หนุ่มตบป้ารุ่นแม่แค้นถูกด่าจิ๊กเงิน ฉะเล่นใหญ่ร้องคราง เหยื่อโชว์แผลรูหูเลือดซิบ (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟชบุ๊ก "เจ้ม้อยv plus" โพสต์คลิปชายคนหนึ่งขณะกำลังทำร้ายผู้หญิงด้วยการตบ จนหญิงคนดังกล่าวเลือดออกหู พร้อมระบุข้อความว่า "#ทำร้ายผู้หญิงเลือดออกหู จะด้วยเหตุใดก็ไม่ควร ใช้ความรุนแรงค่ะ มีปัญหาก็ควรพูดคุย ไม่ใช่มาใช้กำลังตัดสินปัญหา หนองชุมแสง คนคนนี้ตบแม่ คิดว่าสมควรบ่ เป็นผู้ชายบ่ คนบ้านเดียวกัน สมควรเฮ็ดบ่ ตบจนเลือดออกหู คนที่บ้านหนองชุมแสง หมู่ 5 เรียกค่าเสียหาย 20,000 บาท สิให้แค่ 2,000 มันสมควรบ่ แม่ข่อยเป็นผู้หญิงเด้อ"

ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มาพบกับนายณรงค์ ผู้ก่อเหตุ ที่บ้านหนองชุมแสง อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยนายณรงค์ เปิดเผยว่า ตนคือชายที่ก่อเหตุในคลิปจริง เรื่องราวมาจากวันที่ 7 ธันวาคม 64 ลูกชายของนางสาวอรนิภา ผู้บาดเจ็บ มายืมรถมอเตอร์ไซค์ของตน แล้วเขาทำกระเป๋าเงินหาย ในนั้นมีเงินสด 2,800 บาท และบัตรต่าง ๆ จากนั้นเขาก็อ้างว่าตนเป็นคนขโมยกระเป๋าไป เพราะเขาลืมกระเป๋าไว้ใต้เบาะรถของตน แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้นำกระเป๋าเงินไป จึงทำให้ตนและครอบครัวของนางสาวอรนิภา มีปากเสียงกันตั้งแต่นั้นเรื่อยมา

กระทั่งในวันเกิดเหตุ (20 ธ.ค.64) ตนไปเจอคนรู้จักที่บ้านของนางสาวอรนิภา ทำให้นางสาวอรนิภา พูดเรื่องเก่า ๆ ว่าตนขโมยกระเป๋าเงินลูกชายของเขา พร้อมกับด่าถึงบุพการี ตนจึงทนไม่ไหวเข้าไปตบหูนางสาวอรนิภา เพื่อสั่งสอน จากนั้นเขาก็ร้องโหยหวนตามที่ปรากฏในคลิป หลังเกิดเหตุนางสาวอรนิภาได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 20,000 บาท แต่ตนก็ยังไม่จ่าย เพราะว่าเงินจำนวนดังกล่าวมากเกินไป แล้วตนก็ไม่พอใจที่เขาถ่ายคลิปไปลงโซเชียลอีกด้วย

ทั้งนี้ นางสาวอรนิภา ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนพยายามฆ่า และบุกรุกเคหะสถาน ตนยอมรับว้าดื่มเหล้าไปจริง แต่ตนไม่ได้พยายามที่จะฆ่า ตนแค่บันดาลโทสะที่เขาลามถึงด่าบุพการีของตน จึงก่อเหตุตบสั่งสอน ทั้งนี้ ตนก็ขอโทษผู้บาดเจ็บแล้ว เพราะเมื่อเช้าเคลียร์กันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน แต่เขาก็ไม่ยกโทษให้ตน เขาต้องการแต่เงินเท่านั้น

ขณะที่นางหวัน แม่ของนายณรงค์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคู่กรณีเรียกค่าเสียหายกับครอบครัวตน จำนวน 20,000 บาท ทีแรกตนขอลดเหลือ 2,000 บาท แต่เขาก็ไม่ยอม จึงเสนอให้เป็น 5,000 บาท เขาก็ไม่ยอมอีก เขาบอกเพียงว่าจะเอา 20,000 บาท ถ้าไม่ได้ตามจำนวนดังกล่าว เขาจะไปแจ้งความเอาเรื่องลูกชายของตนให้ถึงที่สุด

"แม่ก็อยากขอความเห็นใจกับคู่กรณี ให้ไหว้ก็ยอม แม่เห็นว่าฝั่งคนเจ็บเขาก็ไม่ได้เจ็บหนัก เลือดก็ไม่มีออกหูตามที่เขาโพสต์ สำหรับลูกชายเวลาเขาดื่มเหล้าจะมีนิสัยขี้โมโห แต่เขาก็ไม่เคยไปทำร้ายใครนะ" นางหวัน กล่าวให้ฟัง 

ด้านนางสาวอรนิภา จำปาทิ ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ในวันที่ 7 ธันวาคม 64 ลูกชายตนได้ยืมรถของนายณรงค์ไปขี่ แล้วลูกชายก็ลืมกระเป๋าเงินไว้ในใต้เบาะรถ มีเงินสดจำนวน 2,800 บาท บัตรประชาชน และบัตรต่าง ๆ ซึ่งก็มีพยานเห็นตอนลูกชายใส่กระเป๋าไว้ในรถของนายณรงค์ แต่นายณงค์ เขาก็บอกว่าเขาจะเอากระเป๋ามาคืนลูกชาย แต่เขาก็ไม่ยอมคืนสักที กระทั่งวันที่ 19 ธันวาคม 64 ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน นายณรงค์ ก็จะมาหาเรื่องลูกชายตน โดยถือแท่งเหล็กมายืนตะโกนที่หน้าบ้าน

ต่อมาวันที่ 20 ธันวาคม 64 นายณรงค์เมามาที่บ้านของตน แล้วมาท้าต่อย เขาพูดกับตนว่า "ถ้าเป็นผู้ชายจะต่อยให้หน้าคว่ำเลย" ตนจึงท้ากลับว่า "เป็นผู้หญิงก็ต่อยได้ ถ้าจะต่อย มาต่อยเลย" ทำให้นายณรงค์ เดินเข้ามาตบที่หูของตน 1 ครั้งอย่างแรงจนหูชาและเจ็บมาก ซึ่งตอนเกิดเหตุก็มีน้องสาวตนถ่ายคลิปเอาไว้ได้ ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตนไปด่าบุพการีเขา ตนขอชี้แจงว่าไม่จริง ตนไม่เคยด่าบุพการีเขาเลย คิดว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชายที่ให้ข่าวแบบนั้น

"เมื่อเช้าพี่และผู้ก่อเหตุก็ไปเคลียร์กันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 20,000 บาท แต่แม่ของผู้ก่อเหตุจะให้แค่ 200 บาท พี่จึงไม่ยอมจึงไปแจ้งความที่ สภ.หนองกรุงศรีแล้ว ในข้อหาพยายามฆ่า บุกรุกเคหะสถาน และทำร้ายร่างกาย" นางสาวอรนิภา กล่าวทิ้งท้าย