดูกาลสื่อถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า โดยในช่วงศตวรรษที่ 16 มาร์ติน ลูเธอร์ เป็นผู้ริเริ่มการนำของตกแต่งคริสต์มาส เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี และหลังจากศตวรรษที่ 19 มาการตกแต่งประดับต้นคริสต์มาสก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก
- ดาว : เมื่อพูดถึงต้นคริสต์มาสสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ก็คือดาวที่ประดับอยู่บนยอดสูงสุดของต้นนั่นเอง โดยในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูติโหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษที่มีความสุกสว่างกว่าดาวทั่วไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า จึงออกเดินทางตามแสงแห่งดวงดาว จนไปพบกับสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่เมืองเบธเลเฮม นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่า ดาว คือสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูนั่นเอง
- Holly : ต้น Holly หรือ ฮอลลี่ ซึ่งสีเขียวชอุ่มของต้นฮอลลี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ ผลสีแดงสดของต้นฮอลลี่เป็นสัญลักษณ์ของหยดเลือดของพระเยซูที่ไหลลงบนไม้กางเขน สีเหล่านั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่มีต่อพระเจ้าซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่มีต่อความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า ใบไม้ที่มีหนามนั้นจะเป็นสิ่งที่เตือนพวกเราถึงมงกุฏหนามที่พวกชาวทหารโรมันได้นำมาวางไว้บนศีรษะของพระเยซู
- The Christmas Wreath : หรือ พวงมาลัยคริสต์มาส ที่แขวนประดับไว้บนประตูหน้าบ้าน มันถูกร้อยด้วยโบสีแดงซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรื่นเริง ในขณะที่ใบไม้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่เป็นนิรันดร์ซึ่งจะแสดงถึงความมีศรัทธาต่อวันประสูติของพระเยซู และยังเชื่อว่าจะสามารถช่วยป้องกันบ้านเรือนจากพวกพลังอันชั่วร้ายได้ ซึ่งช่วงเวลานี้มักถูกคิดว่าเป็นช่วงที่พลังความชั่วร้ายมีมากที่สุดในรอบปี