ป.ป.ช.บุกรวบรองผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ ตรวจพบรับเงินมาแล้ว 70 คน คนละ 20,000 บาท
วันนี้ (30 เม.ย.67) นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ เป็นค่าย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา รายละ 20,000 บาท หลังจากทราบเรื่องจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อสืบหาข้อมูล หลังข้อมูลครบถ้วนได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ป.ป.ช.ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หลังผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับบุคคลในระดับบริหารของโรงเรียน
ต่อมาได้ลงพื้นที่ดำเนินการจับกุมรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองขอนแก่น เรียกรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียนเพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา เนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนว่า รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใช้อำนาจในตำแหน่งรับสินบนเป็นเงินเพื่อย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา โดยมีการแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 บาท แต่บุตรของตนเองนั้นอ่านออกเขียนได้ จึงลดลงเหลือ 10,000 บาท และต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น และไม่ได้แจ้งว่าเงินที่บริจาคนั้นบริจาคด้านใดให้กับทางโรงเรียน ซึ่งถ้าบริจาคเงินจำนวนนี้จะได้เข้าเรียนที่โรงเรียน
ป.ป.ช.หลังจากที่รับทราบเรื่องร้องเรียน จึงได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทจำนวน 15 ฉบับ รวมเป็นเงิน 15,000 บาท จากผู้เสียหายที่ร้องเรียนมาลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้กับทางรองผู้อำนวยการโรงเรียนตามที่ได้มีการนัดหมาย โดยได้มีการนำเอาธนบัตรจำนวน 10,000 บาท วางไว้ให้รองผู้อำนวยการโรงเรียนตามที่แจ้งไว้ หลังมอบเงินจำนวนดังกล่าวเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่พนักงานชุดจับกุม ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ป.ป.ช. จึงได้เข้าไปห้องทำงานส่วนตัวของรองผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมได้แจ้งสิทธิผู้ต้องหา
โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนรับว่าเป็นเงินที่ผู้ปกครองนำมามอบให้เพื่อบริจาคให้แก่โรงเรียน เจ้าพนักงานจึงได้นำธนบัตรชนิด 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ มาเปรียบเทียบกับประจำวันที่ลงไว้ โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนยอมรับว่าธนบัตรดังกล่าวตรงกับที่ลงประจำวันจริง จากนั้นได้ทำการขอค้นบริเวณโต๊ะทำงานของรองผู้อำนวยการโรงเรียน พบแฟ้มเอกสารการรับเงินจากผู้ปกครองที่นำนักเรียนมามอบตัวในวันต่างๆ และพบรายการบัญชีการจ่ายเงินดังกล่าวจำนวนหลายรายการ
ในส่วนของโรงเรียนดังกล่าว พบว่านักเรียนที่ย้ายในระหว่างปีการศึกษามีประมาณ 70 คน ซึ่งก็จะมีการทดสอบเด็กก่อน ซึ่งถ้าเด็กไม่ผ่านเกณฑ์อ่านออกเขียนได้ ก็จะมีการเรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะ จำนวน 20,000 บาท หากนักเรียนคนดังกล่าวผ่านเกณฑ์ ก็จะมีการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ 15,000 บาท โดยจำนวน 10,000 บาท จะออกเป็นใบเสร็จให้ ในส่วนที่เหลือจะไม่ออกใบเสร็จ และนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งในจำนวนนักเรียน 70 กว่าคนนั้น พบว่ามีประมาณ 60 คนที่จ่ายแป๊ะเจี๊ยะและอีก 10 กว่า คนไม่ได้จ่ายแป๊ะเจี๊ยะ และใช้ความสัมพันธ์กับรองผู้อำนวยการคนดังกล่าว เพื่อเข้าเรียนภายในโรงเรียน
ซึ่งจากล่าสุดทาง ป.ป.ช.ได้ข้อมูลมาพบว่า ขณะนี้ผู้เสียหายถูกกดดันให้กลับคำให้การ นอกจากนี้ยังพบว่าโรงเรียนดังกล่าวนั้น มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง และทาง ป.ป.ช.ส่วนกลาง พร้อมแจ้งข้อหาตามมาตรา 146 และมาตรา 157 หลังจากนั้นก็นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 30 วัน เพื่อนำส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไปและจะมีการแถลงรายละเอียดต่อไป.