เป็นอีกหนึ่งข่าวที่สุดแห่งปี 64 เนื่องจากค่อนข้างสร้างความรู้สึกสะเทือนใจให้กับคนในสังคม จากคลิปกลุ่มเมียหลวงยกพวกบุกรุมทำร้าย นางจิราวรรณ อายุ 39 ปี เพราะฝั่งเมียหลวงอ้างว่าเธอไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว ก่อนจะมีคลิปของเธอถูกจับแก้ผ้าเปลือยล้อนจ้อน และถูกรุมทุบตีจนกะโหลกศีรษะแตกร้าว ร่างกายช้ำบวมอย่างหนักแล้ว ซ้ำถูกด้ามไม้กวาดแทงทะลวงเข้าไปในอวัยวะเพศ
โดยเหตุดังกล่าวเกิดวันที่ 21 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ภายในห้องพักของรีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากบริเวณ 5 แยกนาพรุ ในเขตพื้นที่หมู่ 3 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราชมากนัก กระทั่งเวลา 20.30 น. ของวันที่ 23 มี.ค.64 นางจิราวรรณ เสียชีวิตท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวและญาติ ๆ
เเม้ในทางการแพทย์ผลการชันสูตรจะออกมาเเล้วว่า นางจิราวรรณ จะไม่มีร่องรอยบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ หรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายเเต่อย่างใด แต่ในมุมมองของฝั่งผู้เสียหาย ก็ยังยากที่จะทำใจยอมรับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักภายในครอบครัว
ล่าสุดวันที่ 28 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงเดินทางไปที่ร้านขายเสื้อผ้าของนางสาวจิรษา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ลูกสาวของนางจิราวรรณ ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
นางสาวจิรษา เปิดเผยว่า ตั้งเเต่ตนเสียเเม่ไปก็ต้องอยู่เพียงลำพัง จึงตัดสินใจย้ายบ้านมาที่อำเภอทุ่งสง เพื่อมาเปิดร้ายขายเสื้อผ้า เเละหาเงินดูแลน้องชาย อายุ 19 ปี โชคดีที่ยังมีญาติ ๆ คอยช่วยดูแลตน นอกจากนี้พ่อเเท้ ๆ ของตนที่เลิกรากับเเม่ที่อยู่ที่อำเภอฉวาง ก็คอยช่วยส่งเงินมาให้ตนเเละน้องชายใช้จ่ายด้วย
สำหรับสภาพจิตใจดีขึ้นมากเเล้ว เริ่มทำใจได้บ้าง เเต่ตนก็ยังคงคิดถึงเเม่ จากตอนเเรกที่มีเเม่ดูแล เเต่มาในวันนี้ตนต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลตัวเองเเละน้องชาย ตนจึงอยากให้คดีเเละเรื่องทุกอย่างจบลงโดยเร็ว เเละอยากให้คู่กรณีเข้ามาพูดคุยเรื่องการเยียวยา ต่างฝ่ายจะได้ไปกลับใช้ชีวิตของตัวเองเสียที
ในขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดราษฏร์ประดิษฐ์ ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายชาย (นามสมมติ) อายุ 54 ปี ญาติของนางสาวจิรษา ได้พาทีมข่าวมาดูบริเวณด้านหลังวัดที่มีเจดีย์เก็บอัฐินางจิราวรรณ ก่อนที่นายชายจะพาทีมข่าวเดินไปดูที่เเท่นปูนซีเมนต์ ขนาดความสูงประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร บริเวณด้านหน้า มีช่อดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาตามกาลเวลาวางไว้ พร้อมกับกระถางธูป
แต่ทว่าก็ยังมีความจริงอีกด้าน จากฝั่งคู่กรณีนางจิราวรรณ ทีมข่าวจึงได้เดินทางมาที่อำเภอพระพรหม ได้พบกับ น.ส.ยุพา หรือ แข้ง อายุ 55 ปี ภรรยาของนายบูรณ์ เเละน.ส.จิรนันท์ อายุ 33 ปี ลูกสาวของนางยุพา
“ที่ผ่านมายากลำบากมาก ๆ งานรับเหมาก่อสร้างที่เคยมีคนจ้าง ทุกอย่างถูกยกเลิกหรือชะลอไปแทบทั้งหมด จากงานที่เคยมี รายได้หายไปเกินครึ่ง ไหนจะของวัสดุต่าง ๆ ที่ซื้อมาเพื่อจะทำงาน ก็ถูกกองกันไว้” น.ส.ยุพา กล่าวตัดพ้อ
เมื่อถามว่าผ่านมา 10 เดือน งานกลับมาบ้างหรือไม่ น.ส.ยุพา กล่าวต่อว่า งานยังกลับมาได้ไม่เต็มร้อย และด้วยสถานการณ์โควิด-19 ตนก็กลัวจะติดจากคนงานด้วย เเละที่สำคัญครอบครัวของตนเพิ่งจะหายจากโควิด-19 มาได้ 2-3 เดือน ช่วงที่ผ่านมาตนก็ต้องหางานรับจ้างทั่วไป โชคดีที่มีลูก ๆ คอยช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่นำมาดูแลแม่ของตน
“ตอนนั้นสภาพจิตใจคนในครอบครัวย่ำเเย่มาก ๆ ลูกหลาน รวมถึงเเม่เครียดมาก ๆ จนเป็นอัมพฤกษ์ จากคนที่เคยเดินได้กลายเป็นป่วยติดเตียง เเต่ก็คิดมาเสมอว่าเราไม่ผิด เพราะไม่ได้ไปทำอะไรเขา ตอนนี้สภาพจิตใจก็เริ่มดีขึ้นบ้าง เริ่มมีคนเข้าใจมากขึ้น” น.ส.ยุพา กล่าวให้ฟัง
น.ส.ยุพา กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครที่ด่าหรือที่ดูข่าวบางทีเขาก็อยากจะได้คำอธิบาย แต่เมื่อตนอธิบายไปบางคนก็เข้าใจ แต่บางคนก็ไม่เข้าใจ จนถึงตอนนี้ตนก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือเเตะต้องตัวนางจิราวรรณ เเม้เเต่น้อย แต่ตนยอมรับว่ามีเพียงโทรศัพท์เเละเสื้อผ้าของนางจิราวรรณ ที่ตนเป็นคนเผาทำลายด้วยความโมโห ตนจึงถูกเเจ้งข้อหา 3 ข้อหา 1.ทำให้เสียทรัพย์ 2.ลักทรัพย์ 3.ทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายแก่กายเเละจิตใจ