กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" โพสต์เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง อ้างว่าหวิดจะถูกข่มขืนภายในค่ายทหารในจังหวัดลพบุรี ซึ่งคนที่จะข่มขืนก็คือทหารยศสิบเอก รวมถึงถูกทหารคนอื่น ๆ ลวนลามภายในบ้านพักของทหารอีกด้วย จนต้องวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
โดยหญิงสาวรายนี้ ส่งข้อมูลมาให้แฟนเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่จะลงมือกระทำอนาจารดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 20 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี ไปยังที่พักของหญิงสาวคนดังกล่าว ทราบว่าน้องน้ำ อยู่ในตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี พักอาศัยอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในห้องข้าวของดูเหมือนเพิ่งย้ายมาอยู่ ยังไม่มีการจัดเก็บข้าวของ สภาพของหญิงสาวคนนี้ ไม่สดใสร่าเริง หน้าตาอมทุกข์ มือสั่นปากสั่น
น้องน้ำ กล่าวว่า ตนตั้งใจจะมาเรียนปริญญาโท ซึ่งมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กันกับค่ายทหารดังกล่าว จึงได้ขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อนชายคนสนิทภายในค่ายทหาร โดยเพิ่งมาอยู่ได้ 1 สัปดาห์ ในวันที่ 9 ธันวาคม 64 ขณะที่เพื่อนชายคนสนิทไปปฏิบัติหน้าที่ ตนได้ไปนั่งที่ร้านอาหารภายในค่ายทหารและพบเจอกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน จึงชักชวนกันนั่งเล่นนั่งคุยดื่มสังสรรค์กัน โดยผู้หญิง 2 คนที่มาก็มีแฟน
เมื่อเมากันได้ที่เวลา 04.00 น. ตนได้เดินไปเข้าห้องน้ำ โดยปิดประตูห้องน้ำแต่ไม่ได้ล็อก ขณะที่ทำภารกิจเสร็จกำลังจะสวมกางเกง ได้ถูกนายทหารเชียร์ เข้ามาภายในห้องน้ำ แล้วก็พยายามจะข่มขืนตน และยังมีนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาลวนลามจับที่หน้าอก แล้วบอกกับทหารเชียร์ว่า "ถ้ามึงเสร็จแล้วกูขอต่อ" หลังจากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนยืนสูบบุหรี่ แล้วยืนมองตนถูกกระทำชำเราโดยไม่เข้าช่วยเหลือ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ตนดิ้นจนหลุดวิ่งหนีออกไปหลังบ้าน เข้าไปแอบในพงหญ้าแล้วโทรให้ทหารคนสนิทที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่มารับตัว
ทั้งนี้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และค่ายทหารได้ขอให้ตนออกจากพื้นที่ทันที ในระหว่างเก็บข้าวของวันที่ 11 ธันวาคม 64 ตนได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ผู้ก่อเหตุก็ยอมรับผิดและขอโทษ จึงมีการไกล่เกลี่ยกัน เป็นจำนวนเงิน 330,000 บาท แต่ในคืนวันเดียวกันนั้นเอง ก็มีนายทหารคนหนึ่งกับทหารเชียร์ มาพูดคุยเป็นรอบที่ 2 บอกว่าไม่มีเงินจ่ายให้ 330,000 บาทตามที่ร้องขอ และการกระทำดังกล่าวก็เหมือนว่าไม่ใช่การขืนใจ แต่เป็นการสมยอม หากอยากได้เงินและความเป็นธรรมก็ให้ไปฟ้องศาล ทำให้ตนรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงกินยาหวังฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นเพื่อนชายคนสนิทก็เข้ามาพบ แล้วพาส่งโรงพยาบาล
ในวันที่ 13 ธันวาคม 64 เพื่อนชายคนสนิทของตน ได้ขนข้าวของของออกจากบ้านพักในค่ายทหาร แล้วนำมาไว้ที่ห้องพัก ในอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง เพื่อให้ตนมาพักอาศัยอยู่ที่ดังกล่าว และขอตัดความสัมพันธ์กับตน เพราะทำให้เพื่อนชายคนสนิทได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย
ในวันที่ 14 ธันวาคม 64 ตนเดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจังหวัดลพบุรี โดยแจ้งความกับทหารเชียร์ และเพื่อนอีกคนที่ร่วมกระทำชำเรา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าตนถูกข่มขืนกระทำชำเราจริง ๆ ไม่ได้เป็นการสมยอม
"ตอนนี้สภาพจิตใจย้ำแย่มาก ๆ นอนไม่หลับ คิดมาก กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่สำคัญทำให้เพื่อนชายคนสนิทได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ตัดขาดกันก็รู้สึกเสียใจ จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร" น้องน้ำ กล่าว
ทีมข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังค่ายทหารดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพโดยเด็ดขาด จึงโทรไปสอบถาม เพื่อนชายคนสนิทของน้องน้ำ นายต้อม ซึ่งเป็นทหารในค่ายทหารแห่งนี้ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังปฏิบัติหน้าที่ฝึกซ้อม ตนคบกับน้องน้ำได้ไม่นาน จึงพาเข้ามาอยู่ในค่ายทหาร แต่พอตนเองออกไปปฏิบัติหน้าที่ น้องน้ำได้ออกไปสังสรรค์กับคนอื่น ซึ่งทั้ง 7 คน ทหารต้อมยืนยันว่าไม่รู้จักเลยสักคน เมื่อน้องน้ำไปกับชายคนอื่นจนเกิดปัญหาบานปลาย ตนจึงขอตัดความสัมพันธ์ โดยช่วยน้องน้ำได้เพียงรายงานเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาให้ทราบ เพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบของค่ายทหาร
ทีมข่าวยังได้ตรวจดูหลักฐานการพูดคุยทางแชตไลน์ ระหว่างน้องน้ำและคู่กรณี ปรากฏว่าในแชตไลน์มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยในแชตไลน์ของน้องน้ำเป็นฝ่ายถามว่า พี่ทำแบบนี้กับหนูได้อย่างไร โดยนายทหารเชียร์ตอบกลับมาว่า "เมื่อไหร่จะเชื่อใจพี่ไม่ให้ใครมาทำอะไรหนู พูดหลายรอบแล้วไม่ให้ใครทำอะไร พี่สัญญานะ"
