เปิดใจกระเป๋ารถเมล์ ถูกหยาม “กระจอก” ถึงเป็นสาวห้าว แต่ให้อภัยชายอกสามศอก (คลิป)

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊ก พิริยา เวียงนนท์ โพสต์รูปภาพและข้อความ เหตุการณ์บนรถเมล์สายหนึ่ง วันที่ 3 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 06.40 – 06.50 น. ขณะที่ผู้โพสต์ซึ่งมีอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์ เก็บค่าโดยสาร แต่ไม่มีธนบัตรย่อยทอนเงินให้กับผู้โดยสาร ผู้โพสต์จึงเอ่ยเตือนให้ผู้โดยสารเตรียมเหรียญมาด้วยหากต้องการขึ้นรถเมล์ แต่ต่อมากลับถูกดุด่าด้วยถ้อยคำเหยียดหยาม และใช้มือกดหัว (อ่าน : กระเป๋ารถเมล์เตือนผู้โดยสารให้พกเหรียญ งงถูกกดหัว ซ้ำพูดหยามอาชีพ)

วันที่ 14 ธ.ค. 61 ที่ ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา น.ส.พิริยา เวียงนนท์ อายุ 23 ปี กระเป๋ารถเมล์ ผู้โพสต์คลิป กล่าวว่า วันเกิดเหตุ 3 ธ.ค. 61 ผู้โดยสารขึ้นรถเมล์จากตลาด 200 ปี จากนั้นผู้โดยสารคู่กรณียื่นแบงค์ร้อยมา ขณะนั้นในกระบอกตั๋ว แลกเหรียญไว้ 200 บาท เป็นเหรียญบาท 100 เหรียญ 50 สตางค์ อีก 100 บาท ตนจึงเดินไปเก็บเงินผู้โดยสารคนอื่นก่อน แล้วจะย้อนมาเก็บเงินกับคู่กรณี แต่พบว่าผู้โดยสารรายอื่นให้เหรียญมาพอดี ไม่มีใครให้แบงค์ 20 มาเลย ส่วนเหรียญก็ใช้ทอนผู้โดยสารคนอื่นไปแล้วส่วนหนึ่ง ทำให้มีเงินทอนไม่พอ เพราะหากใช้เหรียญที่มีทอนไปทั้งหมด ก็จะไม่มีเหรียญไว้ทอนผู้โดยสารรายอื่น ตนจึงตัดสินใจไม่เก็บเงินคู่กรณี และให้แบงค์ 100 คืนไป พร้อมกล่าวว่า "วันหลังถ้าขึ้นรถร้อน รบกวนเตรียมเหรียญด้วย" ก่อนจะกลับไปนั่งนับเงินในกระบอกที่เบาะ ตามที่ปรากฏในคลิป

จากนั้น ก่อนที่ผู้โดยสารคู่กรณีจะลงรถก็เดินมาหาตน ใช้มือกดที่หัวตน พร้อมกับพูดว่า "มึงจำใส่หัวสมองของมึงไว้นะ มึงเป็นแค่กระเป๋ากระจอก ๆ ไม่ต้องเ-ือกมาสั่งสอนกู" ก่อนลงรถไป ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ตนจึงเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพะเยา น.ส.พิริยา กล่าวต่อว่า ขณะนั้นยอมรับว่าตกใจกลัวมาก เพราะไม่รู้ว่าตนไปทำอะไรให้โกรธ ถึงขนาดต้องเดินมาด่า ดูถูกตน และอาชีพของตน อีกทั้งเมื่อลงจากรถไปแล้ว ยังหันมาด่าว่า "มึงจำไว้นะ" ตนยอมรับว่าขณะนั้นทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่นั่งเฉย ๆ ก่อนตัดสินใจโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เพราะต้องการเตือนภัยสังคมเท่านั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ติดต่อให้ตนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อติดตามหาตัวผู้โดยสารคนดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการอะไร และไม่รู้ว่าสาเหตุที่คู่กรณีกระทำไปเป็นเพราะความโกรธเท่านั้นหรือไม่

ขณะที่ท่าปล่อยรถ คุณสุรางค์ จริตพันธ์ นายท่าปล่อยรถประจำทางสาย 59 ซึ่งเป็นสายรถเมล์ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตอนแรกที่ตนเห็นคลิปก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกน้องของตนเองที่โดนกระทำแบบนี้ แต่เมื่อสอบถามพูดคุยกัน ลูกน้องบอกว่า วันนั้นชายคนดังกล่าวได้ขึ้นมาบนรถสาย 59 และได้ใช้แบงก์ 100 จ่ายเงิน ซึ่งค่ารถเมล์แค่ 6.50 บาท เท่านั้น กระเป๋ารถเมล์ได้ถามหาเศษเหรียญ และแจ้งว่าอาจจะไม่มีทอน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เก็บเงิน ซึ่งกระเป๋ารถคนดังกล่าว เป็นคนดี ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เรียบร้อย ไม่คิดว่าจะไปมีปากมีเสียงกับใครได้ และเจ้าตัวก็เพิ่งจะบรรจุมาเป็นพนักงานเก็บตั๋วโดยสารได้ ปีกว่า ๆ เท่านั้น สุดท้าย อยากบอกกับผู้โดยสารว่า ให้ใจเย็น ๆ มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดกัน ไม่ต้องลงมือลงมือกับเด็ก และอยากบอกลูกน้องด้วยว่า ตอนนี้ลาพักร้อนก็ให้พักผ่อนให้เต็มที่ กลับมาก็มาทำหน้าที่บริการของตนเองต่อไป ไม่ตอบโต้ผู้โดยสารเป็นสิ่งดีแล้ว