กรณีนางสาวอินทุอร กอหาร อายุ 23 ปี ชาวอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ถูกแทงด้วยมีดมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้ายท่อนบน เลือดไหลนองเต็มพื้นเป็นทางยาวตั้งแต่ห้องพักจนถึงหน้าลิฟต์ ระยะทาง 10 เมตร และตามกำแพงทางเดินยังพบรอยเลือดอีกหลายจุด ก่อนจะพบว่าเสียชีวิต
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ในห้องของผู้เสียหาย หมายเลขที่ 07/11 ชั้น 7 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในห้องพบรอยเลือดจำนวนมากและร่องรอยการต่อสู้ ส่วนที่พื้นห้องพบมีดทำครัวเปื้อนเลือดยาว 1 ฟุต ตกอยู่ข้างเตียง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทางเข้าชั้น 1 เวลาประมาณ 22.00 น. พบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อสีชมพูคล้ายเสื้อคุม ออกไปซื้อของกินเป็นถุงก๋วยเตี๋ยว กับน้ำเปล่าขวดใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 2 นาที และเดินกลับขึ้นลิฟต์ไปห้องพัก โดยในกล้องไม่พบใครเดินตามขึ้นมา และหลังจากเกิดเหตุก็ไม่พบบุคคลต้องสงสัยเดินออกจากคอนโดฯ ทั้งบริเวณประตู ด้านหน้า และทางหนีไฟทั้ง 2 ทาง เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุยังคงหลบซ่อนอยู่ในคอนโดฯ แห่งนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายณัฐวุฒิ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนได้เปิดประตูห้องทิ้งไว้เนื่องจากทำอาหาร จึงอยากให้ระบายลม ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติและไม่พบเห็นว่ามีใครเดินเข้ามาภายในห้องที่เกิดเหตุ จากนั้นแฟนของตนเดินเข้าห้องเวลา 23.20 น. จึงปิดประตูห้อง
ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที พวกตนก็ได้ยินเสียงหญิงชายทะเลาะกัน ผู้หญิงกรีดร้องตนจึงรีบเปิดประตูออกมาดู ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงพยายามลากร่างของตัวเองไปบริเวณที่ลิฟต์เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายเห็นหลังไว ๆ วิ่งไปทางด้านขวาประตูหนีไฟ โดยลักษณะเป็นชายผอมสูงไม่ถึง 170 เซนติเมตร สวมเสื้อสีกรมท่า ผิวคล้ำดำ ที่สำคัญไม่สวมใส่รองเท้า
"ตอนนั้นเห็นน้องผู้หญิงมีเลือดออกครับ เป็นทางยาวจากห้องถึงหน้าลิฟต์ ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปดูก่อน แต่พอเข้าไปก็ไม่กล้าแตะต้องเนื้อตัวของน้อง น้องได้พูดว่าหายใจไม่ออก ๆ ผมจึงรีบโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถพยาบาลมาช่วย หลังจากนั้นก็ทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้วเพราะบาดแผลที่ถูกมีดแทงเข้าไปลึกมากจนถึงกระดูก เห็นว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าตัดเส้นเลือดดำครับ" ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 วันก่อน ก็มีชายลักษณะใกล้เคียงกับผู้ก่อเหตุ เข้ามาที่ห้องของน้องผู้หญิงคนดังกล่าว ตนเห็นว่ามีการใช้กุญแจเปิดประตูห้อง ลักษณะปกติทั่วไป ตนก็คิดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่ม แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกับผู้ก่อเหตุหรือไม่ เพราะคนที่ก่อเหตุไม่สวมใส่รองเท้าและไม่พบรองเท้าอยู่ในห้องของน้องผู้หญิง ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นคนในคอนโดฯ เดียวกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ตนมีโอกาสพูดคุยกับน้องผู้หญิง เคยมีครั้งหนึ่งเขาถามตนว่า "พี่ถูกงัดห้องหรือไม่" ตนก็บอกว่า "ไม่เคยถูกงัดนะครับ" น้องก็บอกตนว่า "หนูถูกงัดห้องมาแล้ว 3 ครั้งค่ะ แต่ไม่ได้มีของหายเลยสักครั้ง" ทีมข่าวจึงไปสอบถามเรื่องนี้กับนิติของคอนโดฯ จึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีข้าวของสูญหาย และก็ยังจับตัวคนก่อเหตุไม่ได้ โดยทางนิติฯ ก็ได้ซ่อมประตูให้ถึง 3 ครั้ง
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายดาวเด่น อินทมนต์ ช่างซ่อมอาคาร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.64) เวลา 23.30 น. ตนได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงเดินออกมาดูก็เห็นหัวคนไว ๆ พ้นออกมาจากระเบียงตึก เป็นน้องผู้หญิงที่อยู่ชั้น 7 ตะโกนเรียกบริเวณหน้าลิฟต์ แต่ตอนนั้นไม่เห็นคนร้าย จึงรีบขึ้นไปบนตึก พอขึ้นไปถึงก็พบว่าน้องผู้หญิงถูกแทงที่ขาซ้ายเป็นแผลใหญ่เลือดออกจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตนสอบถามว่าใครทำ น้องบอกว่า "เป็นคนร้าย หนูไม่รู้จัก เขาบุกเข้าห้องหนู" ขณะนั้นสภาพของน้องผู้หญิงเลือดเต็มตัวเลอะเสื้อผ้าไปหมด หลังจากนั้นตนจึงรีบวิ่งลงไปที่ด้านล่าง เพื่อโทรเรียกเจ้าหน้าที่ให้รีบขึ้นมาช่วย เพราะตอนขึ้นไปบนชั้น 7 พบว่าน้องบอกว่าหายใจไม่ออกแล้วเหมือนจะสิ้นใจเสียชีวิต
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ให้สัมภาษณ์ว่า พบเสื้อของคนร้ายสีน้ำเงินถูกทิ้งไว้ในห้องพักที่ไม่มีคนอยู่ บริเวณชั้น 5 ทิ้งไว้ในชักโครก ส่วนรอยเท้าที่เป็นคราบเลือดของคนร้าย ตรวจพบบริเวณบันไดหนีไฟชั้น 4 ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณชั้น 1 ไม่พบตัวคนร้ายหนีออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าคนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ภายในอาคารแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบที่ท่อน้ำเสีย และแท็งก์น้ำก็ยังไม่พบผู้ก่อเหตุ
"ต้องตรวจสอบห้องพัก ทั้งหมด 244 ห้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่หวังข่มขืนมากกว่าประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะผู้ก่อเหตุไม่ได้นำของมีค่าของผู้เสียหายออกจากห้องพัก และยังพบร่องรอยการต่อสู้กันภายในห้องพักอีกด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้าย ตามที่พยานให้การ"
ทีมข่าวสอบถามว่าคนร้ายมีโอกาสที่จะกระโดดหนีไปทางหน้าต่างของชั้น 2 หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าหากกระโดดหนีคนร้ายต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอนเพราะบริเวณชั้น 2 มีความสูงจากพื้นเกือบ 4 เมตร จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่คนร้ายจะกระโดดหนีออกจากอาคาร และยังได้รับแจ้งจากคนภายในอาคาร เป็นผู้พักอาศัยที่อยู่ชั้น 3 ว่ามีเสื้อที่ตากอยู่หายไป ซึ่งเป็นเสื้อสีเหลือง ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าเปลี่ยนเสื้อแล้วหลบหนี ส่วนรองเท้าตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้อาศัยภายในอาคารว่ามีรองเท้าหายไปหรือไม่
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับเจ้าของห้องพักที่ผู้ตายพักอาศัยอยู่ นายโอ็ต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.64) ตนพยายามติดต่อผู้ตาย เวลา 21.00 น. แต่ผู้ตายไม่รับโทรศัพท์มือถือ ส่วนสาเหตุที่ตนต้องโทรศัพท์ไปหาผู้ตาย เนื่องจากว่าต้องการทวงค่าเช่าห้อง จำนวน 3,500 บาท ซึ่งผู้ตายยังไม่ได้จ่ายค่าห้อง ก่อนหน้านี้ผู้ตายไม่ได้มีปัญหาค่าห้อง ตนมาทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตถูกแทงเมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับแฟนเก่าของผู้ตายอยู่อีกตึกหนึ่ง โดยพักอาศัยอยู่กับแฟนใหม่แล้ว และตนก็ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับแฟนเก่าของผู้ตายแล้ว เขาก็บอกว่าไม่ได้ติดต่อกันมาร่วม 6 เดือนแล้ว
ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามกับน.ส.อ้อน อายุ 22 ปี ผู้ที่พบเจอกับคนร้าย ซึ่งมีห้องพักอยู่ที่ชั้น 6 โดยห้องพักของน.ส.อ้อน อยู่ใกล้กับทางหนีไฟ น.ส.อ้อน กล่าวว่า เมื่อคืนตอนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงดังชุลมุน จึงวิ่งออกมาจากห้อง และเผชิญหน้ากับคนร้ายพอดี คนร้ายมีลักษณะผอม ผิวสีแทน ส่วนสูงไม่ถึง 170 เซนติเมตร อายุ 30 ปีขึ้นไป ผมสั้น สวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีดำ ที่เสื้อเปื้อนเลือด ที่ศีรษะมีคราบเลือดคล้ายหัวแตก ไม่สวมรองเท้า เดินเท้าเปล่า บริเวณขาพบว่ามีคราบเลือดเต็มไปหมด
"ตอนนั้นหนูไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย จึงสอบถามว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น คนร้ายก็ไม่ตอบอะไร พอดีจังหวะนั้นแฟนของหนูเดินเข้ามาพอดี คนร้ายจึงรีบวิ่งลงบันไดหนีไฟ ยืนยันว่าจำได้ว่าคนร้ายคนนี้เคยนั่งอยู่ที่บันไดหนีไฟ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว หนูเห็นว่าคนร้ายกำลังเสพยาเสพติดอยู่บริเวณชั้น 8 ตอนนั้นหนูกับเพื่อนกำลังจะขึ้นไปดูชั้นดาดฟ้า พอเห็นผู้ชายคนนี้นั่งเสพยาอยู่จึงรีบออกมา" น.ส.อ้อน กล่าว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีการปิดล้อมพื้นที่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กองพิสูจน์หลักฐาน มีการตรวจสอบห้องพักภายในคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ อาคาร B2 จำนวน 244 ห้อง โดยมีการตรวจสอบเน้นหนักที่ชั้น 7 จากนั้นได้มีการตรวจสอบชั้นที่ 3-6 เป็นเป้าหมายต่อมา แต่หากมีการตรวจสอบครบถ้วนแล้วจึงจะขยายผลตรวจสอบชั้น 1-2 และ 8-10 ต่อไป โดยเหตุผลที่ต้องมีการตรวจสอบเน้นที่ชั้น 3-7 นั้น เนื่องจากพบหลักฐานเป็นรอยเท้าเปลื้อนเลือดของคนตาย เชื่อว่าเป็นของผู้ต้องสงสัย แต่หลังจากที่พ้นชั้น 3 ไม่พบร่องรอยของรอยเท้า เจ้าหน้าที่จึงคาดการณ์ว่า คนร้ายอาจหลบอยู่ภายในอาคาร แต่อีกข้อสมมติฐาน คือ แอบออกจากอาคารด้วยทางหนีไฟ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาววิกานดา (นามสมมติ) ผู้เช่าอาศัยภายในคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.64) เวลาประมาณ 23.50-23.55นาที ตนได้ยินเสียงคนวิ่งลงมาจากบันได แต่ฟังไม่ชัดว่ามีรองเท้าสวมใส่หรือไม่ หรือเป็นการวิ่งเท้าเปล่า แต่ได้ยินเสียงวิ่งด้วยน้ำหนักลงเท้าเสียงดัง พอวิ่งลงมาถึงบริเวณชั้นล่างผลักประตูหนีไฟเสียงดัง
หลังจากที่ได้ยินเสียงคนวิ่งลงจากบันได และเปิดประตูหนีไฟเสียงดัง ผ่านไปประมาณ 15-20 นาที ก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาที่เกิดเหตุ เสียงคนเต็มประตูหนีไฟ และเต็มบันได ตนจึงได้เปิดประตูออกไปดูพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเต็มหน้าห้อง แต่ก็ไม่ได้ถามว่าเกิดอะไร ตนเพิ่งจะมารู้ว่าเกิดเหตุคนถูกแทงตายที่ชั้น 7 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตนเคยขึ้นไปสำรวจที่ห้องชั้น 5 ห้องเดียวกันกับที่ตำรวจพบเสื้อผู้ต้องสงสัยทิ้งอยู่ในชักโครก ห้องดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นห้องทิ้งร้าง เจ้าของไม่ได้อาศัย เชื่อว่าคนก่อเหตุอาศัยห้องดังกล่าวในการหลบซ่อนระหว่างที่จะก่อเหตุหรือไม่
ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิด บันทึกภาพหันไปทางด้านประตูหนีไฟของคอนโดฯ ที่เกิดเหตุ โดยเป็นประตูหนีไฟฝั่งขวา จุดที่คาดว่าคนร้ายสามารถวิ่งหนีออกไปได้ ในภาพก็ไม่พบผู้ก่อเหตุหลบหนีมาทางประตูหนีไฟ หรือวิ่งข้ามรั้วมาแต่อย่างไร แต่พบว่าช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วงเวลา 23.26 น. มีสุนัขตัวหนึ่งสีน้ำตาล พยายามเห่าอยู่หลายนาที โดยการเห่านั้นจะหันหน้าไปทางรั้วซึ่งเป็นประตูหนีไฟของคอนโดฯ กระทั่งเวลา 23.37 น. ผ่านไป 10 นาที ก็พบว่ารถกู้ภัยเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ
เวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบบางส่วนได้ถอนกำลังออกมาจากตัวอาคาร โดยได้มีการวางแผนและดูทิศทางสำหรับเส้นทางหลบหนี โดยคาดการณ์ว่าผู้ก่อเหตุอาจจะไม่ได้อาศัยอยู่ภายในตึกแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าจะแอบออกประตูหนีไฟเพราะจุดดังกล่าวกล้องวงจรปิดเก็บภาพไปไม่ถึง หรือมีความเป็นไปได้ว่าตัวของคนก่อเหตุ เคยใช้อาคารสถานที่ และรู้ว่าห้องไหนไม่มีคนอยู่ อาจอาศัยงัดห้องชั้น 2 เพื่อตัดสินใจปีนลงมาจากตัวตึก ซึ่งความสูงของหน้าต่างระหว่างชั้น 2 กับพื้น ห่างประมาณ 5-6 เมตร
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางสาวมนัสชนก นาขำ ญาติผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนไม่ได่ติดดต่อกัน มีแต่น้องติดต่อแม่ บอกจะไปหาแม่ 2-3 วันที่แล้ว ปกติน้องทำงานอยู่โกดังคลังสินค้าและอยู่คนเดียว ไม่ทราบว่ามีใครมาหาบ้าง และยังไม่เคยมาหาน้อง มีแต่ถามว่า "อยู่ที่นี่กับใคร" น้องบอกอยู่คนเดียว เท่าที่คุยกับแม่น้อง น้องเคยบอกว่าห้องโดนงัด แต่ทรัพย์สินไม่ได้หาย แต่ยังไม่ได้ย้ายออก ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้ไว ๆ เพราะเป็นอันตรายกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในคอนโดฯ ส่วนศพพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.64) ตนจะเดินทางมารับกลับไปทำพิธีที่จังหวัดนครปฐม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพิชญา บุญมี แม่ค้าขายน้ำปั่นใต้คอนโดฯ ที่ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า เมื่อ 3-4 วันก่อน มีชายคนหนึ่งรูปร่างผอม ผิวสีแทน ผมหยักศก พูดไทยไม่ค่อยชัด คาดว่าน่าจะเป็นชาวเมียนมา มาซื้อน้ำชาเขียว สวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เหมือนว่ามาทำงานก่อสร้างห้องพักในคอนโดฯ แต่ตนก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่ชายที่เห็นคนนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ใช่ลูกค้าประจำ เพิ่งจะเดินทางมาจากต่างถิ่น แต่วันนี้ตนก็ไม่พบเห็นชายคนนี้
"ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะผู้เสียชีวิตเป็นลูกค้าประจำ เขาชอบมาซื้อน้ำปั่น ที่ผ่านมาพี่ก็เห็นน้องมาซื้อเพียงคนเดียว ไม่ได้มีแฟนหรือเพื่อน" แม่ค้าขายน้ำปั่น กล่าวให้ฟัง
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.อินทุอร โดยมีนายวิชัย นาขำ และนางสมหมาย นาขำ ตายายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากพ่อแม่ของเขาเสียชีวิต ตนก็เลี้ยงดูหลานสาวมาตั้งแต่ยังเล็ก จากนั้น น.ส.อินทุอร ก็ไปทำงานที่ กทม. แต่ฝากลูกวัย 5 ขวบไว้ให้ตนเลี้ยง เพิ่งไปอยู่เป็นหลักแหล่งประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ หลานสาวก็จะติดต่อกลับมาหาครอบครัวเสมอ ๆ ส่งเงินมาให้เป็นระยะ มีเพียงปีนี้ไม่ได้ส่งเงินให้เพราะสถานการณ์โควิด-19
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร B2 คอนโดมิเนียม เมืองทอง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางพลี โดยภายหลังการประชุมหารือ เบื้องต้นทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งลายนิ้วมือ DNA ลายเท้า ให้ละเอียด เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องสงสัยคือผู้ก่อเหตุหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับแล้ว มือแทงสาว 23 ดับคาคอนโดย่านบางพลี พบอาศัยตึกเดียวกัน
