กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนพุทธมณฑลสาย 1 โดยมีนายพงษ์ปวีร์ พงษ์หิรัญ อายุ 25 ปี และลูกสาวอายุ 6 ปี ขับรถเก๋งวีออสสีขาว ทะเบียน 5 กฮ 2514 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งเข้าข้างทางชนคนเดินเท้าเสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.มธุรส สมุทรเสน อายุ 25 ปี พนักงานฝ่ายกราฟฟิกบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง ขณะที่กำลังเดินไปทำงาน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ศีรษะแตก แขนและขาหัก
จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวก็พุ่งชนเข้าไปในร้านขายยาง ทำให้ร้านพังเสียหาย ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุได้ภาพจากกล้องวงจรปิด มุมที่ 1 เวลา 08.00 น. จะเป็นภาพกว้างจากมุมสูงของถนนเส้นพุทธมณฑลสาย 1 เป็นทางโค้ง ลงเนินจับภาพรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูง แฉลบไปทางซ้ายพุ่งเข้าไปยังร้านขายของริมทาง
มุมที่ 2 ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านยางขายยางรถยนต์ จับภาพรถเก๋งคันดังกล่าวขับพุ่งชนเข้ามาในร้านอย่างจังเสียงดังสนั่น ข้าวของภายในร้านโดยเฉพาะยางรถยนต์กระเด็นเสียหาย กันสาดร้านตกลงมา เจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงวิ่งออกมาจากห้องพักด้วยความตกใจ ก่อนจะวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพไว้
มุมที่ 3 เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านขายยางรถยนต์ ที่จับภาพออกไปด้านนอกถนน จะเห็นว่ารถเก๋งสีขาวพุ่งเข้าชนด้วยความแรงลักษณะลอยในอากาศ ก่อนจะพุ่งชนเข้ามาที่ร้าน แล้วพลิกคว่ำหงายท้องชนกับต้นไม้ แล้วรถหยุดในสภาพตะแคงขวา หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านในที่เกิดเหตุหลายคนวิ่งมาช่วย
มุมที่ 4 เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านขายยางรถยนต์ เวลา 08.49 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างตัวรถ จนสามารถนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บคือคนขับรถเก๋งสีขาวออกจากรถได้สำเร็จ ก่อนพาขึ้นรถพยาบาลไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ล่าสุดวันที่ 24 ธ.ค.64 นายภูวดล บุญประสิทธิ์ เจ้าของร้านขายยาง เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 08.00 ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างร้านก็เห็นรถเก๋งเสียหลักมาตั้งแต่ระยะ 100 เมตร ก่อนพุ่งจากเลนขวาของถนนมาเลนซ้ายสุดของถนน และชนน้องผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างทาง แล้วพุ่งเข้ามาในร้านชนกับต้นไม้ รถพังยับอยู่ในสภาพตะแคงขวา ตนเห็นคนขับรถเป็นผู้ชายและมีลูกสาวอยู่ภายในรถด้วย แต่ตอนวิ่งไปดูน้องผู้หญิงที่ถูกรถชนนอนแน่นิ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว
"ตอนเกิดเหตุคนขับรถยังพอพูดให้การได้ บอกว่าออกจากบ้านย่านสวนผัก จะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล ขับรถข้ามสะพาน ข้ามถนนบรมราชชนนีด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดซึ่งเป็นทางโค้งรถเสียหลักส่ายไปมา เขาบอกว่าพยายามเหยียบเบรก แต่รถก็ไม่หยุด จึงดึงเบรกมือทำให้รถหมุนจนลูกสาวตกจากเบาะข้าง จึงเอื้อมมือไปคว้าลูกไว้ จากนั้นรถพลิกคว่ำไถลครับ" นายภูวดล กล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสิทธิชัย สมุทรเสน พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเช้าทราบจากที่ทำงานของลุกสาว โทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกสาวถูกรถชนเสียชีวิต ตนจึงรีบเดินทางมาจากจ.ชลบุรี จะมารับลูกสาวกลับบ้านที่จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านเกิด ขณะนี้ตนยังรู้สึกอึ้งพูดอะไรไม่ออก และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไวมาก ๆ ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งโทรศัพท์คุยกับลูกสาวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 64 เพราะว่าอยู่ดี ๆ ก็มี SMS แจ้งมาที่โทรศัพท์มือถือของตน ปรากฏข้อความ "มธุรส สมุทรเสน ได้บริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทยแล้ว" ตนจึงตกใจโทรศัพท์ไปหาลูกสาว เขาก็บอกว่า "เป็นการทำบุญนะพ่อ"
"พ่อก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คุยกับลูกตามปกติถามสารทุกข์สุขดิบ ลูกสบายดี พ่อก็สบายใจ แต่ไม่คิดว่า SMS นี้จะเป็นลางบอกเหตุว่าจะเสียลูกสาวไป มาถึงตอนนี้ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ เรื่องคดีความให้เป็นไปตามกระบวนการ ตอนนี้ก็ยังไม่มีคู่กรณีเข้ามาพูดคุย ส่วนเรื่องการบริจาคอวัยวะก็ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกสาว ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.64) ถึงจะสามารถนำศพลูกสาวออกจากรพ.ศิริราช และจะพาลูกสาวกลับบ้านที่ระยอง เพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป" พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าว
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทของนางสาวมธุรส กล่าวว่า ปกติแล้วผู้ตายจะนั่งรถประจำทางมาทำงาน แล้วลงที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ห่างจากบริษัทประมาณ 200 เมตร โดยจะซื้อของกินก่อนแล้วเดินมาที่บริษัท เมื่อเช้าก็ทราบว่าเพื่อนซื้อของเสร็จกำลังจะเดินไปยังบริษัทเหลืออีกประมาณ 100 เมตรก็จะถึง แต่กลับมาถูกรถชนเสียชีวิตก่อน ตนก็ไม่กล้าไปดูที่จุดเกิดเหตุ ไม่กล้ามองสภาพศพเพื่อน ทนดูไม่ไหว
"ตอนนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะสนิทกับเพื่อนคนนี้มาก เพื่อนเป็นคนที่นิสัยดีร่าเริง แจ่มใส เฮฮา สนุกสนาน อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นคนที่ทำงานเก่ง วันนี้หนูก็ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ตื่นเดินทางมาที่โรงพัก ก่อนเพื่อช่วยจัดการเดินเรื่องเงินประกันสังคม ถือเป็นช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่ทำได้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ" เพื่อนสนิท กล่าว