กรณีดาบตำรวจสังกัด สภ.เมืองอุดรธานี ขับรถประสบอุบัติเหตุ ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ โดยขับรถชนสุนัขข้างทาง ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สภาพพังเสียหาย ใกล้กับเสาไฟฟ้า ผู้ประสบเหตุ คือ ดาบตำรวจพิบูลย์ สนสายสิงห์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี
ซึ่ง
นางสาวพรพรรณ วิทยายาว ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ตนเปิดร้านขายแจ่วฮ้อนริมฟุตปาธ ก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำความสะอาดโต๊ะ จากนั้นเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรขี่รถจักรยานยนต์ มาจากทางตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี มุ่งหน้าถนนบายพาสอุดรธานี - ขอนแก่น แต่เกิดเหตุชนสุนัข ก่อนเสียหลักล้มลง และรถจักรยานยนต์ไถลมาทางร้านของตน
จากนั้น ตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอนอยู่กลางถนน จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อสังเกตเห็นขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าลูกสะบ้าเข่าหลุดออกจากกัน เหลือแต่เส้นเอ็นเพียงเส้นเดียว และเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุจึงนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ขณะที่โรงพยาบาลขอนแก่น
นางเบญจมาศ สนสายสิงห์ หรือโส อายุ 46 ปี ภรรยาของดาบตำรวจ กล่าวว่า หลังเกิดอุบัติเหตุขึ้น สามีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุดรธานี แพทย์แจ้งว่ามีโอกาสต้องตัดขาทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตของดาบตำรวจ เนื่องจากบริเวณขาขวากระดูกแตกละเอียด แต่ผู้บังคับบัญชารวมถึงญาติ ต้องการให้มีการรักษาขาเอาไว้ ขณะนี้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ภายในห้องไอซียูตลอดเวลา
นางเบญจมาศ กล่าวต่อว่า ตนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น แฟนของตนทำหน้าที่จนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งก่อนจะขับรถออกไปก่อนประสบเหตุนั้น สามีกำลังกินข้าว เมื่อมีคำสั่ง จึงรีบขี่รถออกไปปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ห่วงว่าตัวเองว่าจะกินอิ่มหรือไม่ เห็นหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ด้าน
ร.ต.อ.พืชมงคล ไซยทองพันธ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ในฐานะผู้บังคับบัญชา กล่าวว่า ดาบตำรวจคนดังกล่าวเป็นคนที่ขยัน มีความรับผิดชอบในการปฎิบัติหน้าที่ ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดาบตำรวจพิบูลย์ถือเป็นตำรวจฝีมือดีคนหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างดีเยี่ยม ทำงานดี มีความตั้งใจ และเป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ด้วยกัน
ตนเองได้รับรายงานว่า ดาบตำรวจพิบูลย์ขี่รถโดยมีสุนัขตัดหน้า ซึ่งมีรถของตำรวจที่ขี่มาด้วยกันหักหลบสุนัขได้ทัน แต่รถของดาบตำรวจหลบไม่ได้ จึงเสียหลักล้มลง เป็นเรื่องกระชั้นชิด ส่วนในเรื่องของความเร็ว เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะผู้ปฏิบัติงานขับรถตามปกติ และปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้ อยากให้ดาบตำรวจพิบูลย์รักษาตัว และกลับมาเป็นปกติ มาปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นเดิม โดยได้ประสานงานกับโรงพยาบาลให้ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่
ด้าน
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว หากสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขจรจัด ใครก็ตามที่ให้อาหาร ศาลเคยเคยมีคำสั่งว่า บุคคลผู้นั้นเป็นเสมือนเจ้าของสุนัข จึงต้องรับผิดชอบให้กับครอบครัวของดาบตำรวจท่านนี้ หรือหากใครที่มาโวยว่าสุนัขของตัวเองว่าถูกรถชน ก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยเช่นกัน