คลิปลับลูกเมียหลวงเห็นจะจะสาวปริศนาจุ๊บผัว พยานซี้ "แม่น้ำหนึ่ง" ขอย้ายข้าง (คลิป)

จากกรณีเมื่อวานนี้ 16 ธันวาคม 2564 นางสาวดุสิตา แนมขุนทด หรือ เอิน พร้อม ทนายโนบิตะ และเฮียเปี๊ยก ภาณุมาศ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว งัดหลักฐานเด็ดทั้งภาพ แชต วิดีโอ คลิปเสียงและพยานบุคคล เพื่อเดินทางไปยื่นเรื่องฟ้องหย่าและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรทั้ง 2 คน จากนายพงษธร หรือ ฟิล์ม สามีโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ในจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อเดือน จนกว่าบุตรทั้ง 2 คนจะบรรลุนิติภาวะหรือจบปริญญาตรี พร้อมกับยื่นฟ้องเรียกค่าทดแทนจาก แม่น้ำหนึ่ง หรือ นางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เป็นจำนวน 300,000 บาท ต่อศาลเยาวชน​และ​ครอบครัว​นครราชสีมานั้น

หลังจากเป็นข่าว ก็มีโซเชียลบางส่วนที่สนใจเรื่องของคนอื่นแบบใกล้ชิดให้ความสำคัญ มาคอมเมนต์เปรียบเทียบรูปลักษณ์หน้าตาของนางสาวเอิน และว่ากล่าวบูลลี่เมียหลวงที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ผิดศีลธรรมของไทยนั้น ล่าสุด วันที่ 17 ธันวาคม 2564 เมื่อช่วง 12.00 น. แพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย เจ้าของเกศกมลคลินิก โพสต์ว่าเห็นใจความเป็นภรรยาหลวง เพราะหมอเองก็เป็นภรรยาและเป็นแม่เหมือนกับน้องเอิน จึงขอยื่นมือเข้าไปช่วยและเสนอว่าจะเป็นคนแปลงโฉมให้กับน้องเอินฟรี

ต่อมาในช่วงค่ำ หมอเกศพร้อมทีมงานก็เดินทางมาถึงบ้านของนางสาวเอิน และได้มอบเซรั่มหน้าขาวใสและหวีสุขภาพออร์แกนิกซ์ให้ใช้เบื้องต้นก่อน จากนั้นก็ให้นางสาวเอินถอดหน้ากากและทำการประเมินวางแผนแปลงโฉม หมอบอกว่าโครงหน้าเดิมสวยอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นตาและคิ้ว เพราะฉะนั้นจึงขอถามเจ้าตัวก่อนว่าอยากทำอะไร ซึ่งนางสาวเอินบอกว่าสิ่งแรกที่อยากทำคือจมูก เพราะว่าเคยทำมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน แต่รู้สึกว่าไม่โด่งพอใจ ซึ่งคุณหมอก็ยินดีจะทำให้

สำหรับรายการที่หมอจะทำให้อีกคือ ปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟ ยกกระชับ ฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม จัดฟันและทำฟันขาว ทำเลเซอร์ขาวใส เลเซอร์รักษากระ ริ้วรอย รักษาสิว ทรีทเมนท์บำรุงผิว ฉีดโบท็อกซ์ ทำคาง รวมแล้วทั้งหมด 10 รายเป็นอย่างต่ำ มูลค่าประมาณ 200,000 บาท แต่ทั้งหมดคุณหมอจะทำให้ฟรี และจะเริ่มต้นที่ทำฟันขาว จากนั้นที่เหลือจะทยอยทำไป คาดว่าประมาณ 1 เดือนหลังทำใบหน้าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวม หมอรับรองว่าต้องสวยจนคนอื่นอิจฉาแน่นอน

เมื่อทีมข่าวถามว่าทำไมถึงตอบตกลงที่จะแปลงโฉมในครั้งนี้ นางสาวเอินบอกว่าหลังจากเป็นข่าว ตนได้เห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา ที่มีการเปรียบเทียบระหว่างตนกับคนอื่น และบางคนก็บอกว่าที่ผู้ชายทิ้งไปเพราะตนไม่สวยหรือเปล่า ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนบูลลี่ การตัดสินใจครั้งนี้ จึงเชื่อว่าจะทำให้ตัวเองสวยขึ้น คนที่เคยบูลลี่ก็จะได้เลิกบูลลี่สักที อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มีต้นแบบเบ้าหน้าที่อยากจะให้ผลลัพธ์ออกมาเหมือนกับใครหรือดาราคนไหน เพราะอยากสวยในแบบของตัวเอง

ในขณะที่ด้านของ หมอเกศก็รับประกันเลยว่าจะทำสุดความสามารถ ความตั้งใจทำด้วยใจ ไม่ได้ต้องการชื่อเสียงหรือสิ่งตอบแทน ทั้งนี้ยังจะให้น้องเป็นพรีเซนเตอร์ทั้ง 12 สาขาอีกด้วย เพื่อจะได้เป็นกำลังใจให้ในการดำรงชีวิต เลี้ยงดูลูกและพ่อแม่ตามที่ตั้งไจไว้ บวกกับถือเป็นการปรับโหงวเฮ้งให้กับน้องไปในตัวด้วย

นางสาวเอิน หลังจากที่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าววานนี้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ลูกสาววัย 8 ขวบ เคยเล่าให้ตนฟังว่าช่วงต้นเดือนตุลาคม 2564 ลูกมีโอกาสได้ไปเที่ยว จ.ระยอง กับนายฟิล์มและผู้หญิงอีกคน แล้วลูกเห็นว่าขณะที่พ่อขับรถ ด้านของ ผู้หญิงก็หยิบขนมขึ้นมาป้อนให้กับพ่อ แถมตอนที่มีการแวะห้องน้ำในปั๊มแห่งหนึ่ง ลูกเห็นว่าผู้หญิงจูบหน้าผาก หอมแก้มพ่อต่อหน้าต่อตาด้วย

ด้านนางสาวปลา (นามสมมติ) พยานของนางสาวเอิน เมียหลวง เป็นคนที่คุยกับแม่น้ำหนึ่งผ่านแชตเฟซบุ๊ก เปิดใจว่า ตัวเองนับถือ แม่น้ำหนึ่งและเป็นคนที่ซื้อหวยตามมาตลอด เริ่มเอะใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแม่น้ำหนึ่งกับนายฟิล์มตอนที่เห็นว่าทั้งคู่ไปมาหาสู่ด้วยกันบ่อย เท่าที่ตนสามารถเล่าได้ก็จะมี 4 เหตุการณ์ด้วยกัน

ครั้งที่ 1 วันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2564 นายฟิล์มมีแพลนจะสร้างบ้านใกล้กับร้านส้มตำของตน ครั้งแรกทั้งคู่ไม่ลงจากรถ สั่งให้หลานของนายฟิล์มมาสั่งส้มตำ ตนก็ทำให้ ยังไม่รู้ว่าแม่น้ำหนึ่งเป็นคนสั่งให้มาซื้อ จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ขับรถผ่านหน้าร้านตน แล้วแม่น้ำหนึ่งลดกระจกออกมาแล้วบอกว่าส้มตำอร่อยมาก พร้อมกับเห็นนายฟิล์มนั่งอยู่ในรถ

ครั้งที่ 2 วันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2564 ตนเห็นว่าทั้งคู่มากัน 2 คน แม่น้ำหนึ่งเป็นขับรถตู้เบนซ์สีดำป้ายแดง นายฟิล์มนั่งข้าง ๆ ซึ่งวันนั้นแม่น้ำหนึ่งก็ให้หลานมาสั่งส้มตำ ไม่ยอมลงจากรถเหมือนเดิม เพราะนายฟิล์มเจ็บขา แต่ทั้งคู่เปิดกระจกรถ

ครั้งที่ 3 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ตนเห็นว่าแม่น้ำหนึ่งใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ มัดผม พร้อมนายฟิล์มใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงสามส่วน นั่งรถตู้เบนซ์สีดำ ป้ายแดงคันเดิมมาจอดที่หน้าร้านตน แต่ครั้งนี้มีคนขับมาด้วยอีก 1 คน หลังจากนั้น 2 คนก็เดินลงมาจากรถ เพื่อดูพื้นที่ที่นายฟิล์มจะสร้างบ้าน ตอนนั้นตนเริ่มเอะใจ ด้วยความที่เป็นนายจ้างกับลูกจ้างจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเดินทางมาด้วยกันบ่อยขนาดนี้ บางครั้งมากัน 2 คน แล้ววันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เหตุการณ์ซึ่งกลายเป็นข่าวดังก็เกิดขึ้น ระหว่างที่พิธีลงเสาเอก นางสาวเอินก็มาร่วมพิธีด้วย

ในขณะที่วันนี้ นางสาวปอย น้องสาวของนางสาวเอินส่งคลิปซึ่งทางครอบครัวถ่ายไว้ให้กับทีมข่าว เป็นคลิปที่ลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ บอกว่าขณะที่เขาไปเที่ยวระยองกับพ่อ และผู้หญิงอีกคน เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 แล้วลูกเห็นว่าขณะที่พ่อขับรถ ผู้หญิงอีกคนก็หยิบขนมขึ้นมาป้อนให้กับพ่อ แถมตอนที่มีการแวะห้องน้ำในปั๊มแห่งหนึ่ง ลูกเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นจูบหน้าผากพ่อต่อหน้าด้วย หลังจากนั้นตอนกลางคืน ตนก็ไปนอนกับพ่อ แต่พอตกเช้าพ่อก็ออกไปเล่นกับผู้หญิงคนนั้น

นางรำพึง แนมขุนทด อายุ 43 ปี แม่ของเมียหลวง บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ทนายโนบิตะและเฮียเปี๊ยกยื่นมือเข้ามาช่วยในส่วนของการดำเนินคดี และค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะลำพังลูกสาวกับตนก็คงเป็นไปได้ยากที่จะหาเงินมาเป็นค่าดำเนินการในการยื่นฟ้อง เนื่องจากเป็นเพียงแค่ชาวบ้านตาดำ ๆ ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่รู้กฎหมาย นางสาวเอิร์นเองก็ไม่ได้ทำงาน ต้องเลี้ยงลูก 7 เดือน ลูกสาวคนโตอายุ 8 ขวบอยู่ในวัยกำลังเรียน ลูกสาวคนเล็กวัย 2 ขวบก็กำลังซน ส่วนตัวเองก็ทำไร่ รายได้ไม่เยอะ

ยอมรับว่าที่ผ่านมาตั้งแต่ลูกสาวแต่งงานกับนายฟิล์ม และมีลูกด้วยกัน 2 คน ตนเห็นว่าลูกสาวไม่เคยมีความสุขกับชีวิตคู่เลย เพราะ นายฟิล์มมีปัญหาเรื่องผู้หญิงบ่อยมาก ตนก็ปล่อยผ่านมาตลอด เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องผัวเมีย จนกระทั่งมีเหตุการณ์แย่งลูกกันเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ตนก็รู้สึกว่ามันยอมไม่ได้ ยิ่งกลายเป็นข่าวใหญ่โตระดับประเทศ ตนก็คิดไม่ถึงว่าครอบครัวตัวเองต้องมาเผชิญกับเรื่องแบบนี้ ใจหนึ่งก็รู้สึกอายชาวบ้าน แต่ใจหนึ่งก็ต้องสู้เพื่อความเป็นธรรมของลูก บวกกับหลังมีเหตุการณ์แย่งลูกกัน นายฟิล์มเองก็ไม่เคยสนใจใยดีลูกสาวและหลาน จากที่เคยส่งเงินอยู่บ้าง ก็ไม่ส่งแล้ว

ตนเสียใจกับผู้ชายคนนี้มาก เพราะก่อนหน้านี้ตนรักเขาเหมือนลูกคนหนึ่ง ต่อให้วัน ๆ เล่นแต่เกม เจ้าชู้ กับข้าวกับปลาแม่ต้องหาให้กินตลอด ตนก็ไม่เคยด่า ไม่เคยบ่น มาเจอแบบนี้ก็ผิดหวัง จึงอยากบอกเลยว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนจะไม่ขอนับผู้ชายคนนี้เป็นลูกเขยอีก และอยากจะขอให้ออกมาพูดยอมรับความจริงที่ตัวเองทำไว้ เพราะสุดท้ายแล้วความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายฟิล์ม หลานของนายฟิล์ม ยอมรับว่าเมื่อคืนนายฟิล์มกลับมานอนที่บ้าน มาคนเดียวและออกไปทำงานที่บ้านของแม่น้ำหนึ่งตั้งแต่ตอนเช้า แต่ในเรื่องส่วนตัวตนไม่ได้คุยกัน มีเพียงแค่นายฟิล์มส่งข่าวเกี่ยวกับที่นางสาวเอิน จะยื่นฟ้องหย่ามาให้ตนดู และบอกว่าเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่วนประเด็นที่ว่าแม่น้ำหนึ่งเคยมาจัดงานวันเกิดให้กับตนและแจกเงินให้หลานคนละ 500 บาทนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะ แม่น้ำหนึ่งไม่เคยมาจัดงานวันเกิดเลย ไม่เคยแจกเงินให้ด้วย ส่วนเรื่องความสัมพันธ์อื่น ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยว เพราะเท่าที่รู้เขาเป็นนายจ้างกับลูกจ้างกัน

นางสาวปอย ยืนยันเรื่องที่แม่น้ำหนึ่งบอกว่าติดใจกับสิ่งที่ตนโพสต์ว่า ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมจบกับตน และมีแววว่าจะฟ้องร้อง ยืนยันคำเดิมว่าไม่กลัว เพราะอย่างคลิปในติ๊กต็อกที่ตนโพสต์ไปนั้น เพราะตนรู้สึกว่าสิ่งที่พี่สาวโดนนายฟิล์มกระทำมาตลอด มันโหดร้ายเกินไป และอยากให้คนทั้งโลกได้รู้ถึงสิ่งที่ 2 คนนั้นทำไว้กับพี่สาวของตนด้วย

ส่วนเรื่องที่ตนโพสต์ว่า "เหม็นกลิ่นแมงดาดงว่ะ เอ้ออ" เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ยืนยันคำเดิมเช่นกันว่าไม่ได้กล่าวอ้างถึงนายฟิล์ม หรือว่าแม่น้ำหนึ่ง เพราะตนไม่ได้เอ่ยชื่อใครในโพสต์ ซึ่งถ้าเขาจะฟ้อง ตนก็จะสู้ เพราะมั่นใจว่าทนายโนบิตะ และเฮียเปี๊ยก สามารถช่วยได้ กลับกันการที่แม่น้ำหนึ่งออกไปคอมเมนต์กับเพื่อนว่า "ว่าเขาแมงดา แต่ตัวมันเองเอาผัวรุ่นพ่อ ต่างอะไรจากกระ-รี่ 5555" ตนรู้สึกว่าเหมือนตัวเองโดนพาดพิง เพราะมีคำว่าแมงดาเหมือนโพสต์ของตน และอีกอย่างสามีของตนก็อายุ 42 ปีแล้วด้วย ตนมองว่าที่เขาออกมาคอมเมนต์แบบนี้ อาจจะโกรธแทนใครบางคนหรือเปล่า

ทั้งนี้ ตนก็อยากจะบอกกับนายฟิล์มและแม่น้ำหนึ่งว่าถ้าไม่รับสาย ก็อยากให้ออกมาชี้แจงกับสังคมว่าความจริงเป็นอย่างไร แล้วยอมรับมัน เพราะหลักฐานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคลิปภาพหรือแชตมันชัดเจน